รับชมบน YouTube: https://youtu.be/flrvUvvkI1E

ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัวทั่วโลก กลับมีไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ฝ่าฟันวิกฤติได้อย่างแข็งแกร่งและกลายเป็นประเทศที่ยังคงมี GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเป็นบวกได้ หนึ่งในนั้นคือประเทศเวียดนาม วันนี้เรามาไขรหัสกันสักหน่อยว่า อะไรที่ทำให้เมืองที่เคยยากจนที่สุดอย่างเวียดนาม กลับกลายมาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลกในวันนี้ได้

ภาพรวมการเติบโตของเวียดนาม

  • ภายใต้กระแสการชะลอตัวของสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก เวียดนามกลับกลายเป็นประเทศที่มี GDP เติบโตได้ถึง 7.72% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565
  • เป็นการเติบโตมากที่สุดนับตั้งแต่ ปี 2556
  • นอกจากนี้ทางการของเวียดนามยังได้คาดการณ์ไว้ว่าการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นอีกในระดับมากกว่า 10% ในไตรมาสที่ 3 นี้
  • ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามยังเป็นการเติบโตอย่างแข็งแรงไปพร้อมกันในทุกอุตสาหกรรม
  • โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชูโรงของเวียดนามอย่างอุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การบริการ และการส่งออก
  • ปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศที่มีธุรกิจน้ำมันขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งออกกาแฟเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากบราซิล  

ทำไมเวียดนามโตได้แม้ยามวิกฤติ

  • ส่วนแรกเป็นเพราะเวียดนามกลายเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากความเข้มงวดของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในประเทศจีน
    • ส่งผลให้หลายธุรกิจทั่วโลกจำเป็นต้องกระจายห่วงโซ่อุปทานและย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนามมากขึ้น
    • เนื่องจากเวียดนามมีประชากรวัยแรงงานที่มีคุณภาพจำนวนมาก ภายใต้อัตราค่าจ้างแรงงานในระดับต่ำ ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
  • เวียดนามยังถูกมองว่าเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์น้อย เนื่องจากไม่มีข้อขัดแย้งกับ 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนหรือสหรัฐอเมริกา 
  • ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ควบคุมสถานการณ์โควิดได้เป็นอย่างดี
    • ถึงแม้ช่วงเริ่มต้นจะมีมาตรการที่เข้มงวด แต่ต่อมาก็มีการปรับตัวด้วยการให้ความสำคัญกับการระดมฉีดวัคซีน
    • เลือกใช้วัคซีนประสิทธิภาพ แตกต่างจากประเทศจีนที่ยึดถือนโยบาย Zero COVID อย่างเคร่งครัด และยังยืนกรานเลือกใช้วัคซีนที่ผลิตในประเทศของตัวเองเป็นหลัก  

ข้อจำกัดในการเติบโตของเวียดนาม

  • อาจได้แก่การที่เวียดนามมีอัตราการค้าระหว่างประเทศต่อ GDP อยู่ที่ 209% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับการค้าระหว่างประเทศเป็นหลัก
  • ถึงแม้จำนวนแรงงานของเวียดนามจะมีจำนวนมากถึง 99 ล้านคน แต่เมื่อเทียบกับจีนที่มีจำนวนประชากรถึง 1.4 พันล้านคน
    • ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะมีการขยายตัวของเศรษฐกิจในเวียดนามมากขึ้นเท่าไร แต่ด้วยจำนวนแรงงานที่น้อยกว่ามากก็อาจทำให้ถึงทางตันในวันหนึ่ง 
  • ด้วยการเติบโตของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในเวียดนามเร่งตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
    • โดยในเดือนมิถุนายน ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อในเวียดนามเพิ่มขึ้น 3.37% ขณะที่รัฐบาลเวียดนามคาดการณ์เอาไว้ว่าอัตราเงินเฟ้อตลอดทั้งปี 2565 จะเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 4%

เห็นได้ว่าโดยภาพรวมแล้วไม่แปลกใจเลยที่การเติบโตของเวียดนามจะเป็นที่จับตามองของนักลงทุนและนักธุรกิจทั่วโลก ในปัจจุบันก็มีกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นใหม่มากมายที่มีนโยบายลงทุนในประเทศเวียดนามโดยเฉพาะ ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ finnomena.com/fund ค่ะ

เวียดนามมีศักยภาพการเติบโตในอนาคตที่โดดเด่น รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง FINNOMENA Investment Team จึงแนะนำลงทุนในรูปแบบเก็งกำไร หรือลงทุนระยะยาว
👉 ลงทะเบียนรับคำแนะนำเพิ่มเติม คลิก >>> https://finno.me/fpick-vietnam-services

พบความสุดพิเศษสำหรับคุณได้ในทุกวัน ทั้งบทความให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนรวม หุ้น คริปโตฯ และการบริการ โปรโมชั่น ของรางวัลต่างๆ ที่คัดสรรมาเพื่อมอบให้กับสมาชิก FINNOMENA เท่านั้น
👉 สมัครสมาชิกเว็บไซต์ FINNOMENA https://finno.me/register-website


มือใหม่ห้ามพลาด! คอร์สเรียนพิเศษจาก FINNOMENA U "กองทุนรวม 101 สำหรับมือใหม่"

iran-israel-war