กองทุนแนะนำ Finnomena

แนวโน้มการลงทุนในเดือนพฤษภาคม 2024 บรรยากาศต่าง ๆ ในภาพรวม เริ่มผ่อนคลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่ากำลังเข้าสู่โหมด Risk-On สร้างความเชื่อมั่นหนุนให้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง วิ่งกลับสู่ขาขึ้นอีกครั้ง

Finnomena Funds มองเห็นโอกาสการลงทุนในจังหวะนี้ จากปัจจัยบวกสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ ตัวเลขผลประกอบการ และโมเมนตัมตลาด ดังนี้

  • ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกแข็งแกร่งเกินคาด: ดัชนี Economic Surprise Index – Global เดือนเมษายน ชี้ให้เห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจอยู่ในแดนบวก โดยเฉพาะ Emerging Markets เช่น จีน และอินเดีย ซึ่งมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่อง
  • เงินเฟ้อผ่อนคลาย น้ำมันหยุดเทรนด์ขาขึ้น: ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น หลังเงินเฟ้อลดลง ขณะที่สหรัฐฯ แม้ Headline CPI ยังสูงกว่า 2% แต่คาดจะลดระดับลงเรื่อย ๆ หนุนโดยตัวเลขค่าเช่าบ้านใหม่ที่ประกาศออกมาน้อยลง รวมทั้งราคาน้ำมันหยุดเทรนด์ขาขึ้น เพราะสหรัฐฯ กลับมาผลิตน้ำมันได้เต็มที่ และการคว่ำบาตรอิหร่านมีโอกาสเกิดขึ้นยากแล้ว 
  • Bond Yield ไม่พุ่ง ดอลลาร์หยุดแข็งค่า โอกาสลดดอกเบี้ยกลับมาอีกครั้ง: จะเห็นว่า Bond Yield สหรัฐฯ น่าจะไม่พุ่งทะลุ 5% แล้ว หลัง Fed ชี้ชัดว่าไม่มีแผนจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ และโอกาสการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายน เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง ส่งผลเงินดอลลาร์หยุดแนวโน้มแข็งค่าตามไปด้วย
  • กำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงดีต่อเนื่อง: การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ในไตรมาส 1/2024 ยังออกมาเป็น Positive Surprise โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่

 

ดังนั้น เราจึงมีมุมมองเชิงบวกว่าดัชนีหุ้นโลกจะวิ่งกลับเข้าสู่ขาขึ้น นำโดยหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 ที่คาดจะกลับมาทำ All-Time High ได้อีกครั้งในไตรมาส 2 หนุนโดยหุ้นโลกสไตล์เติบโต ในขณะที่หุ้นเอเชียก็เริ่มมีโมเมนตัมดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่พลิกทำผลงานดีต่อเนื่อง

จึงสรุปคำแนะนำการลงทุนรับโอกาสตลาด Risk-On มองให้ขาดกับกองทุนแนะนำ ด้วยมุมมองจาก FundTalk Call Mr.Messenger Call MEVT Call ดังนี้

กองทุนแนะนำ Finnomena

อัปเดตมุมมองการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2024 โดย Finnomena Funds

กองทุนแนะนำ FundTalk Call

โดย Jet – The Contrarian คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Contrarian Investor เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่หาสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง จนราคาปรับตัวลงลึกมากจนเกินไป แต่ศักยภาพการเติบโตยังดี ประกอบกับมีลมหนุนที่ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นได้ ทำให้มีโอกาสได้เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี ราคาถูก ตอนที่คนไม่เหลียวแล

1.) TISCOAI

กองทุนหุ้นโลกเทคโนโลยี AI & Big Data (ความเสี่ยงระดับ 6) ซึ่งจะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรด้าน AI และ Big Data ในตลาด Nasdaq โดยแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากคาดว่าหุ้นโลกสไตล์เติบโตจะกลับมา Outperform 

2.) MEGA10-A

กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (ความเสี่ยงระดับ 6) ซึ่งเน้นลงทุนใน 10 บริษัท Global Brand ต้องมีมูลค่าหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ และมีสภาพคล่องสูง แนะนำ “ซื้อ” เพื่อรับโอกาสในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยการลงทุนกับหุ้นผู้ชนะที่แท้จริง

3.) K-SEMQ

กองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ (ความเสี่ยงระดับ 6) ลงทุนในประเทศที่มีอัพไซด์ค่อนข้างสูง หนุนโดยประเทศจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย และบราซิล แนะนำ “ซื้อ” รับดัชนี MSCI Emerging Markets กลับทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังปรับฐานในเดือนเมษายน

กองทุนแนะนำ Mr.Messenger Call

โดย Bank – Trend Follower คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ Trend Follower Investor มุ่งสร้างโอกาสทำกำไรในระยะสั้น-กลาง โดยเน้นการใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด ศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ในอดีต โดยใช้หลักสถิติเพื่อนำมาคาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต และช่วยให้หาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม

1.) KFJPINDX-A

กองทุนหุ้นญี่ปุ่น (ความเสี่ยงระดับ 6) เป็น Passive Fund มุ่งหวังให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Nikkei 225 มองเป็นจังหวะย่อซื้อ หลังดัชนีปรับตัวลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน และสามารถกลับมายืนเหนือแนวรับสำคัญ พร้อมเกิด Buy Signal

2.) PRINCIPAL VNEQ-A

กองทุนหุ้นเวียดนาม (ความเสี่ยงระดับ 6) ถึงเวลากลับเข้า “เก็งกำไร” หลังจากที่เริ่มย่อตัวลงมา และดัชนีทำสัญญาณกลับตัวอีกครั้ง พร้อมรับโอกาสในประเทศที่เชื่อว่ามีศักยภาพการเติบโตในอนาคต 

3.) B-BHARATA TISCOINA-A

กองทุนหุ้นอินเดีย (ความเสี่ยงระดับ 6) แนะนำ “ซื้อ” ด้วยมุมมองระยะยาว เพราะเป็นจังหวะขาขึ้นของตลาดหุ้นอินเดีย ซึ่งได้เปรียบจากเศรษฐกิจอันแข็งแกร่ง และคาดว่าจะเป็นดาวดวงใหม่ของเอเชีย

กองทุนแนะนำ MEVT Call

คำแนะนำการลงทุนในกองทุนเด่นที่มีโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะกลาง-ยาว โดยพิจารณาปัจจัยรอบด้านตาม MEVT Framework ได้แก่ Macro ปัจจัยเชิงมหภาค, Earnings วิเคราะห์การเติบโตของกำไร, Valuation การวิเคราะห์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน และ Technical ปัจจัยอื่น ๆ เช่น fund flow, sentiment, seasonal statistic และ technical analysis

1.) UOBSA

กองทุนหุ้น Asia ex Japan (ความเสี่ยงระดับ 6) แนะนำ “ทยอยสะสม” พร้อมรับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคที่ฟื้นตัว และมีอัพไซด์จากดอลลาร์ใกล้อ่อนค่า เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียชัดเจนมากขึ้น

2.) ONE-EUROEQ

กองทุนหุ้นยุโรป (ความเสี่ยงระดับ 6) แนะนำ “ทยอยสะสม” หลังเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวดีต่อเนื่อง และผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ Valuation ยังไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับหุ้นโลก หนุนโดยกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เติบโต

3.) SCBKEQTG

กองทุนหุ้นเกาหลีใต้ (ความเสี่ยงระดับ 6) แนะนำ “ทยอยสะสม” เป็นจังหวะฟื้นตัวตามวัฏจักร Semiconductor และยังมีปัจจัยหนุนจากโครงการ Value-up program เพื่อส่งเสริมมูลค่าตลาดหุ้น โดย Valuation ก็ยังไม่แพง 

กองทุนไหนดี ดูคำแนะนำทั้งหมดได้ที่ 👉 finno.me/opphub

ไหน ๆ จะลงทุนทั้งที การไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเต็มเนี่ย ออกจะฟินสุด ๆ ทีมงานมัดรวม FINT Cashback ตามลิงก์ข้างล่างเลย 👇🏻👇🏻👇🏻

1️⃣ อยากใช้ FINT Cashback ต้องเข้าตรงไหน?
💡 Link : https://www.finnomena.com/fint/cashback

2️⃣ สอนใช้ FINT Cashback แบบจับมือทำ
💡 Link : https://youtu.be/Zsrs7URDUwM?si=uROVCvLFIvA_Au0f

3️⃣ กองทุนที่เราจะลงทุน เข้าร่วม Cashback ไหม?
💡 Link : https://www.finnomena.com/fint/cashback/fund-list

4️⃣ อยากรู้ลึกๆ ว่า FINT Cashback คืออะไร?
💡 Link : https://docs.fint.finance/fint-token/use-fint-fint/cashback-from-fee

 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

เปิดโหมด Risk-On!