สินทรัพย์ดิจิทัลหลังจบไตรมาส 1 ปี 2020 “ควรไปต่อหรือพอแค่นี้”

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลได้พากันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากเกิดความกังวลในเรื่องโรคระบาด COVID-19 ราคาสินทรัพย์แทบทุกชนิดทั่วโลกแม้กระทั่งสินทรัพย์ดิจิทัลก็ถูกแรงเทขายอย่างรวดเร็วจากความกังวลดังกล่าว ช่วงปลายเดือนมีนาคมธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือ US Federal Reserve ก็ได้ประกาศในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อหวังที่จะเป็นยาแรงในการพลิกสถานการณ์ปัจจุบัน คือการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบแบบไม่มีลิมิต หรือ QE unlimited (Quantitative Easing unlimited) แต่หลังจากที่มีประกาศดังกล่าวนักลงทุนโดยส่วนใหญ่ก็ยังไม่แน่ใจถึงความยืดเยื้อของเหตุการณ์ความกังวลเรื่องโรคระบาดบวกกับเหตุการณ์ความขัดแข้งด้านราคาน้ำมันของประเทศมหาอำนาจบวกกับการถดถอยของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นอีก

3 ความกังวลที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในตอนนี้ นักลงทุนจึงเลือกที่จะรอดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ราคาสินทรัพย์เสี่ยงจึงยังไม่ได้สะท้อนข่าวดีจาก QE เหมือนทุกครั้งในอดีตที่ผ่านมา

ดังนั้น เราจะพาทุกท่านไปไล่เรียงดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัลตัวหลัก ๆ ที่เป็นที่นิยม 5 ตัวเพื่อจะได้นำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ

Bitcoin

ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ราคา Bitcoin ค่อย ๆ ขยับขึ้นไปอย่างต่อเนื่องประมาณ 500 USD จนเกิดการเทขายอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่สองของเดือนจนราคา Bitcoin ร่วงลงมาถึงประมาณ 3,000-4,000 USD ต่อ 1 BTC

แต่ภายในช่วงเวลาไม่นานนักราคาก็ดีดตัวกลับเป็น V Shape ขึ้นมาที่ 4,600 USD ในทันทีและวิ่งต่อเนื่องไปทะลุแนวต้านที่ 6,400 USD ได้สำเร็จ นั่นแปลว่านักลงทุนที่ตกใจขายลงมาคงจะผิดหวังไม่น้อยเพราะราคานั้นดีดขึ้นรุนแรงและรวดเร็วมาก ๆ ในขณะที่นักลงทุนที่เข้าซื้อได้ทันในช่วงเวลาดังกล่าวก็คงจะได้กำไรไปพอสมควร สาเหตุอาจจะเป็นเพราะมาตรการต่าง ๆ จากหน่วยงานทั่วโลกที่ทยอยออกมาเพื่อช่วยเหลือวิกฤติการณ์ไวรัส COVID-19 ครั้งนี้

ในภาวะตลาด ณ ตอนนี้ทางเราเชื่อว่าราคา Bitcoin ยังมี Upside อยู่อีกพอสมควร เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดที่ราคาปรับตัวลงมา

Ethereum

Ethereum นั้นมีผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เอาไว้ว่า หากเกิดการแตกเหรียญหรือ Hard Fork ในเดือนมกราคม 2563 ราคา ETH นั้นจะต้องลดลงอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็คือราคา ETH ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และเพิ่งจะมาเจอแรงเทขายพร้อม ๆ กับสินทรัพย์ดิจิทัลชนิดอื่น ๆ ในเดือนมีนาคมนี่เอง ทำให้ราคาของ ETH ลดลงกว่า 50% ภายในระยะเวลาอันสั้น

ปัจจุบันราคา ETH แกว่งอยู่ในกรอบประมาณ 130-135 USD หากย้อนกลับไปในอดีตสักหน่อย ราคาสูงสุดของ ETH เคยวิ่งไปถึง 1,432.88 USD ในเดือนมกราคม ปี 2018 ถ้าพิจารณาจากจุดสูงสุด ราคา ETH จะมี Upside ของราคามากทีเดียวครับ

Ripple

Ripple นั้นเป็นที่นิยมสูงเป็นอันดับที่ 3 หากดูจาก Coin Market Cap จากช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ราคา XRP วิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ประมาณ 0.34550 หรือบวกไปกว่า 44 % ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมของนักลงทุนเลยก็ว่าได้เพราะราคาไหลลงอย่างรวดเร็วกว่า 60 % มาเล่นแถว ๆ ระดับ 0.140 USD คือทะลุทุกแนวรับทางเทคนิคอลกันเลยทีเดียวครับ

แม้ในตอนนี้ราคาจะดีดกลับขึ้นมาเล่นระดับ 0.170 USD ให้นักลงทุนได้หายใจหายคอกันได้บ้างแต่ก็ถือว่ายังห่างไกลเหลือเกินกับจุดสูงสุดของมันที่ 0.34550 USD

อีก 1 สิ่งที่น่าจับมองเป็นพิเศษของเหรียญ XRP ก็คือการแกว่งตัวลักษณะเหมือนฟอร์มต้นทุนเฉลี่ยในตอนนี้ คือแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ เพื่อสร้างฐานราคา เราจึงมีความเชื่อที่ว่า การ Rebound ของราคาคงจะไม่ได้จบเพียงเท่านี้แน่นอนครับ

Bitcoin Cash

ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ Bitcoin Cash หรือ BCH มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 375 USD ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงโดยส่วนใหญ่ถูกเทขาย BCH ก็ยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดที่เกือบ 500 USD หรือมากกว่า 30 % แต่สุดท้ายก็ทนแรงกดดันจากสภาพตลาดไม่ไหวเพราะความต้องการสภาพคล่องของนักลงทุนทำให้พวกเขาก็เทขาย BCH อย่างหนักหน่วงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เช่นกัน โดยเทขายติดกันไม่เกิน 1 สัปดาห์ราคาก็ลงอยู่ที่ 375 เหมือนเดิมแล้ว แค่นั้นยังไม่พอ ยังกดขายอย่างต่อเนื่องไปจนทำจุดต่ำสุดที่กรอบ 150 USD หรือลงไปอีกกว่า 50 % จากราคาเฉลี่ยที่ 375

แต่แน่นอนครับว่าการลงเร็วแบบนี้เวลาดีดกลับก็มักจะรุนแรงเช่นกัน โดยที่ราคาดีดกลับจากจุดต่ำสุดที่ 150 USD มาถึง 230 USD หรือกว่า 50% ภายใน 2 สัปดาห์เท่านั่นเองครับ

Litecoin

อีกหนึ่งเหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 7 จาก Coin Market Cap ก็คือ Litecoin หรือ LTC ไม่ต้องบอกก็รู้ครับราคาของ LTC เป็นอย่างไร…ก็เหมือนสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น ๆ นั่นเอง คือถูกเทขายต่อเนื่องจาก 83 USD ลงมาถึง 30 USD หรือลดลงกว่า 60% แต่ก็ Rebound กลับอย่างรวดเร็วจนไปถึง 40 USD หรือกว่า 35%

เราหวังและเชื่อมั่นว่าราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลหลาย ๆ ตัวจะสามารถ Rebound กลับขึ้นมาได้อีกหน่อย จากการที่ราคาลงมาลึกและเร็วเกินไปจนมี Volatility ที่สูงมากนั่นทำให้โอกาสของการสะบัดตัวแบบ V Shape นี้จะไปได้ไกลพอสมควรครับ

ราคาสินทรัพย์ดิจิทัล “ควรไปต่อหรือพอแค่นี้”

เมื่อคนส่วนใหญ่จำเป็นต้องกักตัวเองอยู่แต่กับบ้านเพราะกังวลไวรัส COVID-19 เศรษฐกิจหลายแห่งหยุดชะงัก สภาพคล่องก็ตึงตัว เงินสดหรือสิ่งที่มีสภาพคล่องใกล้เคียงเงินสดจึงจำเป็นมาก ลองคิดถึงคนที่เก็บความมั่งคั่งในรูปทองคำสิครับ ในสถานการณ์ที่ร้านทองยังจำเป็นต้องปิดชั่วคราว เมื่อเราต้องการจะแปลงทองคำในมือเป็นเงินสด เราจะวิ่งไปขายกับใครล่ะทีนี้ จึงทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มมีคนพูดถึงกันเยอะขึ้น เพราะสามารถโอนข้ามโลกได้เลยโดยใช้เวลาเพียงไม่นานไม่ต้องกังวลหากหน่วยงานหรือตัวกลางที่ใดจะต้องปิดลงชั่วคราวจากความกังวลในตอนนี้

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะฝากไว้ก็คือ ด้วยความที่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่ปรับตัวลงเยอะมาก ๆ จากความต้องการสภาพคล่องทั่วโลก เมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย นักลงทุนจะมองสินทรัพย์ที่ปัจจัยพื้นฐานยังคงดีอยู่ คนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในมันอยู่และที่สำคัญที่สุดคือ Reward to Risk Ratio คุ้มที่สุดที่จะทำให้นักลงทุนเลือกเข้ามาเสี่ยงซึ่งผมเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลในตอนนี้มี Pay off ที่น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ

Zipmex