สรุป 14 ไอเดียลงทุนปี 2022 จาก ARK Invest
Big Idea 2022 มาแล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีคนเขียนถึงเพราะยาวมากจริง ๆ รอบนี้ป้ามาให้กาวชุดใหญ่ถึง 132 หน้า!
แต่หน้าที่สำคัญที่สุดอยู่ที่หน้า 2 ซึ่งคนมักมองข้าม ซึ่ง ARK Invest เขียนคำเตือนไว้ว่า พวกเขาเชื่อว่า Disruptive Innovation จะมาทดแทน Technology เก่า รวมถึงสร้างตลาดใหม่ ๆ ที่ตอนนี้ยังไม่มีอยู่จริง ซึ่ง Present เป็นการให้ข้อมูลเท่านั้น มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนและอาจมีการปรับคาดการณ์ในอนาคตใหม่ได้
ดังนั้น ซู๊ดดดกาว กันอย่างมีสตินะครับ
ARK Invest เชื่อว่าเรากำลังอยู่ในยุคที่เปลี่ยนผ่านสู่ยุคแห่งนวัตกรรม ซึ่งเกิดขึ้นไม่ได้ในอดีต แต่เพราะการพัฒนาของนวัตกรรม 5 หมวดที่จะเติบโตอย่างรวดเร็จอย่างน้อยจนปี 2030 (ARK ใช้คำว่า Innovation Platform) ได้แก่
  1. นวัตกรรม AI เติบโตจาก $10.5T→$108T คิดเป็น 26% CAGR
  2. นวัตกรรม Battery เติบโตจาก $1.5T→32T คิดเป็น 35% CAGR
  3. นวัตกรรม Blockchain เติบโตจาก $1.4T → $49T คิดเป็น 43% CAGR
  4. นวัตกรรม Robotic เติบโตจาก $168B→$10T คิดเป็น 51% CAGR
  5. นวัตกรรม Gene Sequencing เติบโตจาก $125B→$3.6T คิดเป็น 40% CAGR
โดยกลุ่มที่ไม่มี Innovation จะเติบโตได้น้อยมากจาก $94T→$126T คิดเป็น 3% CAGR เท่านั้น
นวัตกรรมข้างต้นจะเป็นตัวแปลงสำคัญที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ซึ่ง ARK เชื่อว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการลงทุนในกลุ่ม Disrupt Innovation และ มองเห็นความเป็นไปได้ที่จะลงทุนในกว่า 14 ไอเดีย เพราะ Innovation เหล่านี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากต้นทุนที่ลดลงรวดเร็ว และความต้องการที่มากขึ้นในหลากหลายธุรกิจปลายน้ำ

Artificial Intelligence (AI)

เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการฝึก AI เพื่อนำไปใช้งานต่อนั้น ลดลงปีละ 60% ARK เชื่อว่า AI จะเข้าไปแทนที่งานของเหล่าแรงงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เร่งความเร็วในการผลิต และลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับแรงงานได้ นอกจากนี้การเขียน Code และ พัฒนา AI ในปัจจุบัน ทำได้ง่ายและมีระบบช่วยเหลือ เขียน Code อัตโนมัติต่าง ๆ มากกว่าในอดีตมาก ๆ ARK จึงมองว่าทั้งบริษัท AI Hardware และ Software จะสามารถเติบโตได้ถึง 50% CAGR โดย AI Software จะเป็นตัวเร่งให้เกิด Demand ใน AI Hardware อีกที และอุตสาหกรรมจะสามารถเติบโตจาก $2.5T ในปัจจุบัน เป็น $87T ในปี 2030

Digital Consumers

ผู้บริโภคใช้เวลาและเงินบนโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งโซเชียล ความบันเทิง รวมถึงการใช้จ่ายออนไลน์ จากปัจจุบันที่ผู้บริโภคใช้เวลาบนโลกออนไลน์ประมาณ 38% ARK คาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 52% ในปี 2030 และจะมีรูปแบบ platform ใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น Game ที่เปลี่ยนเป็น Social Media ซึ่งจากข้อมูล การใช้จ่ายของผู้บริโภค งบโฆษณา และค่าธรรมเนียม ARK มีมุมมองว่าส่วน Digital Consumers จะเติบโตจาก $1.8T→$4.1T คิดเป็น 18% CAGR ภายในปี 2026

Digital Wallet

Digital Wallet และ Cash App ทั่วโลกกำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากธุรกิจการเงินแบบดั่งเดิม รวมถึงการให้บริการโบรกเกอร์ และสินเชื่อ และอื่น ๆ เพราะสามารถให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานและ ค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ในขณะที่ Digital Wallet มีต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้าน้อยกว่าธุรกิจการเงินแบบดั่งเดิมมาก โดยพบว่าผู้ใช้งานใน US มีการใช้บริการของ Digital Wallet ที่หลากหลายรวมกันกว่า $22,500 ต่อคน และยังเติบโตได้อีกจากโอกาสในอนาคตจากการมาของ Web3 เช่น NFT ARK มีมุมมองว่า Digital wallet ทั่วโลกจะสามารถเติบโตจาก $1.1T→$20T คิดเป็น 78% CAGR ในปี 2026

Public Blockchain

Blockchain เป็นสิ่งที่จะเข้ามา Disrupt การเงินและ Internet แบบเดิม ลดความจำเป็นที่เราผูกความเชื่อใจไว้กับสถาบันการเงินหรือบริษัทต่าง ๆ ที่อิงอยู่กับระบบบัญชี รัฐบาล และกฏหมายข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่ง Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่เอื้อให้เกิดการปฏิวัติจาก 2 นวัตกรรมคือ DeFi และ Web3

Bitcoin

ARK เห็นว่าการที่ Bitcoin สามารถทำ All time high ได้ในปี 2021 เป็นสัญญาณที่ดีทาง Network Fundamental โดยมีผู้ถือ Bitcoin ในระยะยาวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา และมีปริมาณการซื้อ-ขายเพิ่มขึ้นกว่า 463% YoY ในปี 2021 ที่ผ่านมา มากกว่าการใช้จ่ายบน Visa กว่า 20% ในปัจจุบันมีสถาบัน ประเทศ และบริษัท ถือ Bitcoin อยู่ประมาณ 8% ของ Supply ทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้การขุด Bitcoin ได้พัฒนากลายเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้รวมกันกว่า $16.7B ในปีที่ผ่านมา ARK เชื่อว่า Bitcoin จะเป็น New Asset Class ไม่ต่างจาก Real Estate, Bond, M2 Equities และ Gold ซึ่ง Bitcoin จะเติบโตอีก 26 เท่าในปี 2030 หรือเป็นมูลค่ากว่า $1M ต่อเหรียญ ซึ่งเป็นการคิดจาก Fund Flow ใน Asset ต่าง ๆ ที่ย้ายเข้ามาใน Bitcoin

Ethereum & Defi

Etherreum (ETH) จะกลายเป็น Global Financial Service ที่สามารถโตได้มากถึง 56 เท่าใน 10 ปีต่อจากนี้ และมี Market Cap ราว ๆ $22.5T (ปัจจุบัน $0.3T) โปรเจกต์ต่าง ๆ ที่สร้างบน Chain จะมีธุรกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมความโปร่งใสที่มากขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ถูกลง

Web3

ARK มองว่าจากการที่ผู้บริโภคหันมาใช้เวลาและใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้ Digital Asset มีความสำคัญเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งสังเกตจากความต้องการในการซื้อ NFT ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ARK มีความเห็นว่า NFT จะสร้างความบันเทิง ธุรกิจใหม่ ๆ และเป็นตัวที่ลดเส้นแบ่งระหว่างการบริโภคและการลงทุน ทั้งนี้ Web3 จะช่วยเร่งความเร็วการเปลี่ยนผ่านจากโลก Physical สู่โลก Digital ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของ Digital Asset โดยไม่ต้องผูกติดกับบริษัทต่าง ๆ โดย ARK เชื่อว่า Web3 จะสามารถเติบโตจาก $1.4T เป็น 12.5T ในปี 2030 คิดเป็น 28% CAGR

Gene Editing

ARK ให้ความเห็นว่าการนำ AI มาใช้ร่วมกับเทคนิค DNA Sequencing และ CRISPR Gene Editing จะเข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรม Health Care และเพิ่มโอกาสการค้นพบใหม่ ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในจุดที่นวัตกรรมการตัดต่อพันธุกรรมกำลังเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จุดเด่นของ Gene Editing และ CRISPT คือทำให้การรักษานั้นเกิดที่ต้นเหตุจริง ๆ ตรงจุดในแบบเฉพาะบุคคล ไม่ใช่แค่บรรเทาหรือรักษาตามอาการ เทคนิค CRISPT มีต้นทุนและระยะเวลาการดำเนินงาน ฃที่ต่ำกว่าการตัดต่อพันธุกรรมแบบเดิม ๆ ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมากจากสถาบันวิจัยต่าง ๆ โดยสังเกตได้จากจำนวน Paper และ Project เกี่ยวกับการตัดต่อพันธุกรรมในขั้น Clinic Trials ปัจจุบันแทบจะเป็นเทคนิค CRISPT ทั้งหมดแล้ว โดย ARK คาดการณ์ว่าบริษัทในอุตสาหกรรมนี้จะสามารถเติบโตได้ถึง 54% CAGR จาก $130B→$1.1T ในปี 2026

Multiomics

การผสมผสานศาตร์ทางชีววิทยาหลาย ๆ ศาสตร์เข้าด้วยกัน จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถปลดล็อคความลับที่อยู่ในรหัสพันธุกรรมได้ Project การเข้าใจถึงรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ได้สำเร็จในปีที่ผ่านมา หลังจากพัฒนามาตั้งแต่ปี 2003 เพื่อ สร้าง Next-Generation Sequencing นับเป็นความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญอีกหนึ่งครั้ง ซึ่งจะนำมาซึ่งสุขภาพของมนุษย์ที่ดีขึ้น พร้อมเครื่องมือและวิธีการรักษาใหม่ ๆ เช่น Plasma Serum โดย ARK คาดว่าอุตสาหกรรมจะสามารถเติบโตจาก $110B เป็น $300B คิดเป็น 22% CAGR ใน 5 ปีข้างหน้า

Electric Vehicles

ด้วยระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 คร้ังที่เพิ่มขึ้น กับราคาของรถ EV ที่ถูกลง เป็นสาเหตุให้ Adoption เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในปี 2021 ที่ผ่านมา ยอดขายรถ EV ทั่วโลกโตกว่า 112% ในขณะที่รถยนต์สันดาปเติบโตเพียง 1.7% เท่านั้น ราคา Battery ถูกลงอย่างรวดเร็ว โดยทุก ๆ การส่งมอบ Battery ที่เพิ่มขึ้น 1 เท่าจะช่วยลดราคา Battery ลง 28% ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาของ EV ต่ำกว่าราคารถยนต์สันดาบในปี 2025 โดย ARK คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรม EV จะสามารถส่งมอบรถได้กว่า 40 ล้านคันในปี 2026 และ Tesla ยังเป็นผู้นำในตลาดนี้ ARK มองว่า Performance ของรถ EV แบรนด์อื่นโดยเฉลี่ย อยู่ในระดับเดียวกับ Tesla ปี 2018 เท่านั้น

Autonomous Ride Hailing

ARK เชื่อว่าจะมี Air Taxi เกิดขึ้นเพราะการมาของระบบขับขี่อัตโนมัติ อีกทั้งระบบขับขี่อัตโนมัติทั้งบนภาคพื้นดินและในอากาศจะช่วยลดต้นทุนในการขับขี่ให้เหลือเพียงประมาณ 12% จากปัจจุบันเท่านั้น และจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่าทุกนวัตกรรมที่เคยเกิดขึ้นบนโลก โดยตั้งแต่ปี 1934 ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของรถยนต์อยู่ที่ $0.7 ต่อไมล์และคงที่มาตลอด แต่การมาของระบบขับขี่อัตโนมัติจะช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อไมล์ให้เหลือเพียง $0.25 เท่านั้น โดย ARK มองว่า Platform การขับขี่อัตโนมัติจะช่วยให้ Global GDP ขยายตัวอีก $26T ในปี 2030 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021 Global GDP อยู่ที่ $89T)

Autonomous Logistic

การขนส่งอัตโนมัติจะเกิดขึ้นทั้งในรถบรรทุก โดรน และหุ่นยนต์ขนส่ง (ถ้านึกภาพหุ่นยนค์ไม่ออกให้นึกถึงรถบังคับ ที่สามารถบรรจุของลงไปได้ หรือ Search Google “meituan delivery robot”) การขนส่งอัตโนมัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และลดต้นทุนในการขนส่ง โดยการขนส่งด้วยรถบรรทุกจะมีต้นทุนลดลง 50% การขนส่งโดยใช้หุ่นยนต์แทนรถขนส่งจะมีต้นทุนเพียง 15% เทียบรถขนส่งในปัจจุบัน การขนส่งโดยโดรนใช้ขนส่งสินค้าเล็ก ๆ เช่น อาหาร ยา E-commernce ต่าง ๆ จะมีต้นทุนเหลือเพียง 5% จากปัจจุบันเท่านั้น ซึ่ง ARK เชื่อว่าระบบขนส่งอัตโนมัติจะสร้างรายได้ให้บริษัทต่าง ๆ ราว ๆ $900 ล้านในปี 2030 (ปัจจุบันคือ 0)

3D Printing & Robotics

นวัตกรรม 3D print และ Robotic จะเป็นก้าวต่อไปของภาคการผลิต ช่วยแก้ไขปัญหา Materials Waste ลดเวลาและต้นทุนในการผลิตลง โดยปัญหา Supply Shortage และปัญหาขาดแคลนแรงงาน จะเป็นตัวเร่ง ให้เกิดความต้องการใช้งาน 3D Print & Robotics โดยจากข้อมูลพบว่าทุกครั้งหลังเกิดวิกฤติทั้งในปี 2000, 2008, 2018 และ 2020 ความต้องการในการใช้งาน Robot จะเกิดการเร่งตัวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ในส่วนของ 3D Print จะเข้ามาเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดน้ำหนักของ Material ไปได้ 2ใน 3 โดย 3D Print ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่ผลิตต้นแบบ แม่พิมพ์และอุปกรณ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ โดย ARK คาดการณ์ว่าในปี 2026 การผลิตต้นแบบ 80-90% การผลิตแม่พิมพ์ และอุปกรณ์ประมาณ 30% และผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ 20% จะถูกสร้างโดย 3D Print และอุตสาหกรรม 3D Prints & Robotics จะเติบโตได้ 56% ต่อปี จาก $70B ในปี 2020 เป็น $6T ในปี 2030

Orbital Aerospace

ความก้าวหน้าจาก AI เซ็นเซอร์ การเชื่อมต่อไร้สาย หุ่นยนต์และ 3D Print ทำให้ต้นทุนด้านการบินและอวกาศลดลง เป็นผลให้เกิดการปล่อยดาวเทียม และ ใช้จรวดมีการใช้งานที่แพร่หลายมากขึ้น ความสำเร็จของ SpaceX ในการสร้างจรวดที่สามารถใช้ซ้ำได้ทำให้ต้นทุนในการใช้จรวดต่ำลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ระยะเวลาในการเตรียมจรวดให้กลับมาใช้ซ้ำได้ก็ลดลงเหลือเพียง 27 วันเท่านั้น จากค่าเฉลี่ยเดิมอยู่ที่ 252 วัน ในส่วนดาวเทียม ARK คิดว่า การปล่อยดาวเทียมแบบใกล้พื้นผิวโลกจะได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การเข้าถึง internet เกิดขึ้นได้ทั่วทุกมุมโลกใน latency ที่ต่ำกว่า 40ms (ดาวเทียมระยะไกลอยู่ที่ 700 ms) และเมื่อ USER ที่ใช้ internet ผ่านดาวเทียมมากกว่า 1 ล้านคน จะทำให้ต้นทุนอุปกรณ์ส่งสัญญาณดาวเทียมลดลงอีกครึ่งหนึ่ง
และในปี 2030 จะมีดาวเทียมในชั้นบรรยากาศมากกว่า 75,000 ตัว ARK มีความเห็นว่าธุรกิจ อินเทอร์เน็ตจากดาวเทียมจะสร้างรายได้ใน US ได้ $10B ต่อปี และทั่วโลกกว่า $40B ใน 5-10 ปีข้างหน้า และหากเพิ่มโอกาสทางธุรกิจจาก Hypersonic Flight เข้าไปด้วยน่าจะสร้างรายได้กว่า $270B ต่อปี
คิดเห็นอย่างไรกับ 14 Ideas จาก ARK Invest บอกให้เรารู้หน่อยนะครับ
BottomLiner
เปิดโหมด Risk-On!