unnamed

Jim Rogers ประธาน Roger Holding มั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV Jim เล่าว่าเป็นเวลา 7-8 ปีมาแล้วหลังจากสหรัฐเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 ซึ่งดูจากข้อมูลในอดีตแล้วจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจมักจะเกิดทุก 4-7 ปี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ มันอาจจะไม่ได้เกิดภายใน 4-7ปี เป๊ะๆ แต่อย่าลืมดูตัวเลขหนี้ของสหรัฐด้วยนะคนดี ยังหาทางไปไม่เป็นเลย

แต่ๆๆ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ใน wall street คิดว่าเป็นไปได้น้อยที่สหรัฐจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจภายในปีนี้ โดยมีโอกาสประมาณ 33 เปอร์เซ็นต์

Jim ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าอะไรจะเป็นตัวจุดชนวนหลังหมดมาตรการ QE และ เศรษฐกิจถดถอยรอบนี้ มันอาจจะมาจากเศรษฐกิจที่ซบเซาจากจีน ญี่ปุ่น หรือ ยูโรโซน ก็เป็นได้ โดย Jim แนะว่านักลงทุนควรใส่ใจค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเศรษฐกิจว่าสหรัฐยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยแนะให้นักลงทุนดูตัวเลขที่แท้จริง เช่น payroll tax (เงินภาษีที่หักจากค่าจ้าง) ซึ่งยังคงที่ ไม่ได้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ดูแค่ตัวเลขที่รัฐบาลกล่าวอ้าง

แต่ Jim เลือกถือ dollar ท่ามกลางความยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้ เพราะมองว่าถ้าตลาดทั่วโลกมีปัญหา ทุกคนจะหันเข้าหา US Dollar และนั่นจะทำให้เกิดฟองสบู่ในที่สุด เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่าการแข็งค่าของ US dollar จะส่งผลลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนทราบดีอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน เงินเยน (YEN) จะไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ เนื่องจากแบงค์ชาติญี่ปุ่นยังคงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ถามว่า Jim Rogers มั่นใจขนาดไหนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอย …. แกก็ตอบเลยว่า 100% !!

Source : http://www.bloomberg.com/news/articles/2016-03-04/jim-rogers-there-s-a-100-probability-of-a-u-s-recession-within-a-year

FINNOMENA’S OPINION

แอดมึน คิดว่าการวิเคราะห์ถึงภาวะวิกฤตเป็นเรื่องที่ใครๆก็พูดได้  โดยเฉพาะถ้าเกิดถูกขึ้นมาก็สามารถทำให้ตัวโด่งดังได้พอสมควร ในส่วนของท่านๆนักลงทุน การระมัดระวังเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่านักลงทุนควรพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน และข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการที่รายงานออกมาจริง ไม่ควรตื่นตูมจนขาดสตินะยูว์