ในจังหวะตลาดตอนนี้ที่มีการปรับตัวลดลงจนเข้าสู่ช่วง Bear Market มักจะมีคำถามจากผู้ลงทุนว่า สามารถเข้าลงทุนในตลาดได้แล้วหรือยัง และสมควรลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ประเภทใดในสัดส่วนมากน้อยอย่างไร การวิเคราะห์ภาพใหญ่ของตลาดจึงมีความสำคัญ เพื่อเป็นการต่อยอดไปถึงนโยบายทางธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมของการลงทุน นักลงทุนควรเตรียมตัวอย่างไรในช่วงที่ตลาดผันผวนขึ้นลง และอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงมีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ต่อไป พบกับกองทุน B-GLOB-INFRA จาก บลจ.บัวหลวง กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกที่จะทำให้พอร์ตของนักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนท่ามกลางสถานการณ์ตลาดหมีและเงินเฟ้อพุ่งสูงได้

ภาพรวมของตลาดและแนวโน้มการลงทุนในมุมมองของ บลจ.บัวหลวง

ในช่วงที่ตลาดมีการปรับตัวจนเข้าสู่ภาวะ Bear Market สิ่งที่นักลงทุนต้องทำคือ ถือครองเงินสดและปกป้องเงินต้นเอาไว้ สำหรับนักลงทุนที่กำลังรอจังหวะซื้อนั้น สามารถเข้าซื้อในจังหวะไม้แรกได้แล้ว แต่ในจำนวนที่ยังไม่มากนัก นักลงทุนอาจต้องรอจังหวะให้ตลาดมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนจึงจะสามารถเริ่มเข้าซื้อเพื่อลงทุนได้ โดย P/E ของตลาดปรับลดลงมาโดยเฉลี่ย 30% ถือว่าของในตลาดมีราคาถูกลงแล้ว โดยที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด S&P500 ยังคงมีกำไรอยู่

ในช่วงที่ผ่านมาเกิดการเทขายหลักทรัพย์จากความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ทาง FED ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และ Slow Growth เป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงมากขึ้น สิ่งที่ต้องติดตามคือ กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะถูกปรับลงหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันตลาดยังคงมีความผันผวนและอยู่ในช่วงตลาดหมี แต่นักลงทุนยังไม่ได้เทขายหุ้นออกไปในปริมาณมาก หากเทียบกับช่วงการระบาดของ COVID -19 ถือว่าอัตราการเทขายหุ้นยังต่ำกว่าช่วงการระบาดของ COVID -19 เป็นที่สังเกตว่า หลักทรัพย์ที่ถูกเทขายในตลาดจำนวนมากคือกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่

ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประเด็นที่ต้องติดตามเพื่อวางแผนการลงทุน

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

จากแผนภาพข้างต้นจะเห็นว่า ปัจจุบันตลาด S&P500 ปรับตัวลงมา 18% ในกรณีที่ไม่มี Recession ตลาดจะปรับลดลงมาช่วง 10% – 12% และจะมีการปรับตัวขึ้นไป หากเกิดเศรษฐกิจถดถอย ตลาดจะปรับลดลงได้ถึง 23% – 24% โดยเฉลี่ย สิ่งหนึ่งที่ต้องจับตามองคือ จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยจริงหรือไม่ ไม่ใช่แค่เพียงตลาดสหรัฐฯ เท่านั้น ตลาดฝั่งเอเชียและตลาดเวียดนามก็เช่นเดียวกัน หากเกิดเศรษฐกิจถดถอยจริง ตลาดเล็ก ๆ จะไม่สามารถต้านทานได้ และเกิด Out Flow กลับไปที่สหรัฐอเมริกาและสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ทางฝั่งตลาด S&P500 จะมี Downside เพิ่มมากขึ้น และสามารถปรับลดได้ถึง 30% -35% เลยทีเดียว

หากอ้างอิงจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา เมื่อ FED มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย จะมีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้จริง อาทิ เมื่อต้นปี 1970 เกิดฺ Behind the Curve ทั้ง ๆ ที่เงินเฟ้อสูง ค่าแรงสูง แต่ดอกเบี้ยไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น แม้ต่อมาจะมีการปรับดอกเบี้ยเพิ่มสูงถึง 10% ในต้นปี 1973 ก็ไม่สามารถหยุดเงินเฟ้อได้ และเงินเฟ้อยังคงผันผวนต่อไปในช่วงสิบปีดังกล่าว ในที่สุดจึงมีมาตรการใช้ยาแรงโดยการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเกือบเท่าตัว ส่งผลให้เงินเฟ้อมีการปรับลดลงมา แต่สิ่งที่ตามมาคือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย สิ่งนี้เป็นข้อมูลที่ทำให้นักลงทุนต้องจับตามองว่าเงินเฟ้อจะทำให้ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงจนทำให้เศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ ซึ่งสามารถคาดเดาได้จากตลาดอันเป็นตัวบ่งชี้ได้ดีที่สุด

การคาดการณ์เรื่องสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบัน  

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

จากการสำรวจชาวอเมริกันแสดงให้เห็นว่า ภาวะเงินเฟ้อเป็นความกังวลของชาวอเมริกันมากที่สุด ซึ่งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับเพิ่มขึ้นมาก รองลงมาคือราคาน้ำมัน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเช่าบ้าน ส่งผลให้คนอเมริกันวางแผนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยการงดรับประทานอาหารนอกบ้าน ลดการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ลดการซื้อเสื้อผ้า – รองเท้ากีฬา อันเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้ทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดคะเนได้ว่า เงินเฟ้ออาจไม่ได้มีการปรับลดลงโดยเร็ว และทำให้ความต้องการในการซื้อรถยนต์ บ้าน ลดน้อยลงด้วย

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

กล่าวได้ว่า ในปี 2022 นี้ เป็นปีที่เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี นับจากปี 1990 อีกประการหนึ่งคือ เมื่อเงินเฟ้อถูกปล่อยออกมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนเงินเฟ้อคือ M2 ซึ่งเป็นปริมาณเงินที่ถูกอัดฉีดเข้ามาในระบบ ไม่ว่าจะเป็นเงินจาก FED จำนวน 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงเงินจากเช็คครอบครัวชาวอเมริกัน หาก FED ปล่อยกู้ให้ธนาคาร และธนาคารสามารถนำไปปล่อยกู้เพิ่มได้ 3 – 4 เท่า ซึ่งจะเพิ่มจำนวนเงินในระบบมากขึ้น จึงคาดเดาได้ว่า เงินเฟ้ออาจไม่มีการปรับลดลงมาได้เร็ววัน

การปรับตัวของนักลงทุนในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อยังคงพุ่งสูง รวมถึงราคาน้ำมัน และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้นด้วย

นักลงทุนควรกลับมาสำรวจพอร์ตของตัวเองว่า ณ ปัจจุบันยังคงมีแต่หุ้น Growth หรือไม่ เนื่องจากช่วง 2- 3 ปีที่ผ่านมาหุ้น Growth ให้ผลตอบแทนที่ดีมาก แต่ในปัจจุบันต้องปรับลดสัดส่วนหุ้น Growth หุ้น Tech ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงหุ้นสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน เนื่องจากโอกาสในการลงทุนจะอยู่นอกเหนือตลาดอเมริกามากขึ้น และไม่ใช่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเท่านั้น ตลาดกระทิงครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นกลุ่ม Sector ใหม่ ที่ยังไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ลงทุน ซึ่งก็คือน้ำมันและสินค้าอุปโภคนั่นเอง

ทางเลือกใหม่ของนักลงทุน หาก FED มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงมาก และมีความเสี่ยงเรื่อง Stagflation

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

สินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นล้อกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นคือ Diamonds, US Farm, Real Assets, Gold, Commodities, Real Estate เป็นต้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มสินทรัพย์ที่ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ หนึ่งในนั้นคือ Global Infrastructure หรือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานนั่นเอง

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

จากกราฟจะเห็นว่า เมื่อเกิด Stagflation (สีฟ้าอ่อน) พอร์ตการลงทุนที่เป็นสัดส่วน 60:40 คือ หุ้น 60% ตราสารหนี้ 40% ให้ผลตอบแทนที่ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากเงินเฟ้อสูง แต่หากมีการเพิ่มสินทรัพย์ 5 ประเภทดังนี้ Real Assets, Value, International Equities, International Bond และ High dividend yield จะทำให้พอร์ตการลงทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้ กล่าวได้ว่า สินทรัพย์จำพวก Infrastructure หรือพวกโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่ม Real Asset จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนในช่วง Stagflation ได้

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

หากเกินกรณีที่ FED มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงมาก และมีความเสี่ยงเรื่อง Stagflation สินทรัพย์ที่ควรลงทุนคือกลุ่ม Utilities หรือกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ หรือถ้าเป็นช่วงเงินเฟ้อสูงเศรษฐกิจเติบโตต่ำ ควรจะลงทุนในกลุ่ม Defensive Stock เช่นกลุ่ม Telecom, Food, Utilities, Health Care ซึ่งสินทรัพย์กลุ่มนี้มีความผันผวนต่ำ และมีแนวโน้มว่าตลาดจะปรับตัวสูงขึ้นพร้อมกับเงินเฟ้อได้

What is Infrastructure asset ?

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

  • Infrastructure มีคุณสมบัติคือ การสร้างโอกาสในการหารายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอ มีความผันผวนต่ำ และสามารถลงทุนได้ทั่วโลก เป็นโครงการใหญ่ มีการผูกขาด ได้สัมปทานระยะยาว สามารถคาดเดา Income ได้ และมีกระแสเงินสดที่ชัดเจน
  • Infrastructure จะลงทุนในกลุ่ม Regulated Assets หรือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โรงไฟฟ้า ท่อแก๊ส ประปา กล่าวคือ เป็นสิ่งจำเป็นและต้องใช้ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจใดก็ตาม และรายได้จากกลุ่มนี้สามารถปรับขึ้นตามเงินเฟ้อได้
  • กลุ่ม User Pays Assets เช่น ทางด่วน ถนนพิเศษ ท่าเรือ สนามบิน เป็นต้น  ซึ่งจะเป็นบริษัทประเภท กึ่ง Growth กึ่ง Defensive มีการเติบโตแต่ปลอดภัย และเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเติบโตตามจำนวนของผู้ใช้ได้

กองทุน B-GLOB-INFRA กองทุนจาก บลจ.บัวหลวงที่ลงทุนในกลุ่ม Global Infrastructure ทั่วโลก  

กองทุน B-GLOB-INFRA ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลักคือ Legg Mason Clearbridge Global Infrastructure Income Fund ที่มีเป้าหมายการลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ เนื่องจาก Benchmark ของกองทุนหลัก คือ อัตราเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศ G7 (สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา) + 5.5% แปลว่า กองทุนนี้ต้องการเอาชนะเงินเฟ้อให้ได้

นอกจากนี้ ยังเป็นกองทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงสูง โดยมีการลงทุนในหลากหลายพื้นที่ อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป (เจ้าแห่งพลังงานสะอาด) เอเชีย (ออสเตรเลีย) ละตินอเมริกาและอื่น ๆ และมีการลงทุนในหมวดหมู่กลุ่มธุรกิจหลากหลาย เพื่อไม่ให้เงินกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไป

ธีมการลงทุน

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

ปัจจุบันบริษัทกลุ่ม Infrastructure มีการปรับตัวในการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยพัฒนาบริษัท โดยผู้จัดการกองทุนได้กระจายการลงทุนในบริษัทที่เป็นพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน เช่น บริษัท Clearway Energy ในสหรัฐฯ ซึ่งมีโครงการพลังงานสะอาดคือ พลังงานลม ถือเป็นการเติบโตใหม่ ๆ ที่กองทุนได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Old Economy เดิมอาจจะไม่มีการเติบโตหรือมีความน่าตื่นเต้นมากนัก แต่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจที่สามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้บรรลุเป้าหมายของกองทุนได้ เนื่องจากบริษัทมีความมั่นคง อยู่มายาวนาน และมีป้อมปราการทางธุรกิจ (MOAT) ที่แข็งแกร่ง

Top 10 Holdings

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

  • Pembina Pipeline 3.75%
  • Clearway Energy 3.28%
  • Public Service Enterprise 4.10%
  • Iberdrola 4.4%
  • National Grid 4.40%
  • SSE 4.34%
  • SNAM SpA 3.59%
  • Atlas Arteria 3.91%
  • APA Group 3.06%
  • Transurban Group 2.91%

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน B-GLOB-INFRA

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

สีเขียว : ผลตอบแทนย้อนหลัง

สีม่วง : Benchmark (Inflation = 5.5%)

จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี 2011 – 2021 กองทุน B-GLOB-INFRA สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้เกือบทุกปี หากดูภาพรวมอาจกล่าวได้ว่าเป็นกองทุนประเภท Get Rich Slow กล่าวคือ แม้จะเป็นการเติบโตช้าก็ตาม แต่มีการเติบโตอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากองทุนมีผลตอบแทนประมาณ 10% และไม่ได้ติดลบมากนักหากตลาดปรับตัวลดลง ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

สัดส่วนในพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

 

หากเป็นช่วงที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสูง และมีแนวโน้มว่าจะสูงกว่า 8% ทาง บลจ. แนะนำว่าควรจะแบ่งสัดส่วนกองทุนนี้เป็น 10% ของพอร์ต จากกราฟจะเห็นว่า หากเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Global Infrastructure จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า Efficient Frontier กล่าวคือ ได้รับผลตอบแทนเพิ่มมากขึ้นในขณะที่อัตราความเสี่ยงมีค่าเท่าเดิม เมื่อเทียบกับพอร์ตการลงทุนในสัดส่วน 65:35 (หุ้น 65% ตราสารหนี้ 35%)

ทั้งนี้ การลงทุนใน B-GLOB-INFRA อาจไม่ได้เป็นทางเลือกเพื่อปรับพอร์ตสำหรับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอยเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยที่ไม่เสี่ยงจนเกินไป และสามารถลงทุนในระยะยาวได้ โดยลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคง สามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกบริษัทเข้ากองทุน

  1. Legg Mason ClearBridge Global Infrastructure Income Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-GLOB-INFRA มีกระบวนการลงทุนที่ชัดเจน
  2. ผู้จัดการกองทุนหลักจะทำการคัดเลือกบริษัทโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก จำนวน 600 บริษัท โดยใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกคือ จะต้องเป็นบริษัทที่ให้เงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ ซึ่งคัดเหลือ 170 บริษัท
  3. ทำการคัดเลือกต่อโดยใช้หลักเกณฑ์ DCF ในการประเมินมูลค่า วิเคราะห์ช่วงเวลาสัญญาสัมปทาน ใช้วิธีแบบ Bottom Up รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเพื่อดูความเหมาะสม
  4. คัดเลือกจนเหลือเพียง 60 บริษัทและนำไปสร้างพอร์ตการลงทุน โดยไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง รวมถึงขอบเขตประเทศที่จะลงทุน เพื่อเป็นการจำกัดความเสี่ยงในการลงทุน และใช้หลัก ESG มาเป็นเกณฑ์คัดเลือกบริษัทร่วมด้วย

สิ่งที่จะต้องระมัดระวังสำหรับกองทุน B-GLOB-INFRA

  • Market risk คือโอกาสที่ตลาด S&P500 จะปรับตัวลงไปอีก หากเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม กองทุน B-GLOB-INFFRA จะปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาด และมีความผันผวนต่ำกว่าตลาด
  • เมื่ออัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงมาก และเป็นเหตุให้หุ้นในกลุ่ม Tech หรือ Growth Stock ปรับตัวขึ้นสูง และทำให้เงินไหลออกจากหลักทรัพย์จำพวก Defensive Stock
  • ความเสี่ยงจากบางบริษัทที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นและไม่สามารถ Pass on ไปหาผู้บริโภคได้ ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนจะหลีกเลี่ยงบริษัทที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

สรุปจุดเด่นของกองทุน B-GLOB-INFRA

สรุป LIVE: “ตลาดลงขนาดนี้ถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นหรือยัง? พร้อมกองทุนแนะนำ B-GLOB-INFRA กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก" I สรุป LIVE Market Talk

  • ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Legg Mason ClearBridge Global Infrastructure Income Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน Class S Acc (USD)
  • กระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสวงหาผลตอบแทน
  • มีกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งหวังให้ผลประกอบการใกล้เคียงกองทุนหลักมากที่สุด

ความเสี่ยงของกองทุน

สูง (ระดับความเสี่ยง 6 )

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด ติดต่อบริการบัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 02 645 5555 E-mail: info@bangkokbank.com

คำเตือน

  • การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น)
  • ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้