หากทุกท่านได้มีโอกาสติดตามหุ้นบริษัท PLANB ในตลาด SET ช่วงเวลาที่ผ่านมา ในวันที่ 3 ก.ค. 63 ทำราคาปิด 6.35 บาท ขึ้นมามากกว่า 1 เด้ง จากวันที่ 26 มี.ค. 63 ที่ราคาเปิด 2.50 บาท มาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งธุรกิจโฆษณาและธุรกิจบันเทิงได้รับผลกระทบหนัก 

ก่อนหน้านี้ ผม Kuma Investo ได้เขียนบทความ เรื่อง “ทิศทาง BNK48 หลัง PLANB เข้าซื้อหุ้น BNK48” ย้อนกลับไปวันที่ 23 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) แจ้งกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะเข้าซื้อหุ้นบริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด (iAM) หรือชื่อเดิม บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จำกัด ที่รู้จักกันในฐานะต้นสังกัดของศิลปินไอดอลวง “BNK48” ในสัดส่วนร้อยละ 35 ของกิจการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 182 ล้านบาท 

ในวันนี้จึงกลับมาดูหุ้นตัวนี้อีกครั้งที่ผมสนใจเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการลงทุนในกลุ่มศิลปินที่เรียกว่า “ไอดอล” ที่ผมได้ติดตามมุมมองธุรกิจนี้ในฐานะแฟนคลับ และนักลงทุน ซึ่ง ณ ตอนนั้นมีความนิยมอย่างมาก สร้างปรากฏการณ์ในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยถึงความนิยมในธุรกิจศิลปิน “ไอดอลกรุ๊ป”

ถามว่าความน่าสนใจของหุ้น PlanB ในปัจจุบันคืออะไร

เหตุการณ์ก่อนหน้าวิกฤต COVID-19 บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGIซึ่งประกอบธุรกิจสื่อโฆษณาออนไลน์เช่นเดียวกับ PLANB ได้ประกาศลงทุนซื้อหุ้น PLANB ในราคา 4.6 พันล้านบาท จากเดิมที่ VGI และ PLANB มีธุรกิจทับซ้อนกันอยู่ จึงเกิดการแข่งขันมอบส่วนลดให้กับเอเจนซี่โฆษณาหรือผู้ซื้อสื่อ แต่เมื่อรวมตัวเป็นพันธมิตรกันแล้ว อำนาจการต่อรองของบริษัทจึงมากขึ้น ส่วนลดที่เสียน้อยลงกว่าแต่ก่อน นี่คือความน่าสนใจในการต่อรอง และความแข็งแกร่งของธุรกิจที่ PLANB มี เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มสื่อตัวอื่นๆ  

แล้วธุรกิจ “ไอดอล” ศิลปินประเภทนี้ยังสร้างคุ้มค่าและกำไรแก่ PLANB มากน้อยแค่ไหน การที่หุ้นกลับมาโต 1 เด้ง เป็นเพียงแค่ขึ้นตามตลาดหรือเปล่า กระแสที่หลายๆ คนนิยามว่าความนิยมของศิลปินในรูปแบบ “ไอดอลกรุ๊ป” ที่ PLANB ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้ เริ่มเข้าสู่ช่วง “ขาลง” หรือไม่ ณ ปัจจุบัน PLANB ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ 36.9% ใน บริษัท แอทมอส สปอร์ต แล็บ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจจัดหา นำเข้า จัดจำหน่ายสินค้าประเภทกีฬาและแฟชั่น คืนแก่บริษัท แอทมอส (แบงคอก) จำกัด หรือร้าน atmos Bangkok ในราคา 12.95 ล้านบาท และได้เปลี่ยนแนวทางเข้าซื้อหุ้น บริษัท กู๊ดธิงแฮพเพ่น จำกัด (GOOD THINGS) 41% เพื่อดำเนินการธุรกิจประกอบสื่อบันเทิง โดยใช้เงินลงทุนราว 3.92 ล้านบาท ผ่านบริษัทลูก MSD และบริษัท iAM นั้นคือคำตอบที่นอกเหนือจากความแข็งแกร่งทางด้านสื่อโฆษณาที่มี การซื้อหุ้น GOOD THINGS ทำให้ PLANB และหุ้น BNK48 มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำไม PLANB ถึงยังตัดสินใจลงทุนเพิ่ม และมองเห็นโอกาสใน BNK48  ไอดอลกรุ๊ปวงนี้อยู่ ติดตามได้ในบทความหน้าครับ

Kuma Investo