
ความขัดแย้งระหว่าง “ทรัมป์และเดโมแครต” ยังหาข้อยุติไม่เจอ ดันงบ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ค้างเติ่ง เสี่ยงกระทบเงินเดือนทหาร-ระบบการบินสหรัฐฯ
วิกฤต Government Shutdown ของสหรัฐฯ ล่วงเข้าสู่วันที่ 7 หลังวุฒิสภาโหวตไม่ผ่านร่างงบประมาณ ติดต่อกันถึง 5 ครั้ง ทั้งจากฝั่งรีพับลิกันและเดโมแครต ส่งผลให้หน่วยงานรัฐหลายแห่งต้องปิดทำการ جزนบางส่วน ขณะที่พนักงานกว่า 750,000 คนถูกพักงานหรือทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง
งบประมาณที่ค้างอยู่มีมูลค่ากว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ครอบคลุมหนึ่งในสี่ของการใช้จ่ายภาครัฐ โดยส่วนที่เหลือเป็นงบประกันสุขภาพ สวัสดิการผู้สูงอายุ และดอกเบี้ยหนี้รัฐบาลที่พุ่งแตะ 37.9 ล้านล้านดอลลาร์ แล้วในขณะนี้
จุดขัดแย้งหลักอยู่ที่ “งบอุดหนุนประกันสุขภาพสำหรับชาวอเมริกันรายได้น้อย” ที่จะหมดอายุภายในปีนี้
ฝ่ายเดโมแครต ยืนยันให้ขยายอายุการอุดหนุนและคืนงบให้โครงการ Medicaid ที่ทรัมป์เคยตัดลด
ขณะที่ฝ่ายรีพับลิกัน ต้องการผ่าน “งบสะอาด” (Clean Bill) ที่ไม่พ่วงนโยบายสังคมใด ๆ เข้ามา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่ายินดี “เจรจาเรื่องสุขภาพ” แต่ต้อง “เปิดรัฐบาลก่อน” พร้อมโพสต์บน Truth Social ว่า “ผมพร้อมคุยทุกเรื่อง แต่ก่อนอื่นพวกเขาควรเปิดรัฐบาลคืนนี้เลย”
ด้าน ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ผู้นำเดโมแครตในวุฒิสภา ปฏิเสธว่าขณะนี้ “ไม่มีการเจรจาใด ๆ เกิดขึ้นจริง” และกล่าวโต้ว่า “ทำเนียบขาวต้องหยุดใช้ชีวิตของประชาชนเป็นตัวประกันทางการเมือง”
ขณะที่ทำเนียบขาวยอมรับว่า ยังไม่มีการปลดพนักงานถาวร แต่เตือนว่าหากชัตดาวน์ยืดเยื้อ การเลิกจ้างจริงอาจตามมาในเร็ววัน พร้อมเผยว่าได้เริ่มระงับงบโครงสร้างพื้นฐานกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์ ในรัฐประชาธิปไตยหลักอย่างนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย และอิลลินอยส์แล้ว
อ้างอิง: BCC