
“ตลาดหุ้นไทยหมดหวังแล้ว” คำพูดที่ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) กล่าวตลอดในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด ดร.นิเวศน์เผยแผนปรับพอร์ตการลงทุนครั้งใหญ่ โดยตั้งใจลดสัดส่วนหุ้นไทยลงครึ่งหนึ่งและมองหาโอกาสเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นโลก
Finnomena Funds ได้จัดงานสัมมนาพิเศษ “ปรับตัวอย่างไร เมื่อหุ้นไทย เศรษฐกิจไทย ใกล้หมดความหวัง” เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนรายใหญ่ ได้เปิดเผยถึงการตัดสินใจปรับกลยุทธ์การลงทุนครั้งใหญ่ โดยลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยจากกว่า 60% เหลือเพียง 30% และหันไปมองหาการลงทุนในตลาดโลกมากขึ้น
เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ลดหุ้นไทย เพิ่มตลาดโลก
ดร.นิเวศน์เผยว่าต้องการลดสัดส่วนหุ้นไทยลงเหลือเพียง 30% จากปัจจุบันมากกว่า 60% หรือประมาณ 2 ใน 3 ของพอร์ต โดยสัดส่วนหุ้นไทยที่หายไป ดร.นิเวศน์ระบุว่ากำลังมองหาโอกาสกระจายเงินลงทุนไปที่ตลาดโลกอีก 1 ใน 3
ผมมีเงินสดเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของผม แต่ก็ยังไม่เยอะ 7-8% ที่มาจากปันผลบ้าง ทยอยขายหุ้นตัวเล็กตัวน้อยบ้าง… รอบแรกก็เอาเงินสด 7-8% ไปลงทุนก่อน
ดร.นิเวศน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนในตลาดโลกของดร.นิเวศน์ยังต้องชะลอออกไปก่อน เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองโลกหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ผมจะไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เผอิญว่าทรัมป์เขาชนะการเลือกตั้ง เราก็เลยรอดีกว่า… ถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ได้ว่าเอฟเฟกต์ของทรัมป์จะเป็นยังไง ก็รอไปก่อนอีกสัก 2-3 เดือน
ตำนาน VI ไทยระบุ
เลือก DR แทนการลงทุนโดยตรง หลีกเลี่ยงภาษี
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ ดร.นิเวศน์เลือกที่จะลงทุนผ่าน DR (Depositary Receipt) แทนการลงทุนโดยตรง ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาภาษีจากการลงทุนในต่างประเทศ
ลงทุนตรงในหุ้นต่างประเทศมันมีปัญหาเรื่องเสียภาษีอยู่แล้ว คุณขายเมื่อไรเอากลับมาก็ต้องเสียภาษี… เราต้องเอาเป็นพวก DR หรือว่ากองทุนที่จดทะเบียนในไทย
ดร.นิเวศน์อธิบาย
ดร.นิเวศน์ยังเสริมอีกว่า “สิ่งสำคัญคือต้องไม่เสียภาษี ถ้าไปลงทุนโดยตรงแล้วเสียภาษีเนี่ยยังไงก็ไม่คุ้ม…ปัจจุบันตลาด DR ในไทยพัฒนาไปไกลมาก ส่วนหนึ่งเพราะคนไทยต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเป็นรายตัวมากขึ้น”
นอกจากนี้ ดร.นิเวศน์ยังกล่าวถึงการเลือกหุ้นต่างประเทศอย่างระมัดระวัง โดยมองหาบริษัทที่เป็น “ตัวท็อป” ของตลาดและมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว โดยยกตัวอย่าง LVMH เป็นหนึ่งในหุ้นที่สนใจ
ยังเห็นโอกาสในหุ้นไทยบางกลุ่ม
แม้จะมองภาพรวมหุ้นไทยในแง่ลบ แต่ดร.นิเวศน์ยังเชื่อว่ามีหุ้นบางกลุ่มที่ยังมีอนาคต เช่น กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนจากปันผลที่สูง
แบงก์ใหญ่ ๆ มีอยู่ 4-5 แบงก์ใหญ่ ถือว่าเป็นธุรกิจกึ่ง ๆ ผูกขาด ไม่มีใครมาทำลายได้ ไม่ต้องลดมาร์จิ้นแข่งกัน แล้ว P/E ก็ต่ำกว่า 10 เท่า ปันผลก็ขึ้นมา 5-6%
ดร.นิเวศน์กล่าว
นอกจากนี้ ดร.นิเวศน์ยังแนะนำนักลงทุนที่ไม่มีเวลาและประสบการณ์ในการเลือกหุ้นเอง ให้ลงทุนในกองทุนรวม โดยเน้นการเลือกธีมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เช่น กองทุนหุ้นกลุ่มไฮเทค
ต้องตัดสินใจเด็ดขาด และผมคิดว่าจำเป็นต้องไป (ลงทุนต่างประเทศ) เพราะตอนนี้อาเซียนโตกัน 5-6% มีไทยกับพม่าที่โตแค่ 2-3%
ดร.นิเวศน์กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้าน Finnomena Funds เปิดกลยุทธ์พอร์ตลงทุน “DCM ย่อ-ซื้อ ขึ้น-ขาย” พร้อมผลงานโดดเด่นปี 2024
พอร์ตแนวคิด Contrarian เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ศักยภาพสูงช่วงราคาอ่อนตัว พร้อมวินัยบริหารความเสี่ยงเข้มข้น
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Finnomena เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนของพอร์ต Dynamic Contrarian Model (DCM) ว่าเน้นแนวคิดแบบ Contrarian หรือการเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลง โดยสินทรัพย์ที่จะเข้าซื้อจะต้องเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ราคาในระยะสั้นมีการปรับตัวลดลง หรือปรับตัวขึ้นน้อยกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ และมี Valuation ในระดับที่ถูก
Dynamic Contrarian Model ก็คือการลงทุนสไตล์ ย่อ-ซื้อ ขึ้น-ขาย เรามองหาสิ่งที่เราเชื่อว่ามีพื้นฐาน มีแนวโน้มที่ดี แต่ว่าอดทนรอแล้วซื้อในจังหวะที่คนไม่ได้สนใจ
นายเจษฎากล่าว
พร้อมเสริมว่าพอร์ตจะเข้าขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้น หรือ Valuation มีการตึงตัว และจะตัดขาดทุนเมื่อเห็นว่าภาพรวมของสินทรัพย์นั้น ๆ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ยาก
สำหรับตัวอย่างผลงานสไตล์ Contrarian ในพอร์ต DCM นายเจษฎายกตัวอย่างการเข้าซื้อหุ้นยุโรปในช่วงต้นปี 2024 และขายทำกำไรเมื่อ ECB ลดดอกเบี้ยครั้งแรก
Source: Finnomena Funds as of 27/02/2025
*คำเตือน: ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การเข้าซื้อหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงเกิดเหตุการณ์ Black Monday และขายทำกำไรก่อนการประชุม FED
Source: Finnomena Funds as of 27/02/2025
*คำเตือน: ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
รวมถึงเข้าซื้อหุ้นจีนตั้งแต่ก่อนเกิดกระแส AI จีนหลังการเปิดตัวของ DeepSeek
Source: Finnomena Funds as of 27/02/2025
*คำเตือน: ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
“ปัญหาที่นักลงทุนเจอก็คือ ปรับเปลี่ยนพอร์ตตามสถานการณ์ไม่ทัน หาจังหวะเริ่มลงทุนไม่ได้สักที กำหนดสัดส่วนเงินลงทุนค่อนข้างยาก อยากลงทุนแต่ไม่มีเวลาติดตามตลาด หรือว่าลงทุนแล้วไม่กล้าที่จะตัดขาดทุน เพราะฉะนั้นตัว Dynamic Contrarian Model ถูกสร้างมาให้ตอบโจทย์นั้น” นายเจษฎากล่าวทิ้งท้าย
สามารถลงทะเบียนเพื่อลงทุนในพอร์ต Dynamic Contrarian Model (DCM) หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/dcm/
ข้อมูลติดต่อ: ฝ่ายสื่อสารการตลาด Finnomena
มะลิลา ใจพันธ์ โทร. 089-874-8982 Email: nim.malila@finbroadcasting.com
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ข้อมูลและการคาดการ์ที่ปรากฎในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00 -17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @Finnomenaport