รู้งี้ ดีจริงหรือ?

รู้อะไรไม่สู้เท่ารู้งี้ (รู้อย่างนี้)

1 ในคำพูดติดปากของนักลงทุนหลายๆ ท่าน ที่แสดงออกถึงความเสียดายทางการตัดสินใจของตนในช่วงเวลาก่อนหน้า เช่น ลังเลว่าจะซื้อ ถือ หรือขายหุ้นสักตัวดี แล้วนักลงทุนท่านนั้นก็ตัดสินใจขาย ปรากฏว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อ ส่งผลให้ รู้อย่างนี้ซื้อเพิ่มดีกว่า

ทำให้เกิดคำถามว่า หาก ”รู้งี้” ล่วงหน้าได้จริง จะช่วยให้อัตราผลตอบแทนของการลงทุนดีขึ้นอย่างมีนัยยะหรือไม่ ก็เลยเกิดเป็นการทดลองขึ้นมาว่า กำหนดให้มีพอร์ตการลงทุน 3 พอร์ตด้วยกัน ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งในที่นี้จะใช้ SET TRI ที่เป็นตัวแทนของอัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยรวมเงินปันผลเอาไว้ด้วย โดยมีวิธีการลงทุนคือ ทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะสมมูลค่าให้เติบโตในระยะยาว โดยไม่มีการขายออกระหว่างทาง โดยแบ่งออกเป็น 3 พอร์ตการลงทุนประกอบไปด้วย

God Mode Port

หรือ พอร์ตพระเจ้า ที่มีจุดเด่นคือ มีญาณหยั่งรู้ทั้งอดีตและอนาคต มีลักษณะสำคัญ คือ

  1. สามารถเข้าลงทุนได้ที่จุดต่ำสุดทุกครั้งที่ตลาดมีการปรับตัวลง (รู้อนาคต)
  2. สามารถนำเงินลงทุนล่วงหน้าตั้งแต่การจุดต่ำสุดในครั้งนี้ จนสิ้นสุดการปรับตัวขึ้นมาลงทุนในปัจจุบันได้ (ย้อนอดีต)

Sniper Mode Port

หรือ พอร์ตสไนเปอร์ ที่มีลักษณะใกล้เคียงพอร์ตพระเจ้า คือ มีความแม่นยำสูง สามารถเข้าลงทุนได้ที่จุดต่ำสุดทุกครั้งที่ตลาดมีการปรับตัวลง แต่ด้วยความที่ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาสามัญอยู่ ทำให้ไม่สามารถดึงเงินในอนาคตมาทำการลงทุนได้ แต่จะใช้เงินสดที่เก็บออมจากงวดก่อนๆที่ตลาดยังไม่ปรับตัวลงนั้นมาลงทุนแทน

DCA Port

พอร์ต Dollar Cost Average แบบปรกติ ที่เน้นการกระจายการลงทุน และซื้ออย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระจายการลงทุน

โดยที่ทั้ง 3 พอร์ตการลงทุนจะมีเงินลงทุนเท่ากันก็คือ 6,600 บาท (ไตรมาสละ 100 บาท 66 ไตรมาส)

รู้งี้ ดีจริงหรือ?

ผลปรากฏว่า ผ่านมาถึงปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนแบบ DCA นั้นสามารถทำให้เงินเติบโตขึ้นเป็น 20,590 บาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่น้อยที่สุด อันดับที่ 2 พอร์ตสไนเปอร์ เงินลงทุนเติบโตขึ้นเป็น 21,192 บาท และ พอร์ตพระเจ้าผู้หยั่งรู้ เงินลงทุนเติบโตขึ้นเป็น 26,239 บาท มากกว่าจากพอร์ต DCA ถึง 5,649 บาท หรือ  27% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าค่อนข้างมีนัยยะอย่างยิ่ง

แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนจะมีความสามารถเหมือนพระเจ้าทั้งแม่นในการจับจังหวะ และ ใช้กระแสเงินสดในอนาคต ทำให้คงต้องย้อนกลับมาดูที่พอร์ตสไนเปอร์ ที่มีความแม่นยำสูง อาศัยการอดทนรอจังหวะที่ตลาดปรับตัวลงต่ำสุดเท่านั้นจึงจะลงทุน กลับให้ผลการลงทุนต่างจากพอร์ต DCA เพียง 602 บาท หรือคิดเป็นเพียง 2.92% เท่านั้น ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าไม่มีนัยยะใดๆต่อพอร์ตโดยรวม

ในขณะที่ความผันผวนซึ่งเป็นอีก 1 ปัจจัยทางการลงทุนที่สำคัญที่ต้องจับตามองนั้น 2 พอร์ตมนุษย์ธรรมดานั้นมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่พอร์ตพระเจ้านั้นสามารถเอาชนะได้ทุกพอร์ตซึ่งรวมไปถึงตัวราคาสินทรัพย์อ้างอิงอย่าง SET TRI ด้วย

นำมาสู่คำถามสำคัญข้อต่อมา คือ ทำไม?

ทำไมการลงทุนแบบสไนเปอร์ ที่มีความแม่นยำชนิดจับวางนั้น ถึงไม่สามารถเอาชนะการลงทุนแบบ DCA ได้อย่างเด็ดขาด คำตอบที่สำคัญก็คือ ช่วงจังหวะที่เราอดทนรอจังหวะนั้น ตลาดค่อยๆทยอยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถึงแม้นักลงทุนจะซื้อได้ที่จุดต่ำสุดในรอบการปรับฐานนั้นๆเสมอ ก็มิอาจที่จะมีจำนวนหน่วยลงทุนโดยเฉลี่ยได้มากเท่ากับการลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วย DCA ได้ ทำให้นักลงทุนเสียโอกาสในช่วงที่รอจังหวะตลาดปรับตัวลง ณ ตอนนั้น และทำให้ถึงแม้จะแม่นเท่าใด ก็เอาชนะคนธรรมดาที่มีวินัยได้ยาก เว้นแต่จะลงทุนแบบพระเจ้าเท่านั้น…..

อ่านข่าวนอก