สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อไทยเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 5.73% สูงสุดในรอบ 13 ปี เหตุได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าต่างๆ ที่แพงขึ้น พร้อมปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีนี้อยู่ที่ 4-5%

สนค. รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือน มี.ค. อยู่ที่ระดับ 104.79 เพิ่มขึ้น 5.73% จากปีที่แล้ว และ 0.66% จากเดือนที่แล้ว ส่งผลให้เงินเฟ้อในไตรมาสแรกของปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 4.75%

สาเหตุหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นมาจากราคาที่เพิ่มขึ้นของ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ พลังงาน ค่าไฟฟ้า และอาหาร

➢ กลุ่มพลังงาน +32.43% โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง +31.43%
➢ ค่ากระแสไฟฟ้า +39.95%
➢ อาหาร: ผักสด +9.96%, เนื้อสัตว์ +5.74%, ไข่ไก่และผลิตภัณฑ์นม +6.08%

สำหรับในเดือนเม.ย. มีความเป็นไปได้ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะสูงขึ้นอีก จากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวน และไปเพิ่มต้นทุนของสินค้าหลายรายการ

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับขึ้นปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 อยู่ที่ 4-5% จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 0.7-2.4% ภายใต้สมมติฐานว่า

1) เศรษฐกิจขยายตัว 3.4-4.5%
2) ราาคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ $90-110 ต่อบาร์เรล
3) อัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาทต่อดอลลาร์

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์

——————-