2 ทางแยกประเทศที่ มี/ไม่มี วัคซีนโควิดใช้

ประเทศผู้นำในการแจกวัคซีนอย่าง สหรัฐ, UK, อิสราเอล ต่างเร่งเปิดเศรษฐกิจให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ ยกตัวอย่างเช่น หลายเมืองในสหรัฐจัดงานรวมตัวกันโดยไม่ต้องมีการสวมหน้ากากอีกต่อไป และแนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่ก็ลดลงต่อเนื่อง

ธุรกิจท่องเที่ยวหรือกิจกรรมที่ถูกผลกระทบจากโควิดใน 3 ประเทศนี้เริ่มวางแผนรับลูกค้าที่คาดว่าจะมี Demand ที่ถูกอั้นไว้มหาศาลถูกปลดปล่อยออกมา

แต่อีกกลุ่มประเทศที่ไม่มีวัคซีนใช้กำลังเจอโควิดเล่นงาน และอาจสร้างปัญหาระบบการแพทย์สูงกว่าปีที่แล้วด้วย

เช่นในบราซิลที่มีวัคซีนใช้น้อย ล่าสุดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่ที่ราว 85,000 คน สูงที่สุดตั้งแต่โควิดระบาดมา ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,500 คนต่อวัน สูงสุดเช่นกัน (มีแนวโน้มที่ตัวเลขจริงจะสูงกว่านี้มาก) โดยเหตุผลที่น่าสนใจคือคนจำนวนมากไม่ได้สนใจแล้วว่าโควิดยังระบาดอยู่และคิดว่ามีวัคซีนแล้วเดี๋ยวการระบาดก็จะลดไปเอง เรื่องนี้แม้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจบ้างแต่อาจมีหายนะทางการแพทย์รออยู่

Timeline การได้วัคซีนของประเทศส่วนใหญ่จะเป็นครึ่งปีหลัง แต่เศรษฐกิจที่เสียหายหนักในปีที่แล้วทำให้รัฐบาลหลายประเทศไม่กล้าประกาศ lockdown อีกต่อไป (แม้จะคุมผู้ติดเชื้อไม่อยู่) แต่จุดที่น่าสนใจคือถ้าผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นจนโรงพยาบาลเต็มความจุ (หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตจะพุ่งขึ้นแรงมาก ๆ) ถึงตอนนั้นแล้วรัฐบาลจะ lockdown ไหม ? หรือจะปล่อยแล้ว ?

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในไทยหลัง “วันสงกรานต์” เป็นเรื่องที่ต้องติดตามมาก ๆ

วิธีวัดว่าคนไทยแทบไม่ได้สนใจเรื่องโควิดแล้วก็คือโพสต์นี้คนจะไม่ค่อยอ่านกัน

2 ทางแยกประเทศที่ มี/ไม่มี วัคซีนโควิดใช้

BottomLiner

ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/1366426383372492/posts/4389890267692740/

iran-israel-war