มุมมองการลงทุน

Outlook

• เศรษฐกิจสหรัฐฯ – ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มผ่อนคลายลงหลังจากที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงทางการค้า โดยจะลดภาษีสินค้านำเข้าภาษีระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน
• ขณะเดียวกัน ผลประกอบการ Q1/2025 ของกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวและศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มอย่างแข็งแกร่ง
• อย่างไรก็ดี นักลงทุนเริ่มปรับมุมมองว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาดไว้ 3 ครั้ง เนื่องจาก Fed ส่งสัญญาณที่จะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย โดยจะยังประเมินตัวเลขเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ
• เศรษฐกิจจีน –นักวิเคราะห์หลายสถาบันคาดการณ์ เศรษฐกิจจีนปี 2025 มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น จากความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลจีน
• เศรษฐกิจไทย –กนง.มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนพ.ค. 2025 โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลง จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และตัวเลขนักลงเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวตามคาด อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้พยายามสนับสนุนเศรษฐกิจในภาพรวม โดยมีมติเห็นชอบในการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ในช่วงเดือนพ.ค.ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ให้กับตลาดหุ้นไทยในระยะข้างหน้า

Strategy

• ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากปัจจัยบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้หุ้นหลายกลุ่มปรับตัวขึ้นแรงในช่วงนี้ เราจึงมองเห็นถึงจังหวะในการขายทำกำไรเพื่อปรับสมดุลพอร์ต โดยจะยังติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดหุ้นโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อหาโอกาสการลงทุนใหม่

Portfolio Action

• ลดสัดส่วนการลงทุนใน TISCOEU-A และ TVIETNAM เพื่อขายทำกำไร (Take Profit) หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับมูลค่าพื้นฐาน (Valuation) เริ่มตึงตัว ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามก็ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา เราจึงต้องการลดความเสี่ยงและนำเงินที่ได้ไปพักไว้ในตราสารหนี้ระยะสั้น TBOND1Y เพื่อรอจังหวะลงทุนในสินทรัพย์อื่น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นโลกในปัจจุบัน
• ลดสัดส่วนการลงทุนใน TGREIT และเพิ่มการลงทุนใน TGOLD เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตลงทุน โดยทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่เหมาะสมกับภาวะตลาดที่มีความผันผวนในช่วงนี้
• ดู Fund Fact Sheet กองทุนที่เพิ่มน้ำหนัก/ปรับเข้า : TBOND1Y, TGOLD

Performance Review

ผลตอบแทนพอร์ตกองทุนนับจากวันที่ 23 เม.ย.  จนถึง 21 พ.ค. 2025 ปรับขึ้น +3.47% และนับจากต้นปี พอร์ตปรับลดลง -0.37%

• Contributor:
  
  • • ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลก (TISCO Global Quality Equity Fund) เป็นกองทุนที่หนุนพอร์ตกองทุนมากที่สุด โดยอันดับที่ 2 คือ กองทุนยุโรป (TISCO Europe Equity Fund) และอันดับที่ 3 คือ กองทุนหุ้นจีน H-Shares (TISCO China H-Shares Equity Fund)
• Detractor:

• • • สำหรับช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองทุนตราสารหนี้โลก (TISCO Global Bond Fund) ปรับตัวลงมากที่สุด เนื่องจาก Bond Yield ปรับตัวลดลง หลังจากที่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น

ที่มา: บลจ. ทิสโก้ วันที่ 23 พฤษภาคม 2025

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299