Testimonial: บทสัมภาษณ์ คุณมานะ เตียงตระกูลทอง ที่ปรึกษาบริษัท ไอคัลเลอร์ คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ปัจจุบันคุณมานะทำอะไรอยู่บ้าง?

เดิมที่เริ่มรู้จักกับฟินโนมีนา ก็เป็นผู้บริหารบริษัท ดูแลงานจนกระทั่ง Early Retire หลังจากออกมาแล้วก็ได้พักนิดเดียว จากนั้นเพื่อน ๆ ก็ชวนมาเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่คอมเม็ทส์ เป็นบริษัทเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ปัจจุบันก็ย้ายมาเป็นที่ปรึกษา Part Time อยู่ที่ไอคัลเลอร์  เพิ่งมาสร้างโรงงานใหม่ เป็นของ iColor Cosmetics Thailand เดิมทีคอมเม็ทส์เป็นธุรกิจ OEM ทางด้าน Cosmetic Packaging ทำพวกสินค้าสำเร็จรูปเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการนำเข้ามา แล้วมาแพ็คไปให้ลูกค้า แต่พอมาเปิดเป็น iColor นี่จะเป็นแบบครบวงจรเลย มีการผสม Cosmetic Content เอง Personal Care, Skin Care ทำได้หมด ในเซเว่นก็มีที่เราทำส่ง คือนำเครื่องจักรจากเมืองนอกมาแล้วผลิตหลากหลายสินค้ามากขึ้น

จุดเริ่มต้นและเป้าหมายในการเข้ามาลงทุนของคุณมานะคืออะไร?

จริง ๆ เริ่มมานานแล้วนะ จุดแรก ๆ น่าจะเป็นช่วงที่ไปเรียนปริญญาโท ก็เลยรู้ว่ามีเรื่องการลงทุน พอไปดูปุ๊บ เริ่มสนใจปุ๊บ ก็เลยเริ่มเปิดพอร์ตหุ้น ก็ได้ ๆ เจ๊ง ๆ เลยมาดูกองทุนรวมน่าจะถูกโฉลก แต่สมัยก่อนดอกเบี้ยดี ก็ซื้อกองทุนตราสารหนี้เสียก่อน ที่เป็นแบบ 6 เดือน 1 ปี 3 เดือนมีดอก พวกคงที่แบบนี้มันก็ดูดี แล้วก็เริ่มมา RMF ยุคแรก ๆ ปีสองปีแรกก็เริ่มซื้อ มันก็ได้ประโยชน์เพราะเราก็จ่ายภาษีสูง แต่จริง ๆ แล้วก็อยู่ในหุ้นไทยมาตลอด ชนิดเดียวด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดจะเล่นกองทุนนอกอะไรต่าง ๆ เลย ชีวิตก็วุ่นวายกับการต้องเปิดกับหลาย ๆ แบงก์หลาย ๆ ที่ แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ดี ๆ ก็หาจุดขายยาก เพราะสมัยก่อนยากกว่าสมัยนี้อีก เปิดบัญชีของที่ไม่ใช่ของแบงก์ ก็ไม่รู้จะเปิดอย่างไร เราอยู่บ้านนอกต่างจังหวัด การติดต่อก็ไม่สะดวกในเรื่องของเอกสารต่าง ๆ

จนกระทั่งหลัง ๆ อ่านและศึกษาการลงทุนบ้างตามเวลาว่างที่มี มาเห็น NTER FINNOMENA เนี่ยชื่อแปลก ดูอยู่พักหนึ่งแต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงแรกนะ มาเข้าช่วงที่ฟินโนมีนาเปิดมาได้สักประมาณ 6 เดือนหรือ 1 ปี เผอิญไปอ่านบทความเจอเรื่องของ Asset Allocation ซึ่งเราก็คิดว่าน่าจะมีผล เพราะว่าเราเคยได้รับผลพวงจากช่วงวิกฤตหลาย ๆ รอบที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ หรือว่าต้มยำกุ้ง โดนมาแล้วมันรู้ไง เพราะมันตกไปเยอะ สมัยก่อนหุ้นไทยเวลามันตีกลับ แล้วเราซื้อแบบ DCA เรื่อย ๆ มันก็ได้ประโยชน์ ทำให้เห็นว่าการลงทุนมันช่วยได้เยอะ พอรู้จักฟินโนมีนาก็ชอบในเรื่องของ Asset Allocation แล้วก็คอยติดตามอัปเดตพอร์ตบ้าง หรือฟัง หรืออ่าน พอฟังปุ๊บก็ฉลาดขึ้นนะ รู้สึกว่าได้ความรู้จากการมองพวก Indicator ต่าง ๆ มากขึ้น รู้บ้างไม่รู้บ้างฟังซ้ำ ๆ ไป ทั้งคุณเจทคุณแบงค์ก็จะคล่องขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กล้าไปเชิญชวนชาวบ้านมา รู้สึกว่าตอนนั้นเคยเชิญฟินโนมีนาไปเปิดคอร์สสอนที่บริษัท ที่คอมเม็ทส์ก็มี ก่อนหน้านั้นก็ไปสอนที่แบรนด์ คือแบรนด์นี่ไปเปิดสอน แล้วเปิดเป็นห้อง Conference ใหญ่เลย รู้สึกเปิดบัญชีกันเยอะอยู่นะรอบนั้น และทุกวันนี้หลาย ๆ คนก็น่าจะถืออยู่ และซื้อแบบ DCA อยู่

เพราะอะไรคุณมานะถึงตัดสินใจเลือกลงทุนกับ FINNOMENA?

น่าจะเป็นการฟังคอนเซปต์การลงทุนพวก Asset Allocation แล้วรู้สึกว่าน่าจะตอบโจทย์มากกว่า และก็ที่ชอบที่สุดเลยคือความเป็นกลางนะ ความเป็นกลางที่สามารถที่จะแนะนำกองทุนได้ เมื่อก่อนเราก็รู้จักแต่ของแบงก์ ไม่ได้อ่านจากที่อื่น ก็จะเชื่อว่าตัวนั้นมันดี หรืออ่านจากหนังสือพิมพ์ที่สรุปพวกธุรกิจ มันก็แล้วแต่ใครเชียร์ตัวไหนเราก็ซื้อตัวนั้น ฉะนั้นในพอร์ตก็จะมีจดหมายกองทุนเยอะมาก เยอะมากจนกระทั่งสุดท้ายมาเจอฟินโนมีนาด้วย FIX MY PORT จริง ๆ แล้วช่วงแรกก็ไม่ได้เชื่อหมด เพราะสังเกตแล้วมันก็ไม่ได้เคลียร์ตามนั้นหมด มันก็เชื่อ แต่เชื่อแบบสัก 30 เปอร์เซ็นต์ตามนั้นไปก่อน ที่เหลือก็เผื่อไว้ ตอนนี้ก็อยู่กับฟินโนมีนามา 3 ปีแล้วไวมากนะ

FINNOMENA สามารถเข้าไปช่วยเหลือในจุดไหนของคุณมานะได้บ้าง?

ส่วนใหญ่แล้วถ้าคนทั่วไป สมมติเป็นนักธุรกิจก็จะทำให้พอรู้ Circle เล็ก ๆ น้อย ๆ หรือรู้เรื่องของธุรกิจบ้าง แต่เรื่องที่เขาจะไม่ค่อยศึกษากัน คือการอ่านในด้านเทคนิค เพราะฉะนั้นการที่ฟินโนมีนาเอาเรื่องของเทคนิคมาประกอบ นอกจากเรื่องวิเคราะห์พื้นฐาน มันให้เราดูเหมือนจับจังหวะได้ดีขึ้น ทำให้มีความมั่นใจเวลาที่เราจะตามตัวเลือกที่ทางฟินโนมีนาให้มาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเดิมเราไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้ไง เลยทำให้ซื้อผิดซื้อถูก ซื้อจังหวะไม่ได้อะไรต่าง ๆ รวมทั้ง Asset Allocation ก็เหมือนกับเปิดโลกให้เรารู้จักกองทุนอีกหลายตัวที่ไม่เคยรู้จัก

คุณมานะมองว่า FINNOMENA แตกต่างจากการลงทุนที่อื่นอย่างไร?

มีพอร์ตให้เลือกหลากหลายนะ ตามแผนการเงินของแต่ละคนเลยนะ มีตั้งแต่ไม่รู้จักอะไรเลย ยันมืออาชีพ เข้าใจออกผลิตภัณฑ์ ตอบรับได้ทุกระดับความเสี่ยงของแต่ละคน

อย่างของเราเองก็ถือตั้งหลายพอร์ต แต่ละพอร์ตก็มีวัตถุประสงค์ต่างกัน คือบางพอร์ตก็ถือเพื่อให้มีเงินไหลเข้า บางพอร์ตก็เสี่ยงเยอะ เน้นสีสันในชีวิต เพิ่มอะดรีนาลีนอะไรแบบนี้ มันก็ดีทำให้เราไม่ต้องคิดมาก คือเดิมปกติวางแผนการเงินเราก็ต้องแบ่งเป็นก้อน เหมือนกับการจัดการการเงินในกระเป๋านะ แต่ตัวนี้มันมีพอร์ตมาตอบการจัดการของเราเรียบร้อย มันก็สะดวกดี อย่างคนขับรถคนเก่าของเราก็แนะนำให้เขาซื้อพอร์ต 1st Million ทุกวันนี้เขาก็ซื้อแบบ DCA อยู่เรื่อย ๆ เขาก็มีความสุขมาก เพราะเขาไม่เคยรู้ว่ามันมีแบบนี้อยู่ ตอนนี้คนขับรถกับภรรยาก็กลายเป็นแฟน LIVE ของฟินโนมีนาเลยนะ

อยากให้ฝากอะไรถึงนักลงทุนท่านอื่นสักนิด ที่เป็นผู้เริ่มต้น หรือกำลังเดินอยู่บนเส้นทางการลงทุน ควรจะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง?

พอพูดเรื่องลงทุน ทุกคนจะกังวลอยู่ 2 เรื่อง อันที่หนึ่งคือ ไม่มีเงินที่จะเริ่ม อันที่สองคือ ที่ลงทุนไปเสี่ยงไหม

เขาไม่เคยตอบโจทย์สองข้อนี้ด้วยตัวเค้าเองไงว่า ความเสี่ยง เกิดจากการไม่เริ่มต้นเรียนรู้ เหมือนเราที่เริ่มต้นจากการอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจ หนังสือเรื่องการออมเงิน อ่านไปนิด ๆ หน่อย ๆ จากที่ไม่รู้เรื่องมันก็เริ่มมีความรู้ สิ่งสำคัญคือรู้แล้วมันต้องลงมือ ประเภทที่เรียกว่า ททท. ทำทันที ถ้าไม่รู้ว่าจะทำอะไร เปิดบัญชีไปก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันต่อ ถ้าไม่เริ่มลงมือก็ไม่มีทางรู้ แล้วเด็กสมัยใหม่นี่ไม่มีทางเกษียณ ถ้าสมมติไม่รู้จักการวางแผนการเงิน

อ่านเรื่องราวความประทับใจจากนักลงทุนท่านอื่น ๆ ได้ที่ https://www.finnomena.com/testimonials/