กลยุทธ์การทำกำไรโดยปราศจากความเสี่ยง (Arbitrage) กับสินทรัพย์ดิจิทัล

ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น การเข้ารหัสถือเป็นสิ่งที่ใหม่แถมยังมีประสิทธิภาพที่สูงมาก หลายคนจึงต้องการเข้ามาสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมชนิดใหม่นี้โดยที่พวกเขามักจะเข้าใจเพียง 2 วิธีในการทำเงินจากสินทรัพย์ดิจิทัล 1 คือการ Mining หรือการขุด 2 คือการ Trading หรือซื้อขายเก็งกำไร แต่ในความเป็นจริงมีอีก 1 วิธี นั่นก็คือการทำ Arbitrage

การทำ Arbitrage คือการซื้อของชนิดเดียวกันในราคาที่แตกต่างกัน อาจเป็นเพราะซื้อมาจากคนละที่ราคาจึงไม่เท่ากัน แล้วนำไปขายทำกำไรต่อโดยปราศจากความเสี่ยง

ลักษณะของการ Arbitrage นั้นจะต้องใช้ความรวดเร็วพอสมควร หากคุณไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยแม้กระทั่งได้ยินชื่อ Arbitrage ในวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับเรื่องนี้กันครับ

การทำ Arbitrage คืออะไร ?

ในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น นักลงทุนหนึ่งคนสามารถซื้อขายกับศูนย์ซื้อขายแห่งใดก็ได้ตามแต่ที่เราจะพอใจ ส่วนราคาซื้อขายของแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับ Demand & Supply และนี่จึงเป็นที่มาของโอกาสในการแสวงหากำไรจากความแตกต่างของราคา นักลงทุนทุกคนจึงควรให้ความสนใจและพยายามมองหาโอกาสดี ๆ แบบนี้อยู่ตลอดเวลา

สมมติว่านักลงทุนท่านนั้นต้องการซื้อ 1 Bitcoin ด้วยสกุลเงิน AUD เขาจะต้องใช้เงิน 11,832.50 ในขณะเดียวกันที่ศูนย์ซื้อขายในอินโดนีเซีย 1 Bitcoin ต้องใช้ AUD ถึง 12,073.82 เท่ากับว่ามีความแตกต่างกันถึง 241.32 คุณอาจจะซื้อในตลาดออสเตรเลียแล้วไปขายในตลาดอินโดนีเซีย แต่อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องของค่า Commission และ Bid/Ask Spread ด้วยนะครับ

คุณสามารถทำแบบนี้กับเหรียญอื่น ๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Bitcoin Cash, Litecoin, Ripple ทำให้โอกาสของคุณจะมีมากขึ้นและมีอยู่ตลอดเวลา ขอเพียงแค่คุณมีศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถือและมีตลาดที่หลากหลาย

ในการจะซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ราคาของแต่ละที่จะไม่เท่ากันซะทีเดียว อาจจะมีความแตกต่างกันมากน้อยขึ้นอยู่กับช่วงเวลา นั่นแปลว่าสินทรัพย์ดิจิทัล จะไม่ได้มีแค่ราคาเดียวเหมือนเราซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ให้เราคิดภาพว่าเราเดินเข้าธนาคารเพื่อเอาเงินบาทไปแลกเป็นสกุลอื่น ๆ เวลาคุณต้องการจะไปต่างประเทศนั่นแหละครับ ด้วยค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมที่ต่างกัน แถมบางธนาคาร Rate ก็ต่างกันอีก

ในการทำ Arbitrage นั้นคุณใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถทำกำไรได้แล้ว แต่ด้วยความที่กำไรในแต่ละครั้งอาจจะได้ประมาณ 1% หรือต่ำกว่า ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจมันเท่าไหร่นัก แต่ในมุมกลับกันหากเราทำมันได้อย่างสม่ำเสมอ รวม ๆ แล้วก็ถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจเลยทีเดียว

การมองหาโอกาสจากกลยุทธ์ Arbitrage ในสินทรัพย์ดิจิทัล

ทฤษฎีการทำ Arbitrage ดูเหมือนจะง่ายมาก ๆ เพียงแค่ซื้อในตลาดที่ราคาต่ำแล้วนำไปขายในตลาดที่ราคาสูงกว่า แต่ในความเป็นจริงโอกาสในการเกิดช่องว่างหรือ Error แบบนี้มีได้ไม่ค่อยบ่อยนัก พอเกิดช่องว่างขึ้นแต่ละที Smart Money ที่เฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิดก็มักจะหยิบฉวยโอกาสไปได้ก่อน จนราคากลับมามีประสิทธิภาพจนไม่สามารถทำกำไรจากการ Arbitrage ได้

หากคุณยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการลงทุน หากเกิดช่องว่างของราคาขึ้นเมื่อไหร่ คุณจะใช้เวลานานมากในการคำนวณว่า โอกาสที่เกิดขึ้นหักต้นทุนต่าง ๆ แล้ว คุ้มค่าหรือไม่ที่จะทำ ยิ่งคุณคำนวณได้ช้ามากเท่าไหร่ ช่องว่างของการทำกำไรก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น ฉะนั้น สิ่งที่สำคัญก็คือ ประสบการณ์ในการมองหาโอกาส ความรวดเร็วและแม่นยำในการคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่าย สุดท้ายคือความเร็วในการประเมินความคุ้มค่าและ Take Action ไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้

เราจะสามารถฉวยโอกาสจากช่องว่างของราคาในการทำ Arbitrage Trading ได้อย่างไรบ้าง

เราจะยกตัวอย่างไว้ 2 วิธี ดังนี้

Simple Arbitrage

กลยุทธ์นี้คือกลยุทธ์ที่เรายกตัวอย่างไปในตอนต้น คือซื้อสินทรัพย์ชนิดเดียวกันในตลาดและราคาที่แตกต่างกัน เราซื้อในราคาที่ต่ำเพื่อไปขายต่อทันทีในตลาดและราคาที่สูงกว่า หักค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมก็จะเป็นกำไรที่เข้ากระเป๋าของนักลงทุนแล้ว นี่เป็นกลยุทธ์ที่คนส่วนใหญ่รู้และทำกำไรกันมายาวนาน

Triangular Arbitrage

ในการทำ Arbitrage กับสินทรัพย์การเงินทั่วไป เช่น หุ้น คุณอาจจะทำได้แค่ 2 ตลาด และความเสี่ยงก็ไม่ได้เป็นศูนย์ตามทฤษฎีขนาดนั้น แต่ในการทำ Arbitrage ของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา มีการทำ Arbitrage ระหว่างสกุลเงินถึง 3 สกุลเงินมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยความซับซ้อนในการคำนวณทำให้ไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุนรายย่อยมากนักจะใช้กันในกลุ่มสถาบันการเงินขนาดใหญ่หรือ Inter Bank ที่มีเครื่องมือการในคำนวณหรืออาจจะเป็นลักษณะของการทำ Auto Trading เลยด้วยซ้ำหากเห็นช่องว่างของการทำ Arbitrage ยกตัวอย่างเช่น เรามีอยู่ 1 Bitcoin เราเห็นความผิดพลาดของราคาใน 3 สกุลเงินดิจิทัล เราจึงทำการขาย Bitcoin แล้วไปถืออีกสกุลหนึ่ง เช่น LTC ในขณะเดียวกันเราก็แปลง LTC มาเป็น USD ได้ USD มาทั้งหมดเท่าไหร่ เราก็นำจำนวนเงินทั้งหมดนั้นมาซื้อ Bitcoin คืนในทันที หักค่าใช้จ่ายแล้วเราจะได้ Bitcoin ในจำนวนหน่วยที่มากขึ้น กลยุทธ์คร่าว ๆ จะเป็นประมาณนี้ครับเพราะไม่สามารถอธิบายอย่างละเอียดได้ทั้งหมดจริง ๆ เนื่องจากมันเกี่ยวข้องในการคำนวณสลับไปมาหลายขั้นตอนเพียงแต่อยากให้ทุกคนพอที่จะมีไอเดียเพื่อนำไปทำการบ้านเพิ่มเติมกันต่อจะได้มีกลยุทธ์ในการทำกำไรมากขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลครับ

ความเสี่ยงในการใช้กลยุทธ์ Arbitrage

แม้ในทางทฤษฎีการทำ Arbitrage จะบอกว่าคือการแสวงหากำไรโดยปราศจากความเสี่ยงแต่ในโลกของความเป็นจริง การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงเสมอไม่มีข้อยกเว้น

การคำนวณผลตอบแทนที่จะได้รับผิดพลาด

การทำกำไรจากช่องว่างหรือ Error ของราคานั้นมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และมักจะได้กำไรต่อครั้งไม่มาก ความผิดพลาดที่หลายคนเคยเจอก็คือ กำไรที่ได้มาหักลบกับต้นทุนในการทำธุรกรรมนั้น เกิดการติดลบขึ้น นั่นก็แปลว่า เกิดผลขาดทุนจากการทำ Arbitrage นั่นเอง

ความผันผวนของราคา

ด้วยความที่สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความผันผวนสูงมาก ในบางเวลาผันผวนอย่างรวดเร็ว การทำ Arbitrage ก็จำเป็นต้องอาศัยความรวดเร็วเช่นเดียวกัน จึงอาจทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะพลาดจาก Human Error หรือในขณะที่ทำธุรกรรมราคากลับผันผวนรุนแรง ก็อาจเกิดการขาดทุนได้เช่นเดียวกัน

สุดท้ายนี้ อยากจะให้นักลงทุนทุกท่านศึกษากลยุทธ์การทำ Arbitrage ให้ลึกซึ้ง รวมถึงพยายามมองหาโอกาสจากความผิดพลาดของตลาดและความผิดพลาดของราคาอยู่เสมอ ทางเราเชื่อว่าการเก็บเล็กผสมน้อยจากวิธีการนี้จะสามารถทำให้นักลงทุนมีผลการลงทุนที่ดีขึ้นได้ ไม่แพ้การเก็งกำไรแบบซื้อมาขายไปเลยทีเดียว

Zipmex

ที่มาบทความ: https://zipmex.co.th/crypto-arbitrage