ดอย Evergrande เขย่าตลาดทุน รับมืออย่างไรดี?
นาน ๆ จะมีเรื่องกระทบภาพใหญ่ ที่เป็นได้ทั้ง วิกฤต และ โอกาส ให้เขียนกันอีกครั้ง !! จั่วหัวแบบนี้ คงจะเดาคำใบ้ออก แต่คำถามแรกที่ต้องถามในใจของผู้อ่านทุกท่านคือ คุณติดดอยจีน หรือดอยหุ้นนอกจีน

ดอยจีนอ่านตรงนี้ เราจะคุยสั้น ๆ ว่า เพราะอะไร จึงต้องทำอะไร

หลายคนบอกว่านี่เรื่องเก่า เล่าใหม่ เราไม่กลัว แต่เรื่องเก่า เหล้าใหม่ แบบนี้ ขอเหล้าเข้ม ๆๆ (ใจเย็น ๆๆๆ) มาพร้อมหลังจากท่าน Xi ทุบหุ้นจีนแล้วทุบอีก กดหุ้นเทคจีน อย่าง Alibaba จนจมดิน กดทั้งตลาดจีนที่ไม่เกี่ยวแต่ก็ยังลงไปด้วย เพราะว่า ณ จุด ๆ นี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Evergrande จะไม่กระทบเศรษฐกิจจีน แต่ว่านี่ไม่ถึงขั้น subprime เพราะมันไม่ได้ซับซ้อนซ่อนซุกระเบิดไว้

แล้วผลกระทบเป็นอย่างไร?

คิดกันแบบง่าย ๆ คือ
ไม่มีเงินจ่ายหนี้ → ขายสินทรัพย์ทอดตลาด ทั้งอสังหา ทีมบอล บลาาๆๆ → ราคาอสังหารูด → นักลงทุนอสังหาเจ๊ง → คนที่มีบ้าน หรือกู้มาซื้อแล้วไม่ได้บ้าน จนลงทันที → ซึม
ส่วนอีกเส้นคือ
พนักงาน 200,000 คนตกงาน → รวมถึงลูกจ้าง บ.ที่ได้ผลกระทบ ตกงาน → ซึม → ถ้าลุกลาม ก็จะไปถึง consumer credit ซึ่งกู้กันสูงมาก ๆ ที่จีน ตรงนี้ “ล้ม” ได้เลย แต่คาดว่ายังไม่ถึง รัฐจะมาช่วยก่อน
ที่ผ่านมารัฐทำอะไร?? ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ … อัดสภาพคล่องเข้าระบบ แต่ไม่ได้แจก Evergrande … ผมว่ามันค่อนข้างชัดนะ ถ้าคุณเข้าไปอุ้ม Evergrande ก็ไม่ต่างกับการส่งเสริม ดังนั้นต้องปล่อยเนื้อร้ายตาย แล้วคุ้มกันรอบ ๆ เท่าที่ทำได้ (เหมือนจัดการมะเร็งยังไง ๆ ไม่รู้) เจ็บแต่จบ และใช้เวลาฟื้นฟูตัวเอง
อสังหาจีนร้อนแรงมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอะไรขึ้นทุกวัน มันต้องมี Slow down บ้างซึ่งจีนนี่ชอบมาก ที่จะยอม slowdown ดีกว่าปล่อยร้อนแรงสุด ๆ แล้วล้มครืน ทางภาครัฐก็บีบเรื่องอสังหามาสักระยะแล้ว ลองหาอ่านกันได้ครับ มีคนเขียนไว้เยอะแยะ

แล้วมันจะไม่บึ้ม ๆ เหรอครับ?

เวลานี้ยังไม่มีข้อสรุป แต่โอกาสสูงจบที่ไล่ไปปรับโครงสร้างหนี้ และหากดูหนี้ของ Evergrande จะพบว่าเป็นธนาคาร เป็นส่วนมาก ส่วนพวกหนี้จำพวกที่เรากังวลกันว่าทำให้เกิด subprime รวมถึงในช่วง shadow banking จีน หรือ Wealth Management Products (WMPs) (เหมาเข่ง Chinese Mortgage Backed Securities ก็ว่าได้) จัดว่าน้อยนิด
หากดูในอดีตปี 2013 จะเห็นว่าหลายครั้งที่รัฐอุ้ม WMPs แต่ปล่อยธนาคารซวย
ในรอบนี้ ธนาคารก็ดูจะซวย เช่นกัน และจะใช้เวลาพอตัวในการจัดการ เรื่องค้างคาต่าง ๆ ตั้งแต่การตั้งหนี้เสีย ต่อรองจัดการโครงสร้างหนี้ การเข้าไปอุ้มช่วยเหลือของภาครัฐและนโยบายต่าง ๆ เพื่อควบคุมสถาบันการเงินให้เข้มไปอีก และในฝั่ง credit tech ก็คงโดนด้วย กระทบหุ้นเทคโนโลยีบางตัว
ดัชนีหุ้นจีน ไม่ว่าจะ A-Share หรือ H-Share ล้วนมีกลุ่มธนาคาร และการกลุ่มสถาบันการเงินอื่น ๆ เป็นสัดส่วนหลัก
ดังนั้น สรุปก็คือ เราอาจได้เห็นภาพหุ้นจีนซึม นานกว่าที่หลายคนคิด รอดูการประชุมจีน เผื่อลมเปลี่ยนทิศ ได้ครับ

ดอยนอกจีนอ่านตรงนี้

ถ้าคุณเชื่อว่าเป็น Contagion แต่ไม่ถึง global crisis ก็เป็นโอกาสแล้วครับ (ขึ้นกับปัจจัยของตลาดนั้น ๆ ด้วยนะ) รอฝุ่นตลบหน่อย แต่ดูดี ๆ นะ ต้องเป็นหุ้นที่เลี่ยงจีน (ลองอ่านบทความของท่านอื่น ๆ จะพบว่าหลายคนบอกว่า ปัญหา Evergradne มันจบในจีน หนี้ดอลลาร์น้อย)
ปล. บ้างโยงไปถึง USD Tether ของ โลก Cryptocurrency ว่ามีไปลงทุนในตราสารหนี้จีนนะ เดี๋ยวจะเจ๊งได้
เรื่องนี้ ขอเล่าติดตลกนิด ว่าไม่ต้องกังวลหรอก เพราะปัญหาคือไม่รู้มันมีเงินจริงให้ไปเจ๊งรึเปล่า !! หรือมีก็อาจจะน้อยมากเทียบกับส่วนที่ งง ๆ ว่ามีหรือไม่มี เวลาแบบนี้ควรโดนจับ audit ได้แล้ว ที่ผ่านมามีเพียง attestation เท่านั้น เหตุการณ์นี้อาจบังคับให้ regulator ต้องเข้มงวดมากขึ้น และเป็นเรื่องซีเรียสถึงขั้นคอขาดบาดตายได้เช่นกัน หากพบว่าเป็นเงินเสก ก็จะแห่กันถอนเงินจนล้มครืนได้
BottomLiner