Rare Earth จีน

Rare Earths ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่าง 2 มหาอำนาจ ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์จีนออกมาโต้ว่า สหรัฐฯ “สร้างความตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น” พร้อมยืนยันว่าทางจีนเปิดกว้างต่อการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะรอบใหม่ของสงครามการค้า

เหอ หยงเชียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า “การตีความของสหรัฐฯ ทำให้มาตรการของจีนถูกบิดเบือนและเกินจริง จนเกิดความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนกในตลาด” พร้อมย้ำว่า การจำกัดการส่งออกแร่หายากเป็นเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ โดยมุ่งป้องกันการนำทรัพยากรไปใช้ในอาวุธทำลายล้างสูง

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ มองต่างออกไป โดยเจมีสัน เกรียร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนพยายาม “ควบคุมห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีของโลก” และเตือนว่าการกระทำของทางจีนจะเป็นตัวกำหนดว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า 100% ต่อสินค้าจีนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้หรือไม่

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีกำหนดพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเกาหลีใต้ภายในเดือนนี้ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจเป็น “โอกาสสุดท้าย” ก่อนสงครามการค้ารอบใหม่จะปะทุ

ในอีกมุมหนึ่ง สก็อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลอาจเข้าซื้อหุ้นในบริษัทเหมืองแร่หายากเพิ่มเติม หลังเพิ่งบรรลุข้อตกลงถือหุ้นใน MP Materials ผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานในประเทศ ลดการพึ่งพาจีน

“เราต้องพึ่งพาตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ต้องพึ่งพาพันธมิตร” เบสเซนท์กล่าว พร้อมระบุว่า สหรัฐฯ จะใช้ นโยบายอุตสาหกรรม (Industrial Policy) เพื่อตอบโต้เศรษฐกิจแบบไม่เสรีของจีน

แร่หายากมีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ตั้งแต่มอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้า ชิปเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงระบบอาวุธ เช่น เครื่องบินขับไล่ F-35 และขีปนาวุธ Tomahawk โดยจีนครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 70% ของการผลิตทั่วโลก


อ้างอิง: CNBC

Tax Cal