เหรียญย่อมมีสองด้าน ดังนั้นการมาของฟินเทคนอกจากทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายขึ้นแล้ว ในเวลาเดียวกันเทคโนโลยีก็อาจทำให้คนในวงการการเงินต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อสอดรับการเปลี่ยนแปล และก่อนที่จะถูกกระแสของ Digital Disrupt กลืนหาย เราไปดูกันว่าจะมีตำแหน่งอะไรบ้างที่ต้องไหวตัวให้ทัน

พนักงานหน้าเคานเตอร์ธนาคาร..เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันธนาคารเกือบทั้งหมดได้พัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นในการทำธุรกรรมการเงิน เบสิคที่สุดคือการถอนการโอนเงินกันเกือบหมดแล้ว และกำลังจะเพิ่มบริการขอสินเชื่อบนออนไลน์เข้ามาอีก

ธนาคารพาณิชย์ยังมีแนวโน้มที่จะลดจำนวนสาขาลงเรื่อยๆพนักงานที่ทำหน้าที่ทั่วไปโดยไม่มีใบวิชาชีพจึงมีแนวโน้มที่จะอยู่ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางเลือกทางรอดของพนักงานเหล่านี้ก็คือ การพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถในการบริการที่หลากหลายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การมีใบอนุญาตให้คำแนะนำและขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตกองทุนรวม

แม้จะเริ่มมีกระแสของการให้บริการคำปรึกษาออนไลน์ หรือ Robo Advisor แต่ยังต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอีกพอสมควรเพราะเรื่องที่มีความซับซ้อนลูกค้ายังมีความเชื่อใจในตัวบุคคลมากกว่า

เจ้าหน้าที่การตลาดประจำบริษัทหลักทรัพย์..ปัจจุบันการซื้อขายหุ้นได้ย้ายไปอยู่บนช่องทางออนไลน์มากขึ้น ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นแต่เป็นกระแสทั่วโลก

เจ้าหน้าที่การตลาดหรือมาร์ที่คอยรับคำสั่งจากลูกค้ามีบทบาทลดลงอย่างมาก หน้าที่เหลือเพียงแค่การดูแลลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น ส่วนลูกค้ารายเล็กเริ่มหันไปใช้ฟินเทคด้านการลงทุน ใช้แอพลิเคชั่นสแกนหุ้นต่าง ๆ มาเป็นตัวช่วยมากขึ้น ดังนั้นโอกาสที่ลูกค้ากลุ่มนี้จะไปใช้บริการเจ้าหน้าที่การตลาดจะยิ่งลดน้อยลง และไม่นับรวมแนวโน้มของการเทรดหุ้นที่จะเป็นแบบส่งคำสั่งความเร็วสูงหรือ HFT หรือAuto Trade มากขึ้น การที่จะใช้คนส่งคำสั่งจะยิ่งน้อยลงอย่างแน่นอน

แม้กระทั่งผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ขึ้นชื่อว่ามีค่าตัวสูงและอยู่ในระดับสูงสุดของบุคลากรด้านการลงทุน ก็ยังมีโอกาสถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่จะมาตัดสินใจในการซื้อขายหุ้นแทนด้วยซ้ำ

ฝ่ายบัญชีและวิเคราะห์สินเชื่อบุคคลขั้นต้น..แม้จะเป็นงานที่เริ่มมีความซับซ้อน แต่อนาคตบุคลากรทางด้านการบัญชีและวิเคราะห์สินเชื่อก็มีโอกาสถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน

โดยขั้นต้นจะนำระบบมาใช้กลั่นกรองข้อมูลพื้นฐานก่อน จากนั้นถึงจะส่งต่อให้บุคลากรระดับสูงเป็นผู้วิเคราะห์ต่อไป องค์กรขนาดใหญ่อย่าง PWC ก็เริ่มเตรียมการศึกษาเพื่อจะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบบัญชีขั้นต้นเช่นกัน

ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินหรือฟินเทค ก็สามารถนำ Big Data หรือข้อมูลพื้นฐานลูกค้ามาใช้ในการวิเคราะห์การพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วด้วย

เห็นได้ชัดว่าพนักงานในอุตสาหกรรมการเงินทั่ว ๆไปที่ไม่มีความชำนาญพิเศษใด ๆนั้นมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกเทคโนโลยีการเงินเข้ามาแทนที่ จึงควรพัฒนาทักษะฝีมือให้มีความพิเศษเหนือกว่าเทคโนโลยีเพื่อที่จะยังคงอยู่รอดได้โดยไม่ถูก Digital Disrupt

Source : กรุงเทพธุรกิจ

ที่มา : http://daily.bangkokbiznews.com/detail/311017