จัดพอร์ตสไตล์ Andrew Stotz ออกแบบครอบคลุมระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย กับ 3 พอร์ตให้เลือกลงทุน

ถ้าจะถามว่ากูรูท่านใดที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากโครงการ GURUPORT ก็คงจะหนีไม่พ้น Dr.Andrew Stotz ซึ่งตอนนี้ได้ออกพอร์ตมาทั้งหมดถึง 3 พอร์ตด้วยกัน ได้แก่ AWS, AWAF และ AWIG

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้ว 3 พอร์ตนี้แตกต่างกันอย่างไร? แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง? Finnomena Funds ขอพาทุกท่านไปเจาะลึกพอร์ตตระกูล All Weather ทั้ง 3 พอร์ตในบทความนี้

จัดพอร์ตสไตล์ Andrew Stotz นักวิเคราะห์การลงทุนชั้นนำของประเทศไทย ออกแบบครอบคลุมระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย กับ 3 พอร์ตให้เลือกลงทุน ทั้ง AWAF, AWS และ AWIG เริ่มต้นลงทุนง่าย ๆ ผ่าน Finnomena Funds ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลองสร้างแผนได้ที่ https://finno.me/plan-guruport-aws-ws

ลงทุนตามระดับความเสี่ยงนั้นสำคัญไฉน?

ในโลกแห่งการลงทุน สินทรัพย์แต่ละประเภทนั้นมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน  ซึ่งแน่นอนว่าผลตอบแทนที่สูงขึ้นย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นตามไปด้วย (high risk high return) ถ้าเราลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ อาจทำให้เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนตามที่ตั้งใจไว้ หรืออาจไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนเท่าที่ควรเป็น ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แต่จัดพอร์ตลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) ในที่สัดส่วนมากกว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไรเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้นไปอย่างน่าเสียดาย หรือหากคุณเป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่จัดพอร์ตลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูงในสัดส่วนที่มาก อาจทำให้คุณต้องกุมหัวคิดไม่ตกเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลง

ดังนั้น ควรประเมินความเสี่ยงของตัวเองก่อนลงทุนเสมอ และจัดสรรพอร์ตการลงทุนตามความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในโลกการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องตระหนักอยู่เสมอว่า “ไม่มีสินทรัพย์ใดที่สามารถเอาชนะตลาดได้ตลอดไป”

เลือกลงทุนในความเสี่ยงที่เหมาะสมตามสไตล์ Andrew Stotz

อย่างที่บอกไปในช่วงต้นว่า Andrew Stotz ได้ออกพอร์ตมาทั้งหมด 3 พอร์ตแล้ว ได้แก่ AWS, AWAF และ AWIG โดยทั้ง 3 พอร์ตนี้มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • ความเสี่ยงสูง: All Weather Alpha Focus (AWAF) 
  • ความเสี่ยงกลาง: All Weather Strategy (AWS)
  • ความเสี่ยงต่ำ: All Weather Inflation Guard (AWIG)

สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มด้วยพอร์ต All Weather Alpha Focus (AWAF)

พอร์ต All Weather Alpha Focus (AWAF) คือพอร์ตการลงทุนที่เน้นการสร้างโอกาสในการได้ผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) ระยะยาวทั้งในสภาวะขาขึ้นและขาลงของตลาดหุ้น ผ่านกลยุทธ์ในหลากหลายสินทรัพย์ กลุ่มอุตสาหกรรม ภูมิภาค และธีมการลงทุนต่าง ๆ ตามสภาวะตลาด (Tactical Allocation) เพื่อสร้างโอกาสการทำกำไรและช่วยบริหารความเสี่ยงในภาวะตลาดขาลง

  • ระดับความเสี่ยง: สูง
  • แนวทางการปรับพอร์ต: Rebalance ทุกไตรมาส หรือเมื่อต้องการลดความเสี่ยงสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ: 500,000 บาท

กลยุทธ์การลงทุนของพอร์ต AWAF

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของพอร์ต AWAF จะอ้างอิงจากโมเดล “FVMR Framework” ที่ถูกนำมาทดสอบอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่นำมาประกอบการวิเคราะห์ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้จริง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • F (Fundamental) วิเคราะห์ผ่านปัจจัยพื้นฐาน เช่น ผู้บริหารที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักในการดำเนินกลยุทธ์และขับเคลื่อนกำไรของบริษัท
  • V (Valuation) วิเคราะห์มูลค่าเพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนนั้น ๆ มีความได้เปรียบในการเข้าลงทุน เช่น วิเคราะห์ผ่านสัดส่วนทางการเงิน PE, PEG, PB
  • M (Momentum) มองหาโมเมนตัมกำไรและราคาเพื่อให้แน่ใจว่าสินทรัพย์นั้น ๆ มีคุณภาพในการขับเคลื่อนไม่จมไปกับมูลค่าและสามารถเข้าลงทุนได้
  • R (Risk) เลือกหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและเสถียร รวมถึงมีความเสี่ยงทางด้านการเงินและกำไรของบริษัทที่ต่ำ

 

พร้อมวิเคราะห์ผ่านปัจจัยมหภาค (Macro) โดยใช้โมเดล FVMR เพื่อทำให้แน่ใจว่าคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจมากที่สุดตามสภาวะตลาด

สัดส่วนการลงทุนของพอร์ต AWAF

  • หุ้น – 93%
  • ตราสารหนี้ – 3%
  • ทองคำ – 4%

พร้อมลุยทุกสภาวะตลาดด้วยพอร์ต All Weather Strategy (AWS)

พอร์ต All Weather Strategy (AWS) เป็นพอร์ตการลงทุนที่มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาวให้ได้มากที่สุด สัดส่วนหุ้นในพอร์ตสามารถปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่ 25-85% ตามสถานการณ์ พร้อมลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นด้วยการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ทั้งตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ และทองคำ เพื่อช่วยปกป้องพอร์ตในสภาวะตลาดผันผวน

  • ระดับความเสี่ยง: กลาง
  • แนวทางการปรับพอร์ต: Rebalance ทุกไตรมาส หรือเมื่อต้องการลดความเสี่ยงสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ: 500,000 บาท

กลยุทธ์การลงทุนของพอร์ต AWS (ณ เดือนกันยายน 2568)

เน้นสัดส่วน (Conviction) 25% ไปที่สินทรัพย์ 3 สินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ผ่านหลักแนวคิด FVMR เช่นเดียวกับพอร์ต AWAF ที่ช่วยให้นักวิเคราะห์ไม่พลาดตกหล่นปัจจัยที่เกี่ยวข้องไป

สัดส่วนการลงทุนของพอร์ต AWS (ณ เดือนกันยายน 2568)

  • หุ้น – 70%
  • ตราสารหนี้ – 5%
  • ทองคำ – 25%

ตั้งการ์ดรับเงินเฟ้อด้วยพอร์ต All Weather Inflation Guard (AWIG)

พอร์ต All Weather Inflation Guard (AWIG) เป็นพอร์ตการลงทุนระยะยาวเพื่อตอบสนองต่อสภาวะเงินเฟ้อโดยเฉพาะ เน้นลงทุนในพันธบัตรเป็นกลยุทธ์หลัก และลงทุนในหุ้นด้วยสัดส่วนปานกลาง พร้อมควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพอร์ตอื่น ๆ ของ Andrew Stotz โดยมีการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงไปยังพันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ และน้ำมัน เป็นพอร์ตที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเอาชนะเงินเฟ้อ และต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงิน

  • ระดับความเสี่ยง: ต่ำ
  • แนวทางการปรับพอร์ต: Rebalance ทุกไตรมาส หรือเมื่อต้องการลดความเสี่ยงสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ: 500,000 บาท

กลยุทธ์การลงทุนของพอร์ต AWIG

สำหรับพอร์ต All Weather Inflation Guard (AWIG) จะใช้กลยุทธ์ “FVMR” เช่นเดียวกับพอร์ต All Weather Alpha Focus (AWAF) และพอร์ต All Weather Strategy (AWS) โดยเป็นโมเดลที่ออกแบบโดย Andrew Stotz และทีมงาน ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการทดสอบปัจจัยต่าง ๆ ย้อนหลัง เพื่อให้แน่ใจว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่นำมาประกอบการวิเคราะห์ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้จริงและเข้ากับสถานการณ์ตลาดในแต่ละช่วงเวลา มีการวิจัยและทดสอบอย่างสม่ำเสมอ พร้อมตัดอคติออกจากการวิเคราะห์ในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยยึดการลงทุนในระยะยาวเป็นหัวใจสำคัญ

สัดส่วนการลงทุนของพอร์ต AWIG (ณ เดือนกันยายน 2568)

  • หุ้น – 25%
  • ตราสารหนี้ – 65%
  • ทองคำ – 10%

ประชันผลตอบแทน 3 พอร์ตตระกูล All Weather

จัดพอร์ตสไตล์ Andrew Stotz ออกแบบครอบคลุมระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย กับ 3 พอร์ตให้เลือกลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผลการดำเนินงานของดัชนีอ้างอิงและกลยุทธ์ถูกคำนวณจากมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) ของกองทุน ซึ่งเป็นตัวเลขหลังหักค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) แล้ว แต่ไม่รวมค่าธรรมเนียมการขาย เช่น front-end fees

ผลการดำเนินงานจริงของพอร์ต AWAF, AWS และ AWIG
ที่มา: A. Stotz Investment Research ณ วันที่ 30 พ.ย. 2568

จากภาพด้านบนเป็นกราฟเส้นแสดงผลตอบแทนจริงของพอร์ต AWAF (สีแดง) พอร์ต AWS (สีฟ้า) และพอร์ต AWIG (สีเขียว) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2025 จะเห็นได้ว่า พอร์ต AWS และ AWAF แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2023 ที่กราฟผลตอบแทนของทั้งสองพอร์ตพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2025 พอร์ต AWS สร้างผลตอบแทนได้ 39.2% และพอร์ต AWAF สร้างผลตอบแทนได้ 37.3%*

ในขณะเดียวกัน พอร์ต AWIG ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ แม้ผลตอบแทนโดยรวมจะไม่ได้สูงเท่าสองพอร์ตแรก แต่การเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปและควบคุมความผันผวนให้อยู่ในระดับต่ำถือเป็นจุดแข็งสำคัญของกลยุทธ์นี้ โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2025 พอร์ต AWIG สร้างผลตอบแทนอยู่ได้ 17.9%* ซึ่งบ่งชี้ว่าพอร์ตนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูง

*ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

สรุปรวม 3 พอร์ตตระกูล All Weather

จัดพอร์ตสไตล์ Andrew Stotz ออกแบบครอบคลุมระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย กับ 3 พอร์ตให้เลือกลงทุน

ทั้ง 3 พอร์ตใช้หลัก Asset Allocation ในการลงทุนเป็นหลัก ซึ่งมีการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลายประเภท ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และตราสารทางเลือก โดยจะจัดสรรสัดส่วนการลงทุนแต่ละประเภทสินทรัพย์ตามกลยุทธ์ของแต่ละพอร์ต มีการวิเคราะห์ผ่านโมเดล FVMR ที่ออกแบบโดย Andrew Stotz และทีมงาน ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้แน่ใจว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่นำมาประกอบการวิเคราะห์ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้จริง

ทั้ง 3 พอร์ต ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง 500,000 บาท โดยทุกพอร์ตไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการจัดพอร์ตลงทุน พร้อมมีบริการ Rebalance ปรับพอร์ตตามความสมควรและสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 พอร์ตนั้น มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผลตอบแทนคาดการณ์โดยเฉลี่ยมีความต่างกันตามไปด้วย พอร์ต AWAF ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นมากที่สุดในบรรดา 3 พอร์ต ในสัดส่วน 93% และลงทุนในตราสารหนี้เพียง 3% ในขณะที่พอร์ต AWIG ซึ่งเป็นพอร์ตที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ให้น้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้ถึง 65% ดังนั้น ลองสำรวจตัวเองและเลือกพอร์ตการลงทุนที่เหมาะกับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้

.

หากท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเกี่ยวกับสัดส่วนการลงทุนแนะนำ หรือรายละเอียดพอร์ต สามารถปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนของ Finnomena Funds ก่อนเริ่มลงทุนได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กรอกข้อมูลเพื่อรับบริการได้ที่ https://finno.me/wtg-ws

จัดพอร์ตสไตล์ Andrew Stotz นักวิเคราะห์การลงทุนชั้นนำของประเทศไทย ออกแบบครอบคลุมระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย กับ 3 พอร์ตให้เลือกลงทุน ทั้ง AWAF, AWS และ AWIG เริ่มต้นลงทุนง่าย ๆ ผ่าน Finnomena Funds ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลองสร้างแผนได้ที่ https://finno.me/plan-guruport-aws-ws


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน  | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”

Tax Cal