เมื่อผู้บริโภคเริ่มกลับมามีกำลังซื้อ เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ กองทุนอะไรที่จะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้? คำตอบคงจะหนีไม่พ้นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มข้าวของเครื่องใช้และบริการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งกอง KFGBRAND-A จาก บลจ.กรุงศรี เป็นกองทุนที่โดดเด่นในกลุ่มนี้

สรุป LIVE ประจำวันที่ 24 ส.ค. 63 จะมาเจาะลึกกันว่าทำไมกองทุน KFGBRAND-A ถึงน่าลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบัน ทำไมกองนี้ถึงโดดเด่นกว่ากองอื่น พร้อมอัปเดตตลาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ฟังกันเหมือนเดิม เชิญติดตามได้ในบทความครับ

Market Wrap Up

– ยอดขายบ้านมือสองเด้งกลับมาที่ระดับเดียวกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด สะท้อนว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาแล้ว เพราะปกติคนจะไม่ซื้อแค่บ้านแน่นอน แต่ต้องมีเงินซื้ออย่างอื่นเข้าบ้านด้วย

existing home sales

– นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น สังเกตจากตัวเลขการกู้เงินมาลงทุน (Margin Debt) สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลัก S&P 500 ทำ New High

margin debt increase s&p 500

– ตัวเลข Real Yield (เส้นสีขาว) ยังคงสูงขึ้น รวมกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำ (เส้นสีเหลือง) เลยได้รับความกดดันในช่วงนี้

real yield gold price

– งบหุ้นจีนทั้ง Alibaba และ Meituan (แพลตฟอร์ม Delivery) ประกาศมาดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นไม่ขึ้นตาม ส่วนหนึ่งเพราะยังมีความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้เหมือนจีนจะมียอดซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ ไม่ถึงเป้าตามที่ตกลงในเฟส 1

china usa trade war phase 1

เจาะลึก KFGBRAND-A กองทุนน่าสนใจในช่วงนี้

กองทุน KFGBRAND-A ย่อมาจาก Global Brand เป็นกองทุนที่ลงทุนในแบรนด์ดังพื้นฐานดีทั่วโลก ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคโดยตรง เป็นกองทุนที่กำลังจะได้เปรียบกลุ่มอื่นในสถานการณ์ปัจจุบัน

kfgbrand-a finnomena

ลงทุนในอะไรบ้าง

กองทุน KFGBRAND-A ลงทุนในกองแม่ Morgan Stanley Investment Fund – Global Brands Fund ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Consumer Staples, Information Technology และ Healthcare เป็นส่วนใหญ่ โดยใช้วิธีการเลือกหุ้นแบบ Bottom Up ทำให้ได้หุ้นที่มีความแข็งแกร่งของงบสูง ครองส่วนแบ่งการตลาด ส่งผลให้ทนทานและฟื้นตัวจากวิกฤติได้เป็นอย่างดี

kfgbrand-a finnoomena

kfgbrand-a finnoomena

ปัจจัยสนับสนุน 

1. มีการใช้นโยบายการคลังมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิดเยอะมาก สูงกว่าวิกฤตซับไพร์มตอนปี 2008 หลายเท่าตัว ซึ่งมาตรการตัวนี้ช่วยดึงกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับมาอีกครั้ง

economic stimulus covid-19 subprime

2. ตลาดแรงงานเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ตัวเลขผู้ติดเชื้อ Wave 2 ของสหรัฐฯ ลดลง และตัวเลขการขอสวัสดิการว่างงานก็ลดลงเช่นกัน

initial jobless claim decrease

3. P/E ของหุ้นกลุ่ม Consumer Staples ที่กอง KFGBRAND-A ไปลงทุนยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ได้เปรียบในการเข้าซื้อ

p/e consumer staples

4. หุ้นที่ KFGBRAND-A ไปลงทุนทั้งกลุ่ม Consumer Staples, Information Technology และ Healthcare ปรับตัวลงไม่มากและฟื้นตัวได้ไวกว่ากลุ่มผู้แพ้ในช่วงที่ผ่านมา

ปัจจัยเสี่ยง

สำหรับความเสี่ยงในการลงทุนช่วงนี้ยังหนีไม่พ้น 3 เรื่องใหญ่ๆ ที่ยังไม่แน่นอน ได้แก่ Trade War ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ, วัคซีนรักษาโควิด และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งทีมงานของ FINNOMENA มีการติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดและจะมารายงานให้นักลงทุนทราบอย่างแน่นอน

trade war vaccine usa elections 2020

สรุป

กองทุน KFGBRAND-A เป็นกองที่น่าสนใจในการลงทุนระยะยาว Long Term กองหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงออกมาจากหุ้นเทคฯ เพราะมี Correlation ระหว่างกันที่ต่ำ ซึ่ง FINNOMENA ก็มีการปรับพอร์ตลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ เพื่อล็อคกำไรไว้บางส่วน และเพิ่มสัดส่วนกองนี้เข้าไปเพื่อลดความผันผวนในพอร์ตเช่นกัน

เขียนโดย TUM SUPHAKORN