Finnomena Funds มองเป็นจังหวะและโอกาสในการลงทุน เมื่อตลาด Healthy Correction ปรับฐานระยะสั้นจากความกังวลเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ภาพเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
Highlight
- มุมมองการลงทุน FundTalk Call ค้นหาสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง ราคาไม่แพง แต่มีศักยภาพการเติบโตดี
- มุมมองการลงทุน Mr.Messenger Call สร้างโอกาสทำกำไรระยะสั้น โดยใช้ปัจจัยเทคนิคจับจังหวะตลาด
- มุมมองการลงทุน MEVT Call พิจารณาปัจจัยรอบด้าน เพื่อโอกาสทำผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
สรุปมุมมองการลงทุน
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา S&P 500 ปรับตัวลง -1.9% Nasdaq 100 ปรับตัวลง -2.2% และ Russell 2000 ปรับตัวลง -3.5% โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ที่ดีดขึ้นอีกครั้ง ภายหลังการประกาศตัวเลขจ้างงานแกร่งกว่าคาด ทั้ง Nonfarm Payroll เพิ่มขึ้นสู่ 2.56 แสนตําแหน่ง และ Unemployment Rate ลดลงสู่ระดับ 4.1% บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ทำให้ความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 ขยับออกไป
ด้านตลาดหุ้นฝั่งเอเชียก็โดนผลกระทบเช่นกันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) ปรับตัวลง -2.5% หุ้นจีน (CSI 300) ปรับตัวลง -1.1% หุ้นฮ่องกง (Hang Seng) ปรับตัวลง -3.5% หุ้นอินเดีย (Nifty 50) ปรับตัวลง -2.4% หุ้นเวียดนาม (VN30) ปรับตัวลง -2.1% หุ้นไทย (SET) ปรับตัวลง -1.2% มีเพียงหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.0%
อย่างไรก็ตาม Finnomena Funds มองว่าตลาดลงรอบนี้เป็นการปรับฐานระยะสั้น เพราะเชื่อว่าเงินเฟ้อจะยังอยู่ในขาลง ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อดัชนี CPI ของสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.3% MoM และ 0.4% MoM ตามลำดับ คงที่จากในช่วงเดือนก่อน แต่เรามองว่า CPI มีโอกาสปรับลดได้มากกว่าที่ตลาดคาด
ดูคำแนะนำทั้งหมดได้ที่ 👉 Opportunity Hub แหล่งรวมโอกาสการลงทุนจาก Finnomena
มุมมองการลงทุน FundTalk Call
โดย Jet – The Contrarian คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Contrarian Investor เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่หาสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง จนราคาปรับตัวลงลึกมากจนเกินไป แต่ศักยภาพการเติบโตยังดี ประกอบกับมีลมหนุนที่ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นได้ ทำให้มีโอกาสได้เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี ราคาถูก ตอนที่คนไม่เหลียวแล
1.) TISCOAI (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นเทคโนโลยี เน้นลงทุนในบริษัทที่จดสิทธิบัตรด้าน AI and Big Data โดยครอบคลุมธีม AI กลางน้ำและปลายน้ำ ทำให้จะได้รับประโยชน์เต็มที่จากการที่โลกพัฒนาเข้าสู่ยุค Agentic AI ซึ่งสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแทนมนุษย์ได้โดยอัตโนมัติ
2.) ASP-USSMALL-A (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นขาดกลาง-เล็กในสหรัฐฯ เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น ธุรกิจการเงินและอุตสาหกรรม จึงได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Trumponomics ที่เตรียมลดภาษีนิติบุคคล หนุนบริษัทในประเทศ อีกทั้งการย่อลงมาแรงถือเป็นโอกาสในการทยอยสะสม
3.) KT-ENERGY (ความเสี่ยงระดับ 7)
กองทุนหุ้นพลังงาน ยังคงมุมมองบวกจากนโยบายขยายกำลังการผลิตเพื่อส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในขณะที่โมเมนตัมของราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวขึ้น +3.04% WoW หลังนักลงทุนคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศมาตรการควํ่าบาตรที่มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมนํ้ามันและก๊าซของรัสเซีย
มุมมองการลงทุน Mr.Messenger Call
โดย Bank – The Trend Follower คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ Trend Follower Investor มุ่งสร้างโอกาสทำกำไรในระยะสั้น-กลาง เน้นใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด ศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ในอดีต โดยใช้หลักสถิติเพื่อนำมาคาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต และช่วยให้หาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม
1.) ASP-DIGIBLOC (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ยังมีแนวโน้มทะยานต่อได้จากนโยบายสนับสนุนของ Trump ที่เตรียมนำคริปโตมาเป็นเงินทุนสำรอง นอกจากนี้ กองทุนหลักยังมีการกระจายลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล
2.) SCBSEMI(A) (ความเสี่ยงระดับ 7)
กองทุนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เน้นลงทุนในหุ้น AI ต้นน้ำ รวมถึงเป็นธีม Growth Stock ที่มีโอกาสทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ หากการประกาศผลประกอบการในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ของหุ้นเทคโนโลยีเซมิตอนดักเตอร์ออกมายอดเยี่ยม โดยเฉพาะหุ้นผู้นำอย่าง Nvidia
3.) PRINCIPAL VNEQ-A (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นเวียดนาม เชื่อว่ารอบของการปรับฐานจบลงแล้ว หลังดัชนี VN30 ปรับตัวลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน อีกทั้งก็มีปัจจัยหนุนเชิงพื้นฐานเรื่องการได้ประโยชน์ China+1 จึงเตรียมเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
มุมมองการลงทุน MEVT Call
คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Long-Term Growth เพื่อสร้างโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะกลาง-ยาว โดยพิจารณาปัจจัยรอบด้านตาม MEVT Framework ได้แก่ Macro ปัจจัยเชิงมหภาค, Earnings วิเคราะห์การเติบโตของกำไร, Valuation การวิเคราะห์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน และ Technical ปัจจัยอื่น ๆ เช่น Fund Flow, Sentiment, Seasonal Statistic และ Technical Analysis
1.) AFMOAT-HA (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาที่มีป้อมปราการทางธุรกิจ (MOAT) ด้วยการ Selective Buy เน้นหุ้น Valuation ไม่แพง เป็นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก และมีความแข็งแกร่งในระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่การกระจายลงทุนแบบ Equal Weight
2.) B-INNOTECH (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นเทคโนโลยี เน้นคัดเลือกหุ้น Value Play โดยการเข้าซื้อหุ้นเติบโตในราคาไม่แพง ขณะเดียวกันปัจจัยเชิงพื้นฐานเฉพาะตัวยังคงดี เพราะประมาณการกำไรของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถือว่าเติบโตในระดับ 2 หลัก
3.) PRINCIPAL VNEQ-A (ความเสี่ยงระดับ 6)
กองทุนหุ้นเวียดนาม เป็นตลาดที่ถูกและดี ประกอบกับการมาของ Trump เร่งให้เกิด China+1 ในการย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีนเร็วขึ้น ซึ่งเวียดนามคือหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ รวมทั้งยังมีปัจจัยหนุนอื่น ๆ เช่น ความคืบหน้าเตรียมเข้าสู่ EM Market ของดัชนี FTSE ในปี 2025 และการถูกปรับประมาณกำไรเพิ่มเติม
ดูคำแนะนำทั้งหมดได้ที่ 👉 Opportunity Hub แหล่งรวมโอกาสการลงทุนจาก Finnomena
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299