
ลดหย่อนภาษีปีนี้ ซื้อกองทุนอะไรดี? สรุปมาให้แล้วแบบครบ ๆ กองทุนแนะนำ RMF และกองทุน Thai ESG จากหลากหลาย บลจ. ด้วยคำแนะนำการลงทุนที่เป็นกลาง อัปเดตใหม่ล่าสุดส่งท้ายปลายปี 2025
สารบัญ RMF รายกอง (คลิกชื่อกองที่สนใจได้เลย)
- หุ้นสหรัฐอเมริกา: KF-US-PLUSRMF
- หุ้นโลกเน้นชนะตลาด: KKP GNP RMF-UH
- หุ้นโลกมูลค่าเหมาะสม: K-GSELECTRMF
- จัดพอร์ตผสม: ES-GAINCOMERMF
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเน้น AI และ Big Data: TAIRMF-A
- หุ้นกลุ่ม Blockchain และ Digital Asset: ASP-DIGIBLOCRMF
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี: B-INNOTECHRMF
- หุ้นกลุ่มสุขภาพ: SCBRMGHC
- หุ้นเอเชียตลาดเกิดใหม่: B-ASIARMF
- หุ้นจีน All China: SCBRMMLCA
- หุ้นอินเดีย: B-INDIAMRMF
- หุ้นเวียดนาม: PRINCIPAL VNEQRMF
- หุ้นไทยปันผลสูง: THDRMF-A
- ตราสารหนี้โลก: K-GDBONDRMF
- ตราสารหนี้ไทย: KKP INRMF
- ทองคำ: BGOLDRMF
สารบัญ Thai ESG รายกอง (คลิกชื่อกองที่สนใจได้เลย)
สำหรับสายจัดพอร์ต (Asset Allocation) ห้ามพลาด !! กองทุนจัดชุด RMF ปี 2025 คัดให้ครบทั้งกลยุทธ์เสี่ยงสูง กลาง ต่ำ ได้ที่
สรุปโพยกองทุน RMF แนะนำ
มุมมองการลงทุนโดย Finnomena Funds ณ เดือนพฤศจิกายน 2025
หุ้นสหรัฐอเมริกา: KF-US-PLUSRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan Funds – US Select Equity Plus Fund ซึ่งคัดเลือกหุ้นสหรัฐอเมริกา โดยมีตั้งเป้าหมายให้ผลการดำเนินงานใกล้เคียงหรือดีกว่าดัชนี S&P500 บนความผันผวนที่ใกล้เคียงกัน
- กลยุทธ์ที่สำคัญคือ Long-Short Extension โดยพอร์ตหลัก (Core Portfolio) จะลงทุน Long ในหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวก 100% และเพิ่มพอร์ตส่วนขยาย (Extension Portfolio) ด้วยการขาย Short ในหุ้นที่มองเป็นลบ 30% แล้วนำเงินที่ได้ไป Long เพิ่มในหุ้นที่มองเป็นบวกอีก 30% ทำให้มี Net Market Exposure สุทธิที่ 100%
- การคัดเลือกหุ้นจะเน้นวิเคราะห์เชิงลึกปัจจัยพื้นฐาน (Bottom-up) มากกว่า 80% รวมถึงมีกลยุทธ์สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) ที่สำคัญคือ Pair Trades ซึ่งเป็นการสร้างคู่ Long และ Short ภายในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นโลก: KKP GNP RMF-UH
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Capital Group – New Perspective Fund ที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลก ซึ่งมีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของโลกอนาคต
- มีสไตล์การลงทุนที่สร้าง Alpha ในระยะยาว พร้อมกับรักษาความผันผวนของพอร์ตให้ไม่สูงเกินไป โดยผลตอบแทนมีความสัมพันธ์กับหุ้นโลก MSCI ACWI
- บริหารโดยทีมที่มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี โดย Portfolio Turnover ค่อนข้างต่ำเฉลี่ยที่ 25% และมีหุ้นกว่า 60% ถือครองมานานกว่า 5 ปี
- เลือกหุ้นแบบ Bottom-Up บริหารแบบ Multi-Manager ทำให้ครอบคลุมการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย มีการกระจายการลงทุนสูงมาก มีความต่อเนื่องของกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตัวผู้จัดการกองทุนรายเดียว ซึ่งเป็นความเสี่ยงทั่วไปของกองทุนส่วนใหญ่
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นโลก: K-GSELECTRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF ที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยเน้นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคาอยู่ในระดับเหมาะสม และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในวัฏจักรหุ้น Growth หรือ Value
- ใช้กลยุทธ์ Bottom-Up คัดเลือก 70-100 หลักทรัพย์ บริหารจัดการเชิงรุก (Active Management) เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนี MSCI World Net Return Index
- หุ้นที่จะเข้าลงทุนต้องผ่านการวิเคราะห์ด้วยกรอบการลงทุนที่เข้มงวด และวัดความสม่ำเสมอ ผสมผสานกับการประเมินด้าน ESG โดยเน้นคัดเลือกหุ้นโลกแบบ Best Idea จากทีม JPMAM Research ที่มีบทวิเคราะห์ครอบคลุมหุ้นทั่วโลกมากกว่า 2,500 ตัว
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
จัดพอร์ตผสม: ES-GAINCOMERMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Amundi Funds – Income Opportunities ซึ่งมีกลยุทธ์แบบ Global Multi-Asset Allocation เน้นลงทุนตราสารทุนไม่เกิน 60% และสามารถลงทุนในตราสารหนี้ได้ถึง 100% ในบางช่วงเวลา
- บริหารโดย ‘Marco Pirondini’ ที่มีประสบการณ์ลงทุนมากกว่า 25 ปี และทีมงาน Portfolio Management ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากกว่า 15 ปี
- มีสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้หลากหลายทั่วโลก คัดเลือกให้เหมาะสมตามแต่ละช่วงเวลา และเน้นสร้างกระแสเงินสดจากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
- ลดผลกระทบจาก Downside ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำ เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง จากการมีตราสารบางประเภทที่ให้ Yield สูงขึ้นในช่วงตลาดผันผวน อาทิ Structure Note เป็นต้น
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นกลุ่ม AI และ Big Data: TAIRMF-A
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Xtrackers Artificial Intelligence & Big Data UCITS ETF โดยมีวัตถุประสงค์สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Nasdaq Global Artificial Intelligence and Big Data
- สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence), การประมวลผลข้อมูล (Data Processing) และความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่
- จุดเด่นของกองทุนคือการเน้นให้คะแนนการคัดเลือกหุ้นจากการจดสิทธิบัตรด้าน AI (Patents) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าบริษัทได้ประโยชน์ด้าน AI อย่างแท้จริง
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นกลุ่ม Blockchain และ Digital Asset: ASP-DIGIBLOCRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลและบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี Blockchain
- โดยไม่ได้มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง แต่จะมีการลงทุนผ่านหลายช่องทาง เช่น ลงทุนตรงในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain และ Digital Asset หรือลงทุนในหน่วย CIS และ ETF
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี: B-INNOTECHRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Fidelity Funds – Global Technology ที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก
- บริหารโดยผู้จัดการกองทุน ‘Hyun Ho Sohn’ มากว่า 12 ปี และร่วมงานกับ Fidelity มากว่า 19 ปี
- คัดเลือกหุ้นแบบ Bottom-Up เน้นหุ้นเติบโต มูลค่าไม่แพง จัดออกมาเป็นพอร์ตหุ้นเทคโนโลยี P/E ต่ำ และมีความผันผวนน้อยกว่ากองทุนหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ
- เหมาะกับการเป็นกองทุนหุ้นเทคโนโลยีเพื่อเป้าหมายระยะยาว จากผลตอบแทนที่โดดเด่นนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อีกทั้งยังมีการลงทุนล้อไปกับกระแสด้าน AI
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นกลุ่มสุขภาพ: SCBRMGHC
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Janus Henderson Global Life Sciences Fund ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลก
- บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่มีประวัติการศึกษาในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ และมีประวัติการบริหารกองทุน Healthcare มานานกว่า 20 ปี
- มีหุ้น Healthcare หลากหลายธีม เช่น ผู้ผลิตยา ธุรกิจไบโอเทคโนโลยี ผู้ให้บริการด้านประกันสุขภาพ และมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนให้เหมาะสมอยู่เสมอ
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นเอเชียตลาดเกิดใหม่: B-ASIARMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Invesco Asian Equity Fund ซึ่งเน้นหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์)
- บริหารแบบเชิกรุก (Active) ค้นหาหุ้นเอเชียขนาดใหญ่ สภาพคล่องสูง พร้อมด้วยกลยุทธ์กระจายพอร์ตการลงทุนแบบมืออาชีพ ที่บางจังหวะได้เพิ่มน้ำหนักในหุ้นเอเชียบางตลาดที่หลายคนมองข้าม (Contrarian)
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนทำได้ดีกว่าดัชนีชี้วัด (Benchmark) นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นจีน All China: SCBRMMLCA
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายหลายตลาดแบบ All China บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์สูงของบลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM)
- คัดเลือกหุ้นด้วยการใช้ Machine Learning ด้วยข้อมูลหลากหลายมิติ จากนั้นทำ Portfolio Optimization เพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับเหมาะสม
- มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินแบบ Active ระหว่างสกุลเงินบาทและสกุลเงินที่ลงทุน (ดอลลาร์ฮ่องกงหรือหยวน) ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผลตอบแทนเหนือกองทุนหุ้นจีนกองอื่นที่ป้องกันความเสี่ยงคู่ค่าเงิน USD/THB จากการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นจีนหลักในสกุลดอลลาร์สหรัฐ
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นอินเดีย: B-INDIAMRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก Kotak Funds – India Midcap Fund ซึ่งเน้นไปที่หุ้นอินเดียขนาดกลางเป็นส่วนใหญ่ เพื่อรับอานิสงค์กลุ่ม Middle-Class ที่กำลังเติบโต
- กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นกว่า 10 ปี Kotak เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในประเทศอินเดีย ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนาน
- B-INDIARMF มีนโยบายการบริหาร FX Heding Policy อย่าง Active ทำให้ผลการดำเนินงานส่งต่อมาได้อย่างเต็มที่ในระยะยาว
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นเวียดนาม: PRINCIPAL VNEQRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- เป็นกองทุนแรกของประเทศไทยที่ทำการลงทุนในเวียดนามโดยตรง ทั้งหุ้น และ ETF
- วิเคราะห์และจัดพอร์ตโดยผู้จัดการกองทุนชาวไทยและเวียดนาม ซึ่งเชี่ยวชาญในการเลือกหุ้น และหา Sector ที่มีโอกาสเติบโตระยะยาว ด้วยมูลค่าที่เหมาะสม
- ใช้กลยุทธ์ Core-Satellite Port เน้นผลตอบแทนระยะยาว และมีการสับเปลี่ยนหุ้นบางส่วนตามสภาวะตลาดเพื่อเพิ่มผลตอบแทนระยะสั้น
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นไทย: THDRMF-A
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- เน้นลงทุนหุ้นไทยในดัชนี SETHD ที่มีการจ่ายปันผลดีอย่างสม่ำเสมอ
- คัดเลือกหุ้นจากปัจจัยพื้นฐาน โดยเน้นที่มีการเติบโตของรายได้และกระแสเงินสดที่ดี พิจารณาประวัติการจ่ายเงินปันผลช่วง 3-5 ปี และคาดการณ์แนวโน้มปันผลในอนาคตว่าจะยังคงจ่ายในอัตราที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ทำให้หน้าพอร์ตการลงทุนมีบริษัทที่จ่ายปันผลโดดเด่นประมาณ 20-25 บริษัท
- บริหารโดยผู้จัดการกองทุนสาย Value มากประสบการณ์ ซึ่งดูแลกองทุน TISCOHD ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและเป็นผู้จัดตั้งกองทุนดังกล่าว
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
ตราสารหนี้โลก: K-GDBONDRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก
- มีจุดเด่นที่การลงทุนแบบเชิงรุก (Active) ปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอ ภายใต้ความผันผวนที่ต่ำ
- บริหารกองทุนโดย PIMCO Asset Management บริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงด้านกองทุนตราสารหนี้มาอย่างยาวนาน
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
ตราสารหนี้ไทย: KKP INRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนทั้งในประเทศไทยเป็นหลัก ทั้งประเภทเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ และตราสารหนี้ภาคเอกชน โดยพิจารณาตราสารหนี้ที่มีฐานะการเงินดี และสภาพคล่องสูง
- บริหารจัดการแบบ Dynamic ซึ่งจะปรับอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในกองทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด และคัดเลือกตราสารหนี้ภาคเอกชนด้วยความเสี่ยงที่เหมาะสม
- กองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น บริหารงานโดยผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์ที่เคยได้รับรางวัล Finnomena Hall of Funds 2025
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
ทองคำ: BGOLDRMF
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในกองทุนหลัก SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่มีการซื้อขายและถือทองคำมากที่สุดในโลก
- BGOLDRMF ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลีี่ยน ทำให้ทิศทางของราคากองทุนสอดคล้องกับราคาทองแท่งในสกุลเงินบาท
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
สรุปโพยกองทุน Thai ESG แนะนำ
มุมมองการลงทุนโดย Finnomena Funds ณ เดือนพฤศจิกายน 2025
ตราสารหนี้ไทย: K-ESGBF-THAIESG
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ซึ่งเป็น Green bond, Sustainability bond และ Sustainability – linked bond
- เน้นลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป โดยมีโอกาสรับผลตอบแทนจากส่วนต่างเครดิต (Credit Spread) จากการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน
- พอร์ตการลงทุนมีดูเรชั่นเฉลี่ยปานกลางที่ 3-7 ปี ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด และมีโอกาสได้รับผลกระทบเชิงลบน้อยกว่าพอร์ตที่ดูเรชั่นยาวกว่า
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
กองทุนผสม: KTAG70/30-THAIESG
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในหุ้นที่ผ่านการคัดเลือก SET ESG Rating ในระดับ A ขึ้นไป สัดส่วน 70% และตราสารหนี้ประเภท Green Bond, Sustainability Bond และ Sustainability – Linked Bond สัดส่วน 30%
- เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ทั้งในส่วนตราสารหนี้และตราสารทุน
- ผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ ESG Integration และวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานรายบริษัทแบบเชิงลึกจากฝ่ายวิจัยของ บลจ.
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
หุ้นไทย Active: TDSTHAIESG-A
สรุปรายละเอียดและจุดเด่นกองทุน
- ลงทุนในหุ้นไทยคุณภาพดี ที่มีแนวโน้มจ่ายปันผลสูงและผ่านเกณฑ์การคัดเลือกหุ้น ESG
- บริหารแบบเชิงรุก (Active Management) เพื่อเน้นสร้างผลตอบแทนเหนือดัชนีชี้วัด SETESG TRI และบริหารโดยผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์ซึ่งพิสูจน์ฝีมือผ่านการบริหารกองทุน TISCOHD ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น
- เน้นคัดเลือดหุ้นแบบ Bottom-Up โดยพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เช่น การเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง, ผลประกอบการที่ดีและสม่ำเสมอ, มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง รวมถึงประวัติการจ่ายปันผลที่ดีและสม่ำเสมอในช่วง 3-5 ปี ที่ผ่านมา และพิจารณาการเติบโตของปันผลและแนวโน้มการจ่ายปันผลในอนาคต
ศึกษารายละเอียด นโยบาย ข้อมูล และความเสี่ยงของกองทุนเพิ่มเติม คลิกเลย
ขั้นตอนการคัดเลือกกองทุน
การคัดเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2025 ทั้ง RMF และ Thai ESG เราได้พิจารณาจากกองทุน F-Pick ในปัจจุบัน และทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Screening) และวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Screening) เพื่อให้ได้กองทุนลดหย่อนภาษีที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในระยะยาวจากกองทุนที่มีอยู่ทั้งหมดในประเทศไทย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Screening)
เราพิจารณาผลการดำเนินงานย้อนหลังระยะยาว (Long-Term Past Performance) ของกองทุนหลักในต่างประเทศเพื่อให้เห็นถึงผลการดำเนินงานในระยะยาวอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของผลตอบแทนและความเสี่ยงที่สอดคล้องกับระยะเวลาลงทุนในกลุ่มกองทุนลดหย่อนภาษี
แม้ว่าผลตอบแทนในอดีตจะไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต แต่ผลการดำเนินงานย้อนหลังในระยะยาวได้พิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุนผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่ากองทุนดังกล่าวเหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาวอย่างแท้จริง
การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Screening)
นอกเหนือจากผลการดำเนินงานในอดีตที่เป็นหลักฐานของความสำเร็จในอดีตของกองทุนแล้ว เราได้พิจารณาปัจจัยเชิงคุณภาพของกองทุนเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าความสามารถในอดีตจะสามารถส่งต่อไปยังผลการดำเนินงานในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยพิจารณาในเรื่องของปรัชญาการลงทุน (Investment Philosophy) และกระบวนการการลงทุน (Investment Process) เพื่อดูว่าภาพรวมการบริหารของกองทุนจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้ดีต่อเนื่องไปในระยะยาวได้หรือไม่
อีกทั้งได้เพิ่มการพิจารณาในส่วนของนโยบายการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging Policy) เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินที่ผันผวนและต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินในปัจจุบันเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงก่อนการลงทุนในกองทุนรวม และส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุนเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เชิงคุณภาพในหลายมิติ เพื่อที่จะทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุนสามารถสะท้อนออกมาสู่นักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม RMF และ Thai ESG กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | บางกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299
ASP-DIGIBLOCRMFB-ASIARMFB-INDIAMRMFB-INNOTECHRMFBGOLDRMFDIYES-GAINCOMERMFK-ESGBF-ThaiESGK-GDBONDRMFK-GSELECTRMFKF-US-PLUSRMFKKP GNP RMF-UHKKP INRMFKTAG70/30-ThaiESGPRINCIPAL VNEQRMFProduct InfoRMFSCBRMGHCSCBRMMLCASSF-RMF-SelectionTAIRMF-ATax Saving FundTDSThaiESG-ATESGThai ESGthaiESGTHDRMF-Aกองทุนประหยัดภาษี

