ผ่านไปเกือบ 1 เดือน นับตั้งแต่บทความก่อนที่เขียนเกี่ยวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่สำคัญรวมทั้งหุ้นไทยในบทความ วิเคราะห์ด้วยกราฟ กับ 12 ตลาดสำคัญของโลก
วันนี้ผมนายวีคิด เทรดเดอร์พ่อลูกอ่อน ขออัพเดทกราฟกันอีกที พร้อมเพิ่มกราฟที่น่าสนใจมาอีก 2 กราฟ รวมเป็น 13 + 1 กราฟครับ (ทำไมต้อง +1 เดี๋ยวลองติดตามดู)..
มาเริ่มกันแบบภาพกว้างๆ กันก่อนน่ะครับ..มาคุยสินค้า 13 ชนิด 13 กราฟ กับ 1 กราฟแสดง funds flow ของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยกัน
ครั้งนี้ time-frame (TF) ที่ใช้ดูคือ DAY (1 แท่งเทียน = 1 วัน)
indicator หลักๆที่ใช้ในการวิเคราะห์มี 2 ตัวครับ
EMA (Exponential Moving Average) เส้น ema 10 (เส้นเหลือง) ema50 (เส้นสีเขียว) และ ema200 (เส้นสีแดง) ครับ
MACD เส้นนี้ใช้ดู Momentum ของสินค้าตัวนั้นๆครับ ว่ากำลังอยู่ในทิศทางใด
กราฟทั้งหมดอัพเดทมาช่วงเวลาตลาดปิดแล้วของวันที่ 6 พฤษภาคม 2559 น่ะครับ
มาดูกันว่าสินค้าต่างๆ มีอะไรกันบ้างดีกว่า
US DOLLAR INDEX
ตัวนี้หลายๆคนใช้เป็นตัวดูทิศทางของ fund flow ว่าเงินกำลังจะไหลเข้าสู่ สินทรัพย์มีความเสี่ยง (risk asset) หรือไม่มีความเสี่ยง (safe-haven) โดยเรามักจะเชื่อกันว่า US Dollar หรือค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐ นั้น เป็นสินทรัพย์ไม่มีความเสี่ยง จึงมักจะเป็นที่สนใจในการซื้อเก็บไว้ ในงามที่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มจะไม่ดี
จากกราฟจะเห็นได้ว่า ดัชนีตัวนี้ ไม่หลุดเส้น ema200 วัน มาราวๆ 2 ปี ซึ่งนั่นหมายถึงการแข็งค่าของเงินดอล์ล่าห์ ทำให้ค่าเงินสกุลอื่นเทียบกับดอล์ล่าห์อ่อนค่าลงสวนทางกัน จึงอาจจะเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นหลายๆที่รอบโลกมีการปรับฐานกันเยอะ รวมถึงตลาดหุ้นบ้านเรา
ที่น่าสนใจคือ จากกรอบหมายเลข 3 ที่ดัชนีได้หลุดเส้น ema200 วันลงมา จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า ทิศทางกระแสเงิน ได้ย้ายออกจาก US Dollar ไปลงในสินทรัพย์อื่น เช่น ทองคำ พันธบัตร และตลาดหุ้น ก็เป็นไปได้
จากกราฟอีกเช่นกัน US Dollar Index กำลังอยู่บริเวณเส้นแนวรับสำคัญมากๆ (เส้นประสีฟ้า) หากหลุดต่ำกว่านี้แรงๆ เราอาจจะเห็นแรงเก็งกำไรในสินทรัพย์อื่นเช่น ตลาดหุ้น หรือ ทองคำ แต่ถ้าดัชนีสามารถประคองเหนือบริเวณนี้ได้ ก็ให้ระวังแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์อื่นๆที่เชื่อมโยงกันกับ US Dollar Index ครับ
หลายๆคนไม่ค่อยให้ความสนใจกับ US Dollar Index กัน แต่ส่วนตัวผมอยากแนะนำว่า จับตาตัวนี้ดีๆ หากเกิด Big Move ขึ้นมาใน US Dollar Index นี่ เขย่าขวัญตลาดทุกประเภททั่วโลกได้เลยครับ
SPOT GOLD (ทองคำ)
ทองคำ…เช่นเคยครับ ลืมเปลี่ยนเส้น ema อีกแล้ว ฮ่าๆ สำหรับทองคำนั้น ema200 คือเส้นสีเขียว น่ะครับ ema50 คือเส้นสีแดง
กราฟทองคำนี่ ย้ำแล้วย้ำอีกตั้งแต่บทความเรื่อง จะผิดมั๊ย..ถ้ากราฟมันฟ้องว่า “ทองคำกำลังจะเป็นขาขึ้นรอบใหญ่อีกครั้ง” ที่เขียนไว้เมื่อสองเดือนที่แล้ว ว่ามีโอกาสสูงมากที่ทองคำจะวิ่งแรง
ตอนนี้จากกราฟอย่างที่เห็นกันครับ ชัดมากว่าทองคำสามารถ “เบรกและยืน” เหนือเส้นแนวต้านสำคัญๆได้หมดแล้ว ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
แนวรับสำหรับราคาทองคำ ผมให้ความสำคัญกับเส้น ema50 วันที่บริเวณ 1230 USD/Oz ครับ เส้นนี้ลงมาไม่หลุดหลายรอบแล้ว ถ้าหลุดก็ไม่ควรมี สถานะ Long ในทองคำ แต่ถ้าไม่หลุด ก็คือการย่อเพื่อไปต่อ
แต่ ณ ปัจจุบัน เราคงต้องหวังให้ทองขึ้นไปยืนเหนือ 1300 USD/Oz ครับ
ราคาทองคำอาจจะมีการปรับฐานได้ จากสัญญาณ Bearish Divergence ที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ MACD ยังไม่สามารถเบรกได้ ต้องระวังกันนิดนึงครับ สำหรับคนที่คิดจะ Long ในทองคำช่วงนี้
ค่าเงินบาท ( THB/USD)
เช่นเดียวกับ US Dollar Index กราฟค่าเงินบาทก็กำลังอยู่ในช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ครับ
สังเกตเส้นประสีน้ำเงินสองเส้นน่ะครับ คือเส้นแนวรับ-แนวต้าน นั่นเอง หากค่าเงินทะลุเส้นใดเส้นนึงได้ จะมีผลต่อดัชนีหุ้นไทยและ fund flow อย่างแน่นอน
อีกข้อนึงคือ ค่าเงินบาท ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น หลุดเส้น ema200 วันครั้งแรกในรอบ 1 ปี พอดี
ปี 2015 -> ค่าเงินเบรกขึ้น แปลว่าอ่อนค่า ทำให้ดัชนีหุ้นร่วงต่อเนื่อง
ปี 2016 –> ???? จะซ้ำรอย หรือ สวนทาง น่าสนใจมากๆครับ จับตากันดีๆน่ะครับ4. FUND FLOW ในตลาดหุ้นไทย
พูดถึง Fund Flow แล้ว วันนี้ ผมอยากจะเสริมกราฟการซื้อขายของนักลงทุน 4 กลุ่มให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ โดยเส้นสีแดงคือยอดซื้อขายรายวันของนักลงทุนในแต่ละกลุ่ม (Net Buy – Net Sell) ส่วนเส้นสีขาวคือดัชนี SET ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
ยอด accumulate_net คือปริมาณซื้อขายสะสมของนักลงทุนในแต่ละกลุ่ม ถ้าเป็นสีเขียวแสดงว่ายอดสะสมเป็นซื้อ แต่ถ้าสีแดงแสดงว่าเป็นขายครับ
เรียงลำดับจากบนซ้ายมาล่างขวา : นักลงทุนทั่วไป ต่างชาติ สถาบัน และบริษัทหลักทรัพย์
นักลงทุนทั่วไป : ตั้งแต่ปี 2013 มา ดูดีๆน่ะครับ นักลงทุนรายย่อยนี่ ถือว่าลงทุนได้เยี่ยมเลย ตามความคิดผมน่ะ เพราะเมื่อดัชนีย่อลงมา นักลงทุนรายย่อยก็ทยอยซื้อสะสม พอดัชนีวิ่งขึ้น นักลงทุนกลุ่มนี้ก็ทยอยขายออก…ซื้อ Low ขาย High นั่นเอง ว้าว!
นักลงทุนต่างชาติ: เป็น net sell สะสมมาโดยตลอด อันนี้คงเป็นเหตุจากช่วงที่เกิดการเปลี่ยนปลงรัฐบาลครั้งล่าสุด ที่ทำให้นักลงทุนและกองทุนต่างชาติต้องโดนบังคับขายหุ้นทิ้งครับ สำหรับผมแล้ว ตอนนี้ต่างชาติก็ยังมีมีอิทธิพลมากพอๆกับนักลงทุนกลุ่มต่อไป ถึงแม้จะขายหุ้นไทยไปเยอะมากๆแล้วก็ตามที
นักลงทุนสถาบัน: กองทุนนั่นเอง…มีบทบาทค่อนข้างสูงต่อตลาดหุ้นไทยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพราะมียอดซื้อสะสมอลังการเลยทีเดียว ก็ได้แต่หวังว่า อย่าเพิ่งขายกันรัวๆก็พอ ไม่งั้นตลาดหุ้นไทยเหนื่อยแน่ๆ
พอร์ทหลักทรัพย์ : เนื่องจากตอนนี้มีการรวมยอดซื้อขายของ Block Trade เข้ามารวมด้วย จึงพูดได้ยากว่า prop. trade หรือ block trade ของรายย่อยกันแน่ ที่มีสัดส่วนการซื้อขายมากกว่ากันครับ
Crude Oil (น้ำมันโลก)
น้ำมันโลกนี่ กราฟเบรก ema200 เรียบร้อยแล้วที่บริเวณ 43 เหรียญต่อบาร์เรล
ตอนนี้ราคาน้ำมัน กำลังทดสอบเส้น fibonacci 23.6% ที่ราคา 46.17 เหรียญครับ
หากเบรกได้…กลุ่มหุ้นพลังงานจะแรงแน่นอน
แนวรับแรงคือเส้น ema200 ที่บริเวณ 42.5-43 เหรียญต่อบาร์เรล และ ema50 บริเวณ 40 เหรียญต่อบาร์เรล ครับ หลุดสองเส้นนี้เมื่อไหร่ แนะนำ Short กลุ่มพลังงาน ได้เลย
TOCOM (ยางพารา)
ยางพารานี่…ยังอยู่ในกรอบขาลงอยู่น่ะครับ
มองเบรก 200 ได้เมื่อไหร่ เราจะเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคายางพาราแรงๆแน่นอน
ณ จุดนี้ ก็เฝ้าดูไปก่อน ไม่ต้องรีบ เบรกได้ค่อยซื้อก็ไม่สาย เพราะอะไรที่โดนกดเป็นขาลงนานๆ เมื่อเบรกขึ้นมาได้ มันจะแรงมากๆครับ
สนใจลงทุนในกองทุนรวม พร้อมรับคำแนะนำการลงทุนจริงจาก FINNOMENA แค่กรอกรายละเอียดสั้นๆ
ลงทะเบียนรับสิทธิ์
Baltic Dry Index (ค่าระวางเรือ)
ค่าระวางเรือเดือนที่แล้วนี่ถือว่าขึ้นมาแรงเลยครับ จนกระทั่งเข้าเดือนใหม่ ก็เริ่มมีการย่อตัวบ้างแล้ว ใครถือหุ้นกลุ่มนี้อยู่ ก็เช็คดัชนี BDI อย่างใกล้ชิดน่ะครับ
จากกราฟจะเห็นว่าเส้นประสีส้มแนวต้านนั้น มีนัยสำคัญพอๆกับเส้นประสีเหลืองครับ ถ้าดัชนีสามารถเบรกเส้นสองเส้นนี้ได้ เราอาจจะเห็นการวิ่งแรงๆมากๆของค่าระวางเรือครับ แต่ถ้ายังวิ่งอยู่ในกรอบนี้ ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับค่าระวางเรือ ก็คงสวิงพอควรเลย
MACD ตัดลงมา แต่ยังยืนเหนือเส้นศูนย์ ก็ลุ้นแค่ว่าการย่อตอนนี้ เป็นการปรับฐานสั้นๆครับ โดยให้เส้น ema200 เป็นจุดรับสำคัญที่บริเวณ 600 จุด (ให้ย่อได้อีก 30 จุดพอ)
Dow Jones Index (ดัชนีหุ้นดาวโจนส์)
ดัชนีดาวโจนส์นั้น เบรกทะลุเส้นแนวต้านใหญ่ได้แล้ว (เส้นประสีฟ้า) แต่ก็ไม่ผ่านแนวต้านด่านสำคัญบริเวณ 18200 จุดครับ (เส้นแนวนอนสีเหลือง)
การปรับฐานจึงเกิดขึ้น แต่ก็ยังถือว่าเป็นภาพของขึ้นอยู่ ยกเว้นกรณีที่ดัชนีหลุด 17450 จุด หรือเส้นประสีฟ้านั่นเอง ถ้าหลุดตรงนี้ อันตรายต่อตลาดหุ้นเมกาและรอบโลกแน่นอน
สำหรับผม ผมให้เส้น ema10 วันเป็นตัวบอกแนวโน้มตลาดของดาวโจนส์ครับ ลองสังเกตเส้นสีเหลืองดูว่าการวิ่งของดัชนีหุ้ดาวโจนส์นั้น เส้น ema10 ค่อนข้างมีนัยสำคัญทีเดียว
หากดัชนีปิดเหนือ 17800 จุดได้เมื่อไหร่ ก็อาจจะเห็นการวิ่งไปทดสอบ 18200 อีกครั้งครับ น่าสนใจทีเดียว
DAX (ตลาดหุ้นเยอรมัน)
อีกหนึ่งตลาดหุ้นที่ยังไม่อยู่ในขาลง แต่น่าสนใจว่ายังไม่สร้างจจุดต่ำสุดใหม่ในการย่อแต่ละรอบครับ
ห้ามหลุดเส้นแนวรับเส้นประสีน้ำเงินเด็ดขาด…หลุดต่ำกว่า 9700 จุด เมื่อไหร่ น่ากลัวเลยทีเดียว
แต่หากผ่าน 10000 กับ 10200 จุด ได้ ก็จะเป็นขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้นเยอรมันเลยทีเดียว
SSEC (ตลาดหุ้นจีน)
ตลาดหุ้นจีน วิ่งน่าเบื่อครับ….ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง T___T
HSKI (ตลาดหุ้นฮ่องกง)
หลังจากที่ดัชนีฮั่งเส็งเบรกกรอบขาลงขึ้นมาเป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
มาเดือนนี้ดัชนีได้หลุดเส้น trendline ขาขึ้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว
หากดัชนีหลุด 19,700 จุด อาจจะลงต่อไปปิด gap บริเวณ 19,400 จุดได้ครับ ระวังกันนิดสำหรับคนที่เทรดดัชนีฮั่งเส็ง
สำหรับฮั่งเส็งแล้ว ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะดัชนีอยู่ต่ำกว่าเส้น ema ทั้งสามเส้น….อันตรายพอควรครับ
Nikkei (ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น)
ดัชนีหุ้นนิกเกอิ ของญี่ปุ่นนี่ กรอบใหญ่ยังเป็นขาลงน่ะครับ ตอนนี้ลุ้นว่าไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ หรือหลุดเส้นแนวรับสีเหลืองก็พอ
MAI
MAI Index หรือหุ้นเล็กของบ้านเรานั่นเอง
ยังอยู่ในกรอบที่พยายามเบรกเป็นขาขึ้นให้ได้อยู่ครับ ยังไม่มีอะไรหวือหวามากมาย
แต่หากเบรกทะลุ 550 จุดได้ หวดหุ้นเล็กกันได้เลย น่าจะมันส์ ฮ่าๆ
SET Index
พระเอกของเรา SET Index ปิดท้ายกันเบาๆ
ดูกรอบสีแดงน่ะครับ ที่ดัชนีย่อมาราวๆ 40-50 จุดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ไม่แปลก เพราะมันมี Bearish Divergence ใน MACD ครับ (กรอบสีแดงทั้งในดัชนีและ MACD)
ดัชนีห้ามปิดต่ำ 1375 จุดซึ่งเป็นแนวรับสำคัญมากๆ จากกราฟจุดนั้นคือจุดตัดของ ema50 ema200 และเส้นแนวรับพอดีครับ ย้ำว่าห้ามหลุด!!
แนวต้านหลักตอนนี้ ก็คงเป็น 1414 จุดและ 1430 จุด นั่นเอง
ขอบคุณที่ติดตามครับ
สนใจลงทุนในกองทุนรวม พร้อมรับคำแนะนำการลงทุนจริงจาก FINNOMENA แค่กรอกรายละเอียดสั้นๆ
ลงทะเบียนรับสิทธิ์