News Update: ฟองสบู่ใกล้แตกแล้ว ระวัง S&P 500 ถล่ม 48% Grantham ตำนานนักลงทุนเตือนหายนะ หนีหุ้นสหรัฐฯ ไปญี่ปุ่นและสินทรัพย์ปลอดภัย

Jeremy Grantham นักลงทุนระดับตำนานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ GMO ที่เคยทำนายฟองสบู่ตลาดหุ้นแตกมาแล้วหลายครั้ง กล่าวว่าภาวะฟองสบู่ที่เขาเคยคาดการณ์ไว้เมื่อปีก่อนกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว และนี่จะเป็นการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์ที่ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวลงถึง 50% ที่แม้กระทั่งการแทรกแซงจาก Fed ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้

เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) Jeremy Grantham กล่าวว่า หุ้นสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ขั้นรุนแรง และจะกลายเป็นวิกฤตการเงินครั้งที่ 4 ในรอบทศวรรษ ตามรอยวิกฤตปี 1929 2000 และ 2008 โดยฟองสบู่ที่กำลังจะแตกจะพาดัชนีอ้างอิงที่อยู่ในระดับสูงเกินไปกลับสู่สภาวะปกติ

ตัวเลขคาดการณ์ของ Jeremy Grantham คือดัชนี S&P 500 จะปรับตัวลงมา 48% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. สู่ระดับ 2500 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ซึ่งปรับตัวลงมาแล้ว 8.3% ในเดือนนี้จะร่วงแรงกว่านี้อีก ซึ่งตอนนี้เขารู้สึกมั่นใจมากกว่าตอนที่คาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้วเสียอีก

สัญญาณแรกของฟองสบู่เกิดขึ้นในช่วงปลาย ก.พ. ปี 2021 หลังหุ้นเก็งกำไรจำนวนมากเริ่มปรับตัวลงมา เริ่มจากกองทุน ARKK ของ Cathie Wood ที่ปรับตัวลงมาแล้ว 52% ตามมาด้วยการลดลงของดัชนีหุ้นขนาดกลางอย่าง Russell 2000 ที่มักมีผลการดำเนินงานโดดเด่นในช่วงตลาดกระทิง

ปัจจัยที่ Jeremy Grantham มองว่าคือนี่ระยะสุดท้ายของฟองสบู่คือ พฤติกรรมบ้าระห่ำของนักลงทุน อย่างกระแสหุ้นมีม ความคลั่งไคล้ในการซื้อหุ้นรถยนต์ไฟฟ้า กระแสเหรียญ Dogecoin หรือการประมูลเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์ใน NFTs

“เช็คลิสต์ครบทุกข้อแล้ว ดังนั้นฟองสบู่สามารถแตกได้ทุกเมื่อ” Jeremy Grantham เสริมว่า เมื่อมุมมองลบของนักลงทุนกลับสู่ตลาด สหรัฐฯ จะเผชิญกับการร่วงแรงครั้งประวัติศาสตร์

Jeremy Grantham ยังกล่าวอีกว่าภาวะฟองสบู่ไม่ได้อยู่แค่ในตลาดหุ้น แต่ยังอยู่ในตลาดตราสารหนี้อีกด้วย นอกจากนี้ตลาดอสังหาฯ​ ทั่วโลกกำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ที่ขยายวงกว้างที่สุด ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยคาดว่าแค่การสูญเสียในสหรัฐฯ ประเทศเดียวก็อาจแตะ 35 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว

ภายใต้สถานการณ์นี้ พอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยสัดส่วนหุ้น 60% และตราสารหนี้ 40% แทบจะไม่มีประโยชน์เลย โดยคำแนะนำของ Jeremy Grantham คือขายหุ้นสหรัฐฯ แล้วไปลงทุนในหุ้นมูลค่าต่ำกว่าอย่างหุ้นญี่ปุ่นและตลาดเกิดใหม่ รวมถึงแนะนำให้ถือทองคำและซิลเวอร์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และถือเงินสดไว้บางส่วนเพื่อรอจังหวะซื้อเมื่อราคาน่าสนใจ

อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-01-20/grantham-doubles-down-on-crash-call-says-selloff-has-started?sref=e4t2werz

——————-

👍 อย่าลืมกดไลก์ Page The Opportunity เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสด้านการลงทุน