Jim-Rogers

ข่าวล่าสุด ที่นักลงทุนระดับตำนาน Jim Rogers ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก Global Advisory Board ของ EM (บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำในด้าน PR และ IR ให้กับบริษัทในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา) เป็นการยืนยันมุมมองของเขาต่อการลงทุนในรัสเซียและจีน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา การคาดการณ์ของเขาก็มีถูกบ้างผิดบ้างตามปกติ แต่สัญชาตญาณของเขาเกี่ยวกับการเติบโตของจีนเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ว่าเข้าคิดถูก รวมถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับทองและเงินในช่วงปี 2000 ก็เช่นกัน

มุมมองต่อรัสเซียของเขาครั้งนี้จะออกมาถูกต้องเหมือนครั้งก่อน(เมืองจีน) หรือไม่เป็นคำถามที่าสำคัญ เขาอ้างอีกว่าได้ เขาเริ่มลงทุนในรัสเซียไปแล้ว ในตอนแรกเราคิดว่าแนวความคิดนี้จะได้รับผลกระทบจากกรณีการปะทะกับซีเรียและร่วมประกาศศึกอย่างเต็มตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าไม่เลย

จากการแถลงข่าวว่า เขาค่อนข้างมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับศักยภาพการเติบโตของทั้งจีนและรัสเซีย มีหลายสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไปใน 2 ประเทศนี้และอาจเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นให้กับนักลงทุนได้ เขายินดีที่จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในรัสเซียและจีน รวมถึงกลุ่มประเทศที่น่าสนใจอื่นๆอีกด้วย

มันไม่ง่ายเลยที่จะหาข่าวหรือบทความเกี่ยวกับรัสเซียที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ข่าวทางการทหารหรือการทำสงครามกับคู่ขัดแย้ง แต่เราเจออะไรบางอย่างที่พอจะบอกถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจรัสเซียได้บ้าง เช่น จากการที่ประธานาธิบดี Dmitry Medvedev กล่าวในที่ประชุม APEC ที่เพิ่งผ่านไปว่าสภาวะเศรษฐกิจของรัสเซียเริ่มกลับมาทรงตัวแล้ว “เรากำลังจัดการปัญหาเกี่ยวกับความผันผวนของราคากับสร้างความเชื่อมันให้กับนักลงทุน พร้อมทั้งยอมรับว่า เป็นช่วงที่ยากลำบากมาก สาเหตุจากราคาน้ำมันร่วง ค่าเงินที่เสียเสถียรภาพมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศ รวมถึงแรงกกันจากการแทรกแซงในประเทศกว่า ปีครึ่งที่ผ่านมา”

นอกจากปัจจัยลบเหล่านี้แล้ว ยังพอจะมีปัจจัยสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติอยู่บ้าง เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนลงนั้นเป็นโอกาสที่จะสามารถซื้อสินทรัพย์ในรัสเซียได้ในราคาที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับอดีต เขายังเพิ่มเติมอีกว่า “พื้นที่ทางตะวันออกรวมถึงเขตไซบีเรีย เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ เราคงไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ถ้าปราศจากการลงทุนจากต่างประเทศ” ในช่วงที่ผ่านมาการเติบโตของเศรษฐกิจ เริ่มกลับมาฟื้นตัวพอๆ กับประเทศกลุ่ม Asia Pacific แล้วซึ่งถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญกว่า 1 ใน 4 หรือประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เขาว่ายังไม่พอ รัสเซียได้เพิ่มมาตรการกระตุ้นทางภาษีเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดท่าเรือเสรี ตามที่นักลงทุนต่างชาติร้องขอมาตลอด

เขาระบุว่า รัสเซียจะขยายมูลค่าการส่งออกสินค้าธัญพืชไปที่ระดับ 35-40,000 ล้านตันในปี 2020 ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับกลุ่มประเทศ Asia Pacific ได้ เขาไม่ได้เน้นมากนักในเรื่องการจัดการค่าเงิน เแม้ว่ารัสเซียกับจีนจะมีการดำเนินการทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินสำรองระหว่างประเทศมากมายเพื่อ ลดบทบาทของสกุลเงินดอลล่าร์ จนเมื่อเร็วๆนี้ สกุลเงินหยวนก็ได้เข้าบรรจุอยู่ในตะกร้าเงินสำรองระหว่างประเทศ (SDR) ของทาง IMF แล้วเรียบร้อย

ตามสำนักข่าวฝากตะวันตก รัสเซียอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนจีนกำลังชะลอลงเช่นกัน แต่หากมองในระยะยาวจริงๆแล้ว โรเจอร์อาจเป็นฝ่ายถูก ถ้าแผนการของ IMF ที่พูดมาแล้วหลายครั้งเกี่ยวกับการรวมสกุลเงินไว้เหลือเพียงสกุลเดียว เป็นจริงขึ้นมาได้

จากที่เราได้รายงานหลายครั้งก่อนหน้า นี่อาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่ เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตะวันตกโตช้ากว่ากลุ่ม BRIC ในช่วงศตวรรษที่ 21 แต่ในที่สุด ถ้าใครคิดจะสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของเศรษฐกิระหว่างประเทศแล้ว แต่ละภูมิภาคคงจะต้องมีการปรับตัวเข้ามาหากันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

โดยสรุป จีนและภูมิภาคเอเชียค่อนข้างมีการเติบโตที่ดีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ทศวรรษต่อไปน่าจะเป็นคราวของรัสเซีย โดยเฉพาะหากข้อขัดแย้งระหว่างฝั่งตะวันตกและ NATO ถูกแก้ไขได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง โรเจอร์ก็คงถูกขนานนามว่า เป็นนักลงทุนที่มองเห็นอนาคตได้จริงๆ

Source : http://www.thedailybell.com/news-analysis/36649/Jim-Rogers-Joins-EM-Focus-on-Russia-Asia/

FINNOMENA Opinion

จากบทความเกี่ยวกับมุมมองในรัสเซียนี้ อาจเหมาะสมกับการพิจารณาลงทุนในระยะยาวพอสมควร เนื่องจากประเด็นเรื่องความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนาน อาจไม่สามารถถูกแก้ได้อย่างรวดเร็วเท่าใดนัก ความยากอยู่ที่การเข้าถึงแหล่งข้อมูลอาจไม่สามารถทำได้ง่าย ประกอบกับโครงสร้างสังคม วัฒนธรรมและตลาดหลัททรัพย์ของรัสเซียอาจแตกต่างไปจากความคุ้นเคยของเราพอสมควร ควรลงทุนด้วยความระมัดระวังนะครับ

Jim Rogers นักธุรกิจชาวอเมริกัน นักลงทุนและนักเขียน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Quantum Fund และเป็นสร้างดัขนีสินค้าโภคภัณฑ์ Rogers International Commodities Index (RICI).