SMIC โต 3 เท่า แม้โดนสหรัฐแบน
“SMIC” ชื่อเต็ม Semiconductor Manufacturing International Corporation คือ ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีนที่ถูกก่อตั้งมากว่า 20 ปี โดยต้นกำเนิดคล้ายกับแชมเปี้ยน TSMC ของไต้หวัน และ Samsung ของเกาหลีใต้ ซึ่งรัฐบาลให้เงินอุดหนุนและสิทธิพิเศษหลายอย่าง ขณะที่ผลลัพธ์ดีเหลือเชื่อ ฝั่งตะวันตกแพ้ราบ ทำให้ภาคการผลิตย้ายเข้าเอเชียและส่วนใหญ่จะมาผลิตกับ 3 เจ้านี้
ปัจจุบัน SMIC มีเทคโนโลยีตามหลังไต้หวันและเกาหลีใต้ประมาณ 6 ปี ซึ่งการจะเขยิบเข้าใกล้ก็ไม่ง่าย เพราะสหรัฐเตะตัดขาเรื่อย ๆ ไม่ยอมให้ผลิตชิปรุ่นไฮเทคได้เอง อย่างเมื่อ 2 ปีที่แล้ว SMIC ประกาศว่าผลิตชิป 7nm ได้แล้ว หลังจากนั้นไม่นานเจอคำสั่งแบนชุดใหญ่จาก Trump และตามมาด้วยอีกชุดจาก Biden

แบนหนักแต่งบปี 2021 โตระเบิด

  • รายได้ $5,443 million +39% YoY
  • กำไร $1,702 million +137% YoY
  • กำลังการผลิตเต็ม 100%
  • รายได้จากจีน 60-70%

ไฮเทคมากไม่ได้

ตอนนี้ SMIC ถูกสหรัฐจำกัดให้สั่งเครื่องจักรได้แค่ชิปรุ่น 14 nm หรือรองลงมา แต่ด้วยตลาดขนาดมหาศาลในจีนก็เพียงพอแล้วที่จะหล่อเลี้ยง SMIC ไปอีกหลายปี และตอนนี้ไม่ต้องอ้ำอึ้งว่ากับข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนอีกต่อไป เพราะโดนตัดสินไปแล้วว่าเกี่ยว จึงเดินหน้าสร้างโรงงานร่วมทุนกับท้องถิ่นหลายเมือง ล่าสุดมี Shanghai, Beijing, Shenzhen ได้เงินมาฟรี ๆ ให้ไปลงทุนเลย ผู้บริหารบอกใบ้ว่าอีกราว 3 ปีที่โรงงานเสร็จกำลังการผลิตจะเพิ่ม 2-3 เท่าตัวนะ

กองทุนแห่งชาติหนุนหลัง

รู้หรือไม่ว่ารายได้ SMIC โต 3 เท่า ท่ามกลางปัญหามากมาย ไตรมาส 1 ปี 2019 มีรายได้ราว $600 ล้าน ล่าสุดไตรมาส 1 ปีนี้จะโตขึ้นมากถึง $1800 ล้าน ทางด้านกำไรโตราว 10-20 เท่า เพราะกำลังการผลิตเต็มเกือบตลอดเวลา ตอนนี้ SMIC เป็นเรื่องสำคัญระดับชาติแล้ว ฝั่งจีนเทดีมานให้ไม่อั้น รัฐชี้นิ้วให้สั่งชิปในประเทศก่อน

ปรับราคาขายชิป

ตอนนี้กำลังการผลิตชิปเต็มทั่วโลก SMIC ได้โอกาสปรับราคาชิปตามเจ้าใหญ่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จึงเป็นผลดีกับรายได้ รับ 2 เด้งจากทั้งกำลังการผลิตเต็มและชิปแพงขึ้น

มองปีนี้โตระเบิด

ผู้บริหารคาดว่ายอดขายปีนี้จะโตราว 25%++ YoY และลงทุนอีก $5 พันล้าน แต่เลขเปลี่ยนได้เรื่อย ๆ ขึ้นกับหน้างานว่าจะสั่งเครื่องจักรได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเดาใจ Biden ไม่ออก
ฝั่ง BottomLiner เองเชื่อว่าดีมานในจีนนั้นใหญ่ที่สุดในโลก และแผน Made in China ของ Xi Jinping ยังสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะเป้าอยากให้ชิปผลิตเองในประเทศ 80% ภายในปี 2030 จากปัจจุบันราว 20% เท่านั้น แต่ปัญหาเป็นเรื่องที่รู้กันคือสหรัฐจะคอยแบนคุมไปเรื่อย ๆ ตามระดับความเข้มทางการเมืองในช่วงนั้น จึงมองว่า SMIC แม้รายได้จะโตแต่รับประกันว่าราคาหุ้นจะขึ้นไม่ได้ เพราะหลายอย่างต้องพึ่งพาสหรัฐอยู่
กลับกันอนาคตที่ SMIC พึ่งพาจีนได้ 100% เราจะเห็นการเติบโตขั้นสุดยอดเช่นกัน
การจะตัดสินใจ ซื้อ ถือ ขาย คงต้องขึ้นกับความอดทนของแต่ละคนครับ

BottomLiner

ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/5587866847895070

iran-israel-war