จับตาผลการประชุม Fed วันที่ 2-3 พ.ย. นักเศรษฐศาสตร์คาด Fed เริ่มทำ QE Taper เดือนนี้ และจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงต้นปี 2023 ท่ามกลางความกังวลด้านเงินเฟ้อ

4 ประเด็นที่ต้องจับตา และผลสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์ที่รวบรวมโดย Bloomberg

🏦 คาดเริ่มทำ QE Taper เดือนนี้

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะประกาศเริ่มทำ QE Taper ในการประชุมครั้งนี้ หลังเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed แถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่า 2 ใน 3 ของเจ้าหน้าที่ Fed ต้องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรในเดือน พ.ย. ขณะที่ 1 ใน 3 มองว่าควรเริ่มในเดือน ธ.ค.

โดย Fed จะเริ่มลดวงเงินในมาตรการ QE จากวงเงินปัจจุบันที่ 120,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อจำนองค้ำประกันเดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์

35% ของนักเศรษฐศาสตร์มองว่า Fed จะเร่งดำเนินการและทำให้ QE Tapering สิ้นสุดภายใน 7 เดือน หรือเร็วกว่านั้น ขณะที่อีก 51% มองว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นใน 8 เดือน

การสิ้นสุด QE Tapering ได้เร็วขึ้น จะทำให้ Fed มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเจ้าหน้าที่ Fed ส่วนใหญ่ต้องการให้ QE Tapering เสร็จสิ้นก่อนดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

🏦 คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกต้นปี 2023

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในต้นปี 2023 ขณะที่บางส่วนมองว่า Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกภายในปี 2022 โดยเสียงส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะได้เห็น อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ภายในสิ้นปี 2024 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ในเดือน ก.ย. ที่ 1.5%

🏦 ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

Fed อาจกล่าวว่า เงินเฟ้อจะคงอยู่นานกว่าที่คาดและเป็นมากกว่าเรื่องชั่วคราว อย่างไรก็ตาม คาดว่า Fed จะยืนยันไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าตลาดแรงงานจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มที่ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า Fed จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราการว่างงานลดลงเหลือ 4%

เจ้าหน้าที่ Fed เริ่มมีมุมมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนมากขึ้น โดย 41% ของนักเศรษฐศาสตร์มองว่า เงินเฟ้อจะยังอยู่ในความสมดุล ขณะที่อีก 45% มองเงินเฟ้อเป็นความเสี่ยงด้านลบ

Elisabet Kopelman นักเศรษฐศาสตร์จาก Skandinaviska Enskilda Banken AB กล่าวว่า ความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อที่สูงและนานเกินไป รวมถึงเป้าหมายของ Fed ที่ขัดแย้งกัน คือสิ่งที่ตลาดกำลังจับตามอง

🏦 ตำแหน่งประธาน Fed

การประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจเกี่ยวกับการแต่งตั้งประธาน Fed สมัยถัดไป เนื่องจากวาระของ เจอโรม พาวเวลล์ จะสิ้นสุดลงในเดือน ก.พ.

79% ของนักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า โจ ไบเดน จะเลือก เจอโรม พาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธาน Fed สมัยที่ 2 ในขณะที่ อีก 13% มองว่า เลอัล ไบรนาร์ด สมาชิกพรรคเดโมแครต และอดีตปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ จะได้ดำรงตำแหน่งประธาน Fed คนต่อไป

——————-