FPGA คืออะไร? ทำไม AMD จึงรีบซื้อ Xilinx?

บทความนี้จะกล่าวถึงความสำคัญของ FPGA ต่อเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเฉพาะในส่วน Data Center, 5G และ Edge Computing

หลายท่านอาจเห็นข่าว Nvidia ซื้อ ARM และคิดว่าเป็นดีลที่สุดยอด… ถัดมา AMD จึงไม่ยอมน้อยหน้า รีบคว้า Xilinx บริษัทชั้นนำที่สุดด้าน FPGA จัดเป็นข่าวใหญ่เช่นกัน ผลลัพธ์คือตลาดไม่ชอบเท่าไหร่นัก งงว่าซื้อมาทำไม ซื้อแพงรึเปล่า และพวกเราก็จะงง ๆ หน่อยว่ามันคืออะไร ดีอย่างไร วันนี้จะเล่าให้ฟัง

สรุปให้ก่อนเลยว่า FPGA ในอนาคตนั้นจะช่วยผลักดันเทคโนโลยีของ AMD ไปอีกระดับได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าและต่อยอดได้เลยคือ การรุกตลาด Data Center, 5G และ Edge Computing ได้ เพราะมันคือตลาดหลักของ FPGA ในปัจจุบัน

FPGA คือชิปรูปแบบหนึ่ง (บทความนี้ขอข้ามว่า มีชิปกี่ประเภท อะไรบ้าง) ย่อมาจาก Field Programmable Gate Array… หากดูจากชื่อ ทำความเข้าใจผิว ๆ เผิน ๆ มันคือชิพที่ Program ได้นั่นเอง และมักจะถูกใช้เป็น Prototype จนกว่าบริษัทจะผลิต ASICs ชิปเฉพาะเพื่อใช้งาน สำเร็จ

FPGA คืออะไร ?? ทำไม AMD จึงรีบซื้อ Xilinx?

หากเราสังเกตจากการนำไปใช้งาน จะพบว่ามันมี คุณสมบัติที่สำคัญ 3 อย่างด้วยกัน

1. Flexible
2. Parallelism
3. Reliability

จริง ๆ มีมากกว่านี้อีก คัดมาเน้น ๆ

หากพูดถึงเรื่องของ AI นั้น ทุกท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่า Cost Efficient ที่สุดในปัจจุบัน จะใช้ GPU เป็นตัวประมวลผลหลัก เจ้าตลาดคือค่ายสีเขียว Nvidia นั่นเอง

น่าเสียดายว่า นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นบน Data Center หากเราไปวางไว้บนรถยนต์ไร้คนขับสักอัน คุณคงไม่สามารถเอา Liquid-Cooled Nvidia GPU-Based Box $20,000 ไปติดไว้ในรถยนต์ได้ ธุรกิจก็คือธุรกิจ

การนำไปใช้งานจริง ๆ จึงต้องอิงกับเรื่องขนาด และการประหยัดพลังงานด้วย เราเรียกส่วนของการทำให้ AI ฉลาด ว่า Training และเรียกส่วนของการนำ AI ไปใช้งานว่า Inferencing และเรียกการประมวลผลที่รถยนต์ไร้คนขับว่า Edge Computing

Nvidia จึงพัฒนาชิปที่ Cost x Power x Size Efficient มากขึ้น ให้เหมาะสมกับการไปใช้ตรงรถยนต์มากขึ้น เช่นเดียวกัน ตลาดนี้เองก็มีชิปอื่นเข้ามาแข่งได้ ชิปตระกูลนี้ก็คือ FPGA นั่นเอง โดยคนที่ไปแข่งมีทั้ง Xilinx, Altera, Lattice ครบทีมหลัก 3 เจ้าใหญ่ครองตลาด

ซึ่ง FPGA นี้เองมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่าในหลาย ๆ จุด (เดิมคนเชื่อแบบนั้น แต่มาวันนี้ก็ยังไม่ชัดเจนครับ)

คุณสมบัติที่ว่านั้น ทำให้ FPGA เองก็เป็นคู่แข่ง Nvidia ที่สำคัญใน Data Center ด้วย แต่จะใช้กับงานหนัก ๆ Data ล้น ๆ ไปเลยครับ คือ Parallism ทั้ง Spatial และ Temporal… ส่วนรายละเอียดทาง Dev+Data Architect นั้น ช่างมันเถอะ ให้ไปรออ่านที่ Investic นะ ว่างก็เขียนให้

โดยงานหลัก ๆ เช่น Real Time Image Processing … ฟังดูเหมือนเหมาะมากที่จะอยู่ตรงกล้องรถยนต์ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องเนอะ

ตัวอย่างที่น่ารักเข้าใจง่ายกว่า คือใช้เก็บรูป ใน Data Center จ้าาา… เพราะการเก็บรูปทื่อ ๆ คงจะไม่ฉลาดนัก จึงมักมีการ Resize เพื่อให้เก็บได้เยอะ ๆ และ Resize คืนเวลาแสดงผล (หรือไม่ก็ ผมนี่ละไม่ฉลาดพอในเชิง Dev เพราะไม่ใช่ Data Engineer) งาน ซ้ำ ๆ ไม่ยากเกินไป แต่เยอะมหาศาลและต้องทำพร้อม ๆ กัน งงคิวน่าดู แบบนี้ ใช่เลยครับ

ดังนั้น FPGA จึงสามารถมาใช้ที่จุดนี้ได้ดีทีเดียว อีกทั้งยังโปรแกรมไปใช้ได้หลายแบบ จึงเป็นชิ้นส่วนสำคัญในรถยนต์ไปแล้ว

นี่ไม่ใช่ข้อดีเพียงอย่างเดียว อย่าลืมว่าแต่ยังมีคุณสมบัติที่ดีในเรื่องความเสถียร และโปรแกรมได้ จึงนำไปใช้อย่างกว้างขวางในการ Deploy 5G

ยกตัวอย่าง Massive Mimo, Beamforming, Network Slicing จะเกิดขึ้นได้ยาก หากไม่ได้อยู่บนโครงสร้างของ FPGA

หรือการ Reconfig ค่าของอุปกรณ์ Network ที่เสา 5G จะได้ไม่ต้องคอย ถอดใส่เปลี่ยนชิปให้วุ่นวาย (เค้าบอก ถอดใส่ทีละเกือบชั่วโมง)

เราจะเห็นว่า AMD ได้ซื้อเทคโนโลยีดี ๆ เข้าพอร์ตไปพัฒนาต่อ เพราะ Xilinx จัดเป็น High End ทางด้าน FPGA ราคาแพง เน้นใช้กับของล้ำ ๆ

AMD จะนำเทคโนโลยี FPGA ไปผสมกับสินค้าเดิมของเขาหรือไม่? หรือเปิด Product Line ใหม่ไปทาง 5G กันนะ? หรือ Edge Computing กันนะ แบบนี้ไหลไปได้ถึงรถยนต์ ดาวเทียม ผมว่าโอกาสมีอีกมากต่อจากนี้

ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่ Xilinx นั้นเจาะธุรกิจ Data Center อยู่เหมือนกันก่อนจะโดนซื้อ ดังนั้น ในเชิงธุรกิจ ก็ไปด้วยกันได้ !! Leverage กันได้

ป.ล. เกร็ดความรู้ Intel ก็มีหน่วยที่ทำ FPGA นะครับ คือ Altera ซื้อมาในปี 2015

BottomLiner

ที่มาบทความ: https://bottomliner.co/stock/fpga-amd-buy-xilinx/