Bill gross กูรูผู้ที่มีประสบการณ์จัดการกองทุนตราสารหนี้ Janus Global ซึ่งมีมูลค่ากว่า$1.4billion นั้น ได้เรียกร้องต่อ FED ให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาสักพักนึงแล้ว แต่สุดท้ายFED ก็ยังตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนถึงทุกวันนี้เป็นระยะเวลา7ปีแล้วนับตั้้งแต่ปี2008.  เค้ายังมีการให้เหตุผลว่าการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ศูนย์ในระยะกลางและระยะยาวนั้นเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจรวมไปถึงกลุ่มผู้ฝากเงินและนักลงทุนอีกด้วย

Gross ได้ยกตัวอย่างความเสียหายที่เกิดขึ้นของการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ หนึ่งในนั้นคือสร้างผลกระทบให้แก่ผู้ฝากเงินและผู้ลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม ลูกค้าที่ฝากเงินโดยตรงจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำ หรือถ้ากลุ่มคนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยชราที่มีการซื้อประกันซื้อกองทุนบำนาญหรือกองทุนต่างๆ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณปีละ7-8% ซึ่งมาจากทั้งพันธบัตรและหุ้นรวมกัน  แต่ถ้าดอกเบี้ยมีระดับต่ำนั่นหมายถึงผลตอบแทนของพันธบัตรต่ำด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ภาระทั้งหมดไปอยู่กับผู้ที่บริหารหุ้นที่จะต้องทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่จะทำให้ผลตอบแทนทั้งหมดอยู่ในระดับมาตรฐาน นั่นหมายถึงกลุ่มคนชราและกลุ่มผู้ลงทุนเหล่านี้อยู่ในความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่แน่นอน  ซึ่งมันก็เกิดขึ้นแล้ว!

นอกจากนี้ Gross ยังได้สัมผัสถึงผลกระทบบางอย่างที่ส่งผลต่อกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่และระบบเศรษฐกิจในอเมริกา ถ้าพวกเค้าสามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เค้าจะกู้เงินไปลงทุนหรือไม่? คำตอบคือไม่ เพราะว่าจากหลักฐานที่พบเจอในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีการบ่งบอกว่าแทนที่เค้าจะนำเงินไปลงทุนเพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบ แต่เค้ากลับนำเงินไปซื้อหุ้นของตัวเองนำเงินไปลงทุนในหุ้นแทน ยิ่งบริษัทตักตวงผลประโยชน์จากหุ้นของพวกเค้ามากเท่าไหร่ เค้าก็จะยิ่งลดการลงทุนลงเท่านั้น จะเห็นว่าระบบดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์นั้นจะทำลายระบบการออมเงินซึ่งเป็นหัวใจหลักของการลงทุนไปเสียแล้ว. Get off zero now!