บันทึกจากลูกสาว

“My father didn’t tell me how to live.
He lived and let me watch him do it.”

เนยรวบรวมสิ่งที่ป๊าทำให้เนยสนใจการลงทุน รวมไปถึงการใช้ชีวิตค่ะ ป๊าเริ่มต้นจาก

สร้างแรงจูงใจในการลงทุน

เนยได้รับของขวัญวันรับปริญญาเป็นเงินฝากก้อนนึง ตอนนั้นคิดไว้ว่าจบมาอยากเรียนต่อถึงปริญญาเอกเพื่อเป็นอาจารย์ แล้วเงินส่วนนี้ก็อยากจะเอาไปต่อยอดทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดอย่างสถาบันกวดวิชา พอได้คุยไอเดียนี้กับป๊า ป๊าก็คุยให้ฟังว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วมันไม่เวิร์คเนี่ย เราจะไม่สามารถเปลี่ยนกลุ่มธุรกิจในทันทีทันใดได้ ทุนก็จะจมตรงนั้นสักพัก

แต่ถ้าเราเล่นหุ้นคือการที่เราเอาเงินไปลงทุนในธุรกิจที่คาดว่ากำไรจะเติบโตต่อไป แล้วถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิด ก็ขายแล้วเลือกลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ได้ ป๊าเลยให้ลองซื้อหุ้นตาม แล้วมีเงื่อนไขว่าห้ามขาย จนกว่าจะรู้ว่าการลงทุนในหุ้นคืออะไร

ช่วงนั้น เนยก็สอนพิเศษไปด้วยแล้วออมเงินไว้ในบัญชีธนาคาร เลยเกิดการเปรียบเทียบกันระหว่างการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและฝากเงินในบัญชีธนาคาร ผลตอบแทนจากหุ้น เลยเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เนยอยากศึกษา แล้วหาเงินมาลงทุนค่ะ

ปล่อยให้หาเงินลงทุนด้วยตัวเอง

ทีนี้เนยก็คิดว่า เราควรจะทำยังไงให้เงินทุนเราเพิ่มดี เพราะบางทีเราเห็นโอกาสว่าหุ้นจะขึ้น แต่ไม่มีเงินซื้อ แน่นอนว่าเราเป็นนักเรียนนักศึกษา หน้าที่หลักของเราคือการเรียน ผลลัพธ์ของการตั้งใจเรียน คือเราจะมีความรู้และมีเกรดเฉลี่ยที่ดี การมีเกรดดี ทำให้เราสามารถขอทุนเรียนได้ พอได้ทุนมา ทางครอบครัวก็ให้ค่าเทอมเนยตามปกติ เงินส่วนที่ได้เพิ่มมาเลยเอามาลงทุนในอีกพอร์ตค่ะ

เนยพยายามทำทุกอย่าง ทั้งการสอนพิเศษในวิชาที่ถนัด ส่วนนี้เนยสอนวันเสาร์-อาทิตย์ช่วงเช้า และช่วงบ่ายก็แบ่งเวลามาทบทวนบทเรียนของตัวเอง แถมเปิดเพจขายของด้วยค่ะ เป็นกระเป๋าตัวเองที่ไม่ได้ใช้แล้วและก็เปิดบูทขายสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ตามงานต่างๆ ซึ่งการขายของออนไลน์มีข้อด ีคือ เราแพคของตอนเย็น แล้วเอาไปส่งช่วงพักเที่ยงได้ ไม่รบกวนเวลาเรียนเท่าไหร่

เนยรู้ว่าหาเงินอย่างเดียวไม่พอ เราต้องรู้จักประหยัดค่าใช้จ่ายถึงจะทำให้มีเงินเก็บมากขึ้น และสุดท้ายต้องเก็บออมเป็นสัดส่วนเอาไว้ด้วยค่ะ

ให้คำปรึกษาพร้อมกับเรียนรู้ไปด้วยกัน

การที่เรามีเพื่อนที่ไปไหนไปกัน มันทำให้อุ่นใจมากๆ เราไปนู้นไปนี่กัน เจอปัญหาที่เหมือนกัน นั่งคุยและแก้ไขมันไปด้วยกัน ปะป๊าจะเป็นเหมือนเพื่อนที่พาไปติวหุ้น ที่ร้านกาแฟอร่อยๆ ทุกที่เลยค่ะ แถมชวนไปงานสัมมนาที่ไหน ก็ว่างตลอด ทั้งๆ ที่ต้องเปิดคลินิค แต่ก็ยังแบ่งเวลามาให้ ส่วนนี้เลยทำให้เนยรู้สึกว่าไม่ได้เดินในเส้นทางนี้คนเดียวค่ะ

สนับสนุนและให้กำลังใจ

พอเริ่มมีความรู้ในระดับนึง ป๊าก็ช่วยเป็นลมพยุงใต้ปีกของเครื่องบินลำนี้ ให้เคลื่อนที่ได้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างที่เห็นในข้อความที่ป๊าพิมพ์มาค่ะ ส่วนนี้ทำให้เนยรู้สึกมีกำลังใจ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าเป็นยังไง ตลาดหุ้นไม่ได้ง่ายเหมือนที่เนยคิดเอาไว้เลยค่ะ ในช่วงที่เริ่มต้น ไม่มีใครรู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง เนยรู้สึกว่ากำลังใจจากครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เวลาที่เราท้อ หรือผิดหวังจากสิ่งที่หวังเอาไว้

สอนให้อ่อนน้อมและเป็นคนดีในสังคม

เรื่องนี้ปะป๊าเน้นย้ำมากๆ ค่ะ ป๊าจะบอกว่าต้องถ่อมตน นอบน้อม เคารพผู้ใหญ่ และรับฟังความคิดเห็นคนอื่นอยู่เสมอ ต้องรู้จักแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่น และทำตัวเองให้มีคุณค่าในสังคม แล้วสิ่งดีๆ จะติดตัวเราตลอดไปค่ะ