Fed ลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ 3.50–3.75% เป็นครั้งที่ 3 ของปี แต่เป็นการลดที่ “เสียงแตกหนักสุดในรอบ 6 ปี” เมื่อกรรมการ FOMC ถึง 3 คนไม่เห็นด้วย และให้ความเห็นต่างกันสุดขั้ว สะท้อนภาวะลังเลระหว่างเงินเฟ้อที่ยังสูง 2.8% กับสัญญาณอ่อนแรงของเศรษฐกิจ หลังข้อมูลหลายชุดสะดุดจากชัตดาวน์รัฐบาล 6 สัปดาห์ ขณะที่ Dot plot ใหม่ชี้ว่าปี 2026–2027 อาจลดดอกเบี้ยรวมเพียงสองครั้ง และเจ้าหน้าที่ถึง 7 คนไม่ต้องการลดเลย

แม้ลดดอกเบี้ย แต่ Fed ส่งสัญญาณว่ารอบลดอาจชะลอ พร้อมเดินเกม “ซื้อพันธบัตรคืน” 40,000 ล้านดอลลาร์เพื่อพยุงสภาพคล่อง หลัง QT ทำให้ระบบเงินตึงตัวขึ้น แม้ Fed ไม่ใช้คำว่า QE แต่ตลาดมองเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางจำเป็นต้องอาศัยมาตรการเสริมเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวเตรียมดัน Kevin Hassett เป็นประธาน Fed คนใหม่ ยิ่งเพิ่มคำถามต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางในจังหวะวิกฤตศรัทธา

ด้านเสถียรภาพตลาดโลก ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) เตือน “ฟองสบู่คู่” ครั้งแรกในรอบ 50 ปี เมื่อหุ้น (โดยเฉพาะเทค + AI) และทองคำ พุ่งทำ New High พร้อมกัน ทองคำขึ้นกว่า 60% และเริ่มถูกซื้อในเชิงเก็งกำไรมากขึ้น ทั้งจาก ETF ที่เทรดเหนือ NAV และจากหลายประเทศที่เร่งสะสมทองเพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์ ด้านหุ้นก็อยู่ในโหมด Risk-on จัดเต็ม แม้ ECB และ BOE เตือนว่ามูลค่าอาจวิ่งนำปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้าธุรกิจชิปและดาต้าเซนเตอร์ที่ยังต้องพิสูจน์ผลตอบแทนจริง

BIS ตั้งคำถามใหญ่ หากวันหนึ่งหุ้นและทองคำปรับฐานพร้อมกัน โลกจะเหลือที่หลบภัยใด เมื่อหลายประเทศถือทองในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และเงินทุนจำนวนมากไหลตามโมเมนตัมมากกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจจริง

ภาพรวมสะท้อนสัญญาณเดียวกันว่า โลกกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเปราะบางใหม่ แม้เศรษฐกิจดูแข็งแรงกว่าเดิม แต่เสถียรภาพตลาดการเงินกลับสั่นคลอน ดอกเบี้ยยังสูง เงินเฟ้อยังไม่ลง และสินทรัพย์เสี่ยง–ปลอดภัยกลับพุ่งพร้อมกันอย่างผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ประวัติศาสตร์เตือนเสมอว่า “ความผันผวนใหญ่กำลังรออยู่ข้างหน้า”


อ้างอิง: CNBC, กรุงเทพธุรกิจ

Tax Cal