“ซื้อถือยาว VS เก็งกำไรระยะสั้น” กลยุทธ์ไหนเจ๋งกว่ากันในยามที่ตลาดผันผวน (ฉบับ สินทรัพย์ดิจิทัล)

ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ นักลงทุนทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง

ยกตัวอย่างเช่น บิทคอยน์ (Bitcoin) หนึ่งในสกุลเงินที่มีความผันผวนที่สุดตัวหนึ่งโดยมีการสวิงของราคาสูงสุดและต่ำสุดในหนึ่งวันมากจนน่าตกใจ ด้วยการผันผวนอย่างรุนแรงแบบนี้ทำให้นักลงทุนไม่ว่าจะระยะสั้นและระยะยาวอาจเกิดการขาดทุนได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น พวกเราทุกคนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาและวิเคราะห์รวมถึงใช้ความอดทนในการลงทุน อีกทั้งยังต้องวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยมีขั้นตอนทั้งหมด ดังนี้

4 ขั้นตอน เพื่อช่วยให้กระบวนการตัดสินใจมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

  1. เข้าใจและตีความแนวโน้มให้ออก : ซึ่งความเข้าใจจะนำไปสู่ประสบการณ์และการตัดสินใจที่รอบคอบ
  2. การฝึกฝนความอดทนในการถือทรัพย์สินดิจิทัลเพื่อที่จะได้รับการปันผลในอนาคต
  3. ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นให้ถ่องแท้
  4. กำหนดแผนการลงทุนไว้ล่วงหน้าและเตรียมทางออกหากทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

มาลองทำความเข้าใจคำว่า HODLING , Buy and Hold , หรือซื้อและถือครอง

ตามพจนานุกรมสมัยใหม่ คำว่า HODLING มีความหมายว่า “​การถือครองทรัพย์สินที่มูลค่าจำนวนหนึ่ง” เช่น หุ้น, สกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ คำศัพท์ดังกล่าวถูกกล่าวขึ้นครั้งแรกโดย GameKyuubi บนกลุ่มผู้ลงทุนบิทคอยน์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2013 ในหัวข้อเรื่อง “I AM HODLING” ซึ่งได้ตีแผ่ความเป็นจริงให้กับทุกท่านที่จะยึดเป็นแบบอย่างในการลงทุนที่มีลักษณะการซื้อๆ ขายๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแต่ละคนจะเรียกชื่อมันว่าอย่างไร แต่ในความหมายก็จะยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง

เข้าใจและตีความแนวโน้มให้ออก : ซึ่งความเข้าใจจะนำไปสู่ประสบการณ์และการตัดสินใจที่รอบคอบ

ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนอะไรสักอย่าง ประการแรกคือ คุณต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ผู้คนมากมายประสบกับปัญหาในการลงทุนเพียงเพราะเขาเหล่านั้นใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผลในการตัดสินใจ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาลงทุนด้วยความโลภความกลัว ซึ่งนั่นจะนำพาไปสู่การขาดทุนครั้งใหญ่

แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์พอสมควร คุณจะรู้ดีว่า อย่าเสี่ยงจนเกินตัวหรือเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว

ดังนั้น คุณควรที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ของเราไปกับการวิเคราะห์การลงทุนมากกว่าการตัดสินใจลงทุน

ควรทำความเข้าใจและวิเคราะห์ความเป็นไปของตลาด เข้าใจว่าอะไรเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาในอนาคต ตัวอย่างเช่น คุณจะลงทุนด้วยเงินทั้งหมดที่คุณมี ในขณะที่ตอนนั้นราคาสินทรัพย์ดิจิทัลผันผวนมาก ราคาวิ่งในกรอบ 20,000 – 7,000 US หากถามว่าคุณคิดจะลงทุนในตอนนี้ไหม หรือจะบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างไร ก็จะมีคนที่เลือกที่จะรอให้ทุกอย่างเริ่มดูดีก่อนค่อยเข้าไปลงทุน แต่สำหรับนักลงทุนใจกล้า คือกล้าได้กล้าเสียก็มองว่านี่คือโอกาสรวยของเราแล้วนะ รีบฉวยโอกาสนี้เลยดีกว่าโดยที่ไม่สนใจปัจจัยอะไรทั้งสิ้นและการลงทุนด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผลแบบนี้ มักจะเป็นต้นเหตุของการหมดตัวในภายภาคหน้า ฉะนั้นอย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียวเลยครับ

การฝึกฝนความอดทนในการถือทรัพย์สินดิจิทัลเพื่อที่จะได้รับการปันผลในอนาคต

ปัจจุบัน เราอาศัยอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการความรวดเร็วแบบทันทีทันใด  BTC, ETH, Litecoin, XRP และ EOS ล้วนแล้วแต่มีความผันผวนทั้งนั้น ดังนั้น หากเราพิจารณาแล้วรอจังหวะเวลาอีกสักนิด เราอาจจะได้ราคาที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณถือสินทรัพย์ทีมีโอกาสเติบโตในระยะยาวและฝึกฝนความอดทนในการลงทุน ในขณะเดียวกันที่คุณเริ่มจะเข้าใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ผลลัพธ์ของการลงทุน ก็จะเป็นไปได้ตามที่คาดไว้แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น บิทคอยน์​ (Bitcoin) ราคาสามารถผันผวนได้สูงสุดต่ำสุด ±1500 USD ภายในหนึ่งวัน ยิ่งระดับความผันผวนราคาสูงขึ้นเท่าใด ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากคุณได้สังเกตความแปรปรวนของราคาบิทคอยน์ โดยเฉลี่ยในช่วงเวลา 30, 60 หรือ 120 วัน ย้อนหลัง ความผันผวนแทบจะไม่ต่างกันเลย ดัชนีความผันผวนของบิทคอยน์ในระยะเวลา 30 วัน สามารถวัดค่าดัชนีความผันผวนได้เพียง 2.82% ในขณะที่ดัชนีความผันผวนของบิทคอยน์ในระยะเวลา 120 วัน เพิ่มขึ้นเป็น 3.31% ตาม bitvol.info ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีหากจะลงทุนในภาวะแบบนี้โดยขาดความรู้ที่ดี หรืออีกวิธีหนึ่ง คุณสามารถเรียนรู้ตามคำกล่าวอย่างหนึ่งที่เช็คสเปียร์บอกว่า “ผู้ที่ไม่มีความอดทน ช่างเป็นผู้ที่น่าเวทนายิ่งนัก”

ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นให้ถ่องแท้

ในขณะที่คุณกำลังศึกษาและสนใจเกี่ยวกับการลงทุน หากคุณได้ลองศึกษาและสังเกตความเป็นไปของตลาด ขณะที่ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดความผันผวนมากขึ้นแปลว่านักลงทุนมีความเสี่ยงสูงขึ้น และคุณพบว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่ติดลบหรือขาดทุน คุณมีวิธีการวัดและประเมินความสูญเสียของคุณอย่างไร? คุณสามารถลงทุนเพิ่มเพื่อปรับความเสียของหายของพอร์ตการลงทุนได้หรือไม่? คุณสามารถตั้งเป้าหมายโดยมีกลยุทธ์แบบนี้ได้หรือไม่? แต่ท้ายที่สุด วิธีการลงทุนที่ดีทีคือ คือการไม่ลงทุนแบบเทหมดหน้าตักจนหมดตัว

การทยอยลงทุนเพิ่มอย่างสม่ำเสมอหรือการซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะในกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนแบบนี้ การรวมกลยุทธ์นี้เข้ากับกลยุทธ์การลงทุนอื่นๆ จะช่วยให้การลงทุนมีความผันผวนของพอร์ตที่น้อยลงไม่ว่าราคาจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง

กำหนดแผนการลงทุนไว้ล่วงหน้าและเตรียมทางออกหากทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

หากคุณทำการศึกษา ค้นคว้า และวางแผนการลงทุนอย่างดีแล้ว 3 สิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณรับมือกับความกังวลในเรื่องความผันผวนของราคาของคริปโตเคอร์เรนซีได้อย่างที่คุณไม่คาดคิด

เพื่อหลีกเลี่ยงการ panic ในความผันผวนของราคาของคริปโตเคอร์เรนซี เราขอแนะนำให้คุณเขียนแผนกลยุทธ์การลงทุน โดยทำการสังเกต และติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้คุณอ่านเกมส์กลยุทธ์การลงทุนออก โดยไม่ตื่นตระหนก และไม่เกิดคำถามว่าอะไรคือกลยุทธ์การลงทุนของคุณตั้งแต่แรกกันแน่ นอกจากนี้ การที่คุณมีแผนกลยุทธ์ล่วงหน้าก่อนการลงทุน จะทำให้คุณทราบว่า คุณจะรับมืออย่างไรกับวัฏจักรของราคาที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ และควรที่จะ take actions โดยการเปิด position ใหม่ หรือซื้อเพิ่มเข้าไปใน portfolio ของคุณ

ณ ปัจจุบัน การพัฒนาและความเข้าใจในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซีนั้นสูงขึ้นมาก ทำให้โอกาสในการลงทุนในคริปโตสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทางบริษัท Zipmex เล็งเห็นว่า จำนวนวอลุ่มการซื้อขายคริปโต มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Top 5 เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่มีการเทรดมากที่สุด คือ Bitcoin, Ethereum, EOS, Litecoin และ Ripple

ขอให้มีความสุขกับการถือและการเทรดกันนะครับ

Zipmex