(เงินล้าน) บริหารเงินแบบสี จิ้นผิง ด้วยทฤษฎี "ไข่สามใบ"

สี จิ้นผิงถือเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีจีนที่ทรงอำนาจและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง ในสมัยเด็กสี จิ้นผิงเกิดในครอบครัวที่ยากจน น้องสาวของเขาถูกฆ่าตอนเขาอายุ 13 ปี พ่อของสี จิ้นผิงถูกทางการจีนจับขังคุกตั้งแต่เขาอายุ 15 ปี ระหว่างช่วงการปฏิวัติของจีน ตัวเขาเองถูกส่งไปทำงานที่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ฐานของคณะปฏิวัติ มลฑลส่านซี

อย่างไรก็ตามสี จิ้นผิงรักและเคารพพ่อของเขามาก ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตนเองและไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น เป็นพ่อของเขานั่นเองที่ปลูกฝังรากฐานและให้บทเรียนสอนเขาจนประสบความสำเร็จแบบปัจจุบัน

บทเรียนที่ว่านั้นเรียกว่า “บทเรียนไข่สามใบ”

บริหารเงินแบบสี จิ้นผิง ด้วยทฤษฎี "ไข่สามใบ"

เย็นวันหนึ่งพ่อของเขาทำบะหมี่มา 2 ชาม ชามหนึ่งมีไข่ 1 ใบ อีกชามหนึ่งไม่มีไข่ พร้อมยกให้สี จิ้นผิงเลือกก่อนว่าอยากได้ชามไหน ในยุคนั้นอาหารขาดแคลน ไข่ 1 ฟองนับว่ามีคุณค่ามาก สี จิ้นผิงเลือกชามที่มีไข่อย่างไม่ลังเลเลย แต่พอพ่อเฉลยตัวเลือกของเขากลับผิดพลาด เพราะบะหมี่อีกชาม มีไข่ถึง 2 ฟองซ่อนอยู่ใต้บะหมี่ชามนั้น พ่อของเขาสอนว่า

“ลูกเอ๋ย สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ใครก็ตามที่พยายามเอาเปรียบผู้อื่นมักจะต้องเสียเปรียบอย่างหนักในภายหลัง”

เย็นวันต่อมาพ่อของเขาทำบะหมี่มา 2 ชามอีกครั้ง ชามหนึ่งมีไข่ อีกชามไม่มีไข่ สี จิ้นผิงไม่รอช้าและเลือกบะหมี่ชามที่ไม่มีไข่ทันที แต่เขาต้องผิดหวังเมื่อลองคนดูในชามแล้วพบว่าไม่มีไข่อยู่ในชามนั้นเลย พ่อของเขาสอนเพิ่มเติมว่า

“ลูกต้องจำไว้นะ จงอย่าเชื่อในประสบการณ์ในอดีตจนมากไปจนถูกอดีตหลอก ชีวิตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่สามารถเรียนรู้จะประสบการณ์ในอดีตได้เสมอไป”

เย็นวันที่สามพ่อของเขาทำบะหมี่มาเหมือนเดิม 2 ชาม เพียงแต่วันนี้สี จิ้นผิงไม่เลือก แต่บอกพ่อของเขาว่า

“พ่อทำเพื่อครอบครัวของเราขนาดนี้ พ่อเลือกก่อนเถอะ”

พ่อของเขาเลือกบะหมี่ชามที่มีไข่ไป สีจิ้นผิงได้บะหมี่ชามที่ไม่มีไข่ แต่เขาต้องประหลาดใจเมื่อเจอไข่ซ่อนอยู่ใต้บะหมี่ 2 ฟอง พ่อของเขาสอนต่อว่า

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกมีใจทำเพื่อผู้อื่น โชคดีจะอยู่กับลูกเสมอ”

บริหารเงินแบบสี จิ้นผิง ด้วยทฤษฎี "ไข่สามใบ"

ตั้งแต่นั้นมาสี จิ้นผิงมักจะใช้บทเรียนไข่สามใบกับทุกๆ อย่างของเขารวมไปถึงการใช้เงินของเขาเพื่อผู้อื่น ในปี 1994 นายหลู่  โหวชิง ชาวนาหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ เพื่อนเก่าของสี จิ้นผิงสมัยเขาทำงานให้กับคณะปฏิวัติ ป่วยเป็นโรคกระดูกอักเสบ ใช้เงินรักษาตัวไปกว่า 6,000 หยวน ( ประมาณ 30,000 บาท) ก็รักษาตัวไม่หาย เรื่องไปถึงหู สี จิ้นผิงที่รับราชการอยู่ที่เมืองฝูโจว เขาส่งเงิน 500 หยวนมาให้ชาวนาคนนั้นซื้อตั๋วรถไฟนั่งไปเมืองฝูโจว รักษาจนหายและให้ค่าเดินทางกลับไปหมู่บ้านเหลียงเจียเหออีก 2,000 หยวน ชาวนาคนนั้นกล่าวขอบคุณสี จิ้นผิง อย่างมาก สี จิ้นผิง เพียงตอบกลับว่า

“ไม่เป็นไร เราสองคนเป็นเพื่อนกัน”

หลังจากเป็นประธานาธิบดีของจีนแล้ว สี จิ้นผิงยังไม่ลืมมิตรภาพเก่าแก่ เดินทางไปเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือชาวนาที่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอเสมอๆ ทุกวันนี้จีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มี GDP ขนาด 12 ล้านล้านเหรียญหรือ ประมาณ 360 ล้านล้านบาท สี จิ้นผิงเองถือเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งเขามีความมั่งคั่งที่ 1,500 ล้านเหรียญหรือ ประมาณ 45,000 ล้านบาท

บริหารเงินแบบสี จิ้นผิง ด้วยทฤษฎี "ไข่สามใบ"

สี จิ้นผิงประสบความสำเร็จในระดับนี้ได้นับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความใจกว้างของเขา ที่ทำให้เขา “โชคดี” มาได้ถึงจุดนี้ สุดท้ายแล้วเงินอาจไม่ได้มาจากความพยายามหาเงิน แต่เงินอาจเป็นผลพลอยได้ที่มาจากความใจกว้าง คิดนึงถึงผู้อื่น และรู้จักให้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ”

BuffettCode


สร้างแผนลงทุนด้วยแอป LINE ได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ คลิกเลย!
https://www.finnomena.com/line/intro