
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวผันผวนอย่างมากในเดือนเมษายน ดัชนีร่วงลงแรงในช่วงต้นเดือนสู่ภาวะ Extreme Fear หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้คู่ค้าทั่วโลกด้วยอัตราที่สูงกว่าคาด โดยเฉพาะกับจีนที่ถูกขู่เรียกเก็บในอัตราสูงถึง 145% ในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ตลาดฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งหลังของเดือน หลังจากทรัมป์ประกาศชะลอการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศส่วนใหญ่ออกไป 90 วัน (แต่ยังคงภาษีขั้นต่ำ 10% และอัตราภาษีในระดับสูงกับจีน) รวมถึงมีท่าทีประนีประนอมมากขึ้นในการเจรจาการค้ากับหลายประเทศ เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ เวียดนาม และส่งสัญญาณผ่อนปรนภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และรถยนต์ ปัจจัยเหล่านี้ ประกอบกับผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปฟื้นตัวได้ แต่โดยรวมความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงเปราะบางจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า
แม้เศรษฐกิจจีนจะแสดงสัญญาณฟื้นตัว โดย GDP ไตรมาส 1/2568 เติบโตดีกว่าคาดที่ 5.4% YoY ได้แรงหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ตลาดยังเผชิญความเสี่ยงสำคัญจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ และจำกัดการส่งออกแร่หายาก แม้ภายหลังจะมีท่าทีพร้อมเจรจา และมีรายงานว่าอาจมีการยกเว้นภาษีให้สินค้าสหรัฐฯ บางรายการอย่างเงียบๆ ความไม่แน่นอนที่สูงทำให้เรายังคงแนะนำ Wait-and-see สำหรับตลาดหุ้นจีน แม้จะเห็นพัฒนาการเชิงบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นการบริโภคมากขึ้น
สงครามการค้าและการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดในเดือนเมษายน ทรัมป์ใช้กลยุทธ์กดดันทางการค้าอย่างหนักในช่วงต้นเดือน ก่อนจะผ่อนท่าทีลงและหันมาเน้นการเจรจา โดยมีการเปลี่ยนตัวแทนเจรจาหลักเป็น รมว. คลัง Scott Bessent ซึ่งส่งสัญญาณบวกไปยังคู่ค้าที่ไม่ใช่จีน การเจรจามีความคืบหน้ากับหลายประเทศ โดยเฉพาะอินเดียที่ดูเหมือนจะเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในการคานอำนาจจีน แม้สหรัฐฯจะประกาศเก็บภาษีแผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ประเทศอาเซียนรวมถึงไทย แต่ภาพรวมผลกระทบต่อ GDP ประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ (ยกเว้นจีน) ดูผ่อนคลายลงจากการประเมินในตอนแรก ขณะที่การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนมีความคืบหน้าแต่ยังคาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก ความไม่แน่นอนเหล่านี้ยังสนับสนุนการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ, หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มการแพทย์
แนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกยังมีความแตกต่าง เฟดเผชิญแรงกดดันโดยตรงจากทรัมป์ให้ลดดอกเบี้ย แต่ผู้ว่าการพาวเวลล์ยังส่งสัญญาณไม่รีบปรับเปลี่ยนนโยบายท่ามกลางความผันผวนของนโยบายการค้า แม้ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ล่าสุดจะออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อยก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยในเดือนเมษายนแต่ยังผันผวน ขณะที่ ECB ดำเนินการลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดหลังเงินเฟ้อปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความผันผวนของ Bond Yield ที่ยังอยู่ในระดับสูง เราจึงยังคงแนะนำกองทุนตราสารหนี้ที่มีกลยุทธ์ Absolute Return เช่น ES-ALPHABONDS เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต
ภาพรวมการลงทุนในเดือนพฤษภาคม 2568 คาดว่าตลาดจะยังคงผันผวนต่อไปจากประเด็นสงครามการค้าที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แม้จะมีสัญญาณผ่อนคลายลงบ้างในช่วงปลายเดือนเมษายน เราเริ่มมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ในระยะกลางถึงยาว จากความเชื่อที่ว่าท้ายที่สุดทรัมป์จะดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนสหรัฐฯ ประกอบกับผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีที่ยังแข็งแกร่ง เราแนะนำให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ใช้จังหวะย่อตัวทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ และกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นที่มีความเสี่ยงจากสงครามการค้าจำกัด หรือมีความคืบหน้าในการเจรจา เช่น ยุโรป และเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย ขณะเดียวกัน การคงสัดส่วนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ, หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มการแพทย์ ยังคงจำเป็นเพื่อบริหารความผันผวน สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย การลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนที่มีกลยุทธ์ Absolute Return ยังเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอยู่
ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง วันที่ 7 พ.ค. 2025
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >> แอปฯ Finnomena ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ Finnomena สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนใน Eastspring Dynamic Opportunities (ES-DO) คลิกที่นี่เพื่อสร้างแผนการลงทุน
โปรดทราบ สำหรับลูกค้าฟินโนมีนาที่ลงทุนใน Finnomena Port และได้รับบทความนี้ แต่ยังไม่ได้รับอีเมลและ/หรือ Notificationในการแจ้งสัดส่วนเงินในการเข้าลงทุน อาจเกิดจาก
1) ท่านอยู่ระหว่างการทำรายการซื้อขายกองทุน ซึ่งทางฟินโนมีนาจะแจ้งเตือนอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการทำรายการซื้อขายเสร็จสิ้น 2) ท่านมีจำนวนเงินลงทุนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่แนะนำ หมายเหตุ หากท่านไม่ประสงค์ที่จะรอรับการแจ้งเตือน ท่านสามารถดูรายละเอียดของพอร์ตการลงทุนที่แนะนำผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของฟินโนมีนาพร้อมปรับพอร์ตเข้าลงทุนได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID: @FINNOMENAPORT |
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนการลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด หรือ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299