News Update: ARK ไล่ซื้อ ช่วยดันหุ้น Robinhood วันเดียวพุ่ง 50% ในสัปดาห์เดียวบวกแล้ว 100%

หุ้น Robinhood พุ่งขึ้นอีกในวันพุธ (4 ส.ค.) โดยราคาพุ่งขึ้นมา 50.4% ในวันเดียว ปิดที่ $70.39 และในสัปดาห์เดียวปรับตัวขึ้นกว่า 100% โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ $85 ในระหว่างวันการซื้อขายมีการหยุดพักจากความผันผวนหลายครั้ง 

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุใดราคาหุ้น Robinhood ถึงปรับตัวขึ้นแรง แต่วันที่ 2 ส.ค. Ark Invest ได้ทำการซื้อหุ้น Robinhood จำนวน 89,622 หุ้น ผ่านกองทุน ARK Fintech Innovation ETF (ARKF) ประมาณการมูลค่าอยู่ที่ 4.2 ล้านดอลลาร์ (อ้างอิงราคาหุ้นที่ $46.80) 

นั่นหมายถึง Ark Invest ได้ซื้อหุ้น Robinhood ทั้งหมด 3.15 ล้านหุ้นแล้ว นับตั้งแต่ Robinhood เข้าสู่ตลาดหุ้นสัปดาห์ก่อน และความสนใจจากนักลงทุนชื่อดังเป็นประโยชน์ต่อหุ้นที่เริ่มเติบโต

John Heagerty จาก Atlantic Equities มีมุมมองบวกต่อหุ้น Robinhood และได้ตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ $65 และกล่าวว่า ARK เดิมพันก้อนใหญ่ ทำให้นักลงทุนรายย่อยอยากมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน

John Heagerty เสริมว่า ไม่ใช่เรื่องปกติที่หุ้นขนาดเล็กแบบนี้จะพุ่งขึ้นได้ไวขนาดนี้ นอกจากจะถูกกำหนดโดยนักลงทุนสถาบัน

Robinhood ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมีราคา IPO อยู่ที่ $38 แต่ได้ปรับตัวลดลง 8% ในการซื้อขายวันแรก และกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 24% ในวันที่ 2 ส.ค.

ก่อนหน้านี้ Robinhood ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยที่ใช้ Robinhood ซื้อขายหุ้นที่เป็นกระแส Short Squeeze ใน Reddit สื่อสังคมออนไลน์ของสหรัฐฯ มีหุ้นหลายตัวที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น เช่น GameStop และ AMC Entertainment แต่ความผันผวนทำให้นักลงทุนสายชอร์ตขาดทุนหนัก

Vlad Tenev CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Robinhood ได้ปกป้องนักลงทุนรายย่อยใน Reddit ว่า ปรากฏการณ์นี้ทำให้บริษัทที่มีปัญหาสามารถเข้าถึงเงินทุนที่พวกเขาไม่มีได้

Vlad Tenev มองว่ามีลูกค้าที่รักบริษัทเหล่านี้ และต้องการให้บริษัทเติบโต โดยหุ้นที่เป็นกระแส meme จะได้รับทุนเพื่อสามารถจ้างกลุ่มผู้บริหารที่ดี และวางแผนอนาคตต่อไปได้    

Stephanie Link หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนจาก Hightower กล่าวว่า แม้รายได้ของ Robinhood ในไตรมาสที่ 2 จะเติบโต 5-10% จากไตรมาสแรก แต่ข้อมูลการชำระเงินสำหรับคำสั่งซื้อนั้นลดลง 23% ในไตรมาส 2 โดยมองว่านักลงทุนคริปโทฯ อาจช่วยให้คำสั่งซื้อของ Robinhood เพิ่มขึ้นได้

ที่มา: CNBC

——————-
👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน