
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักลงทุนไทยต้องเผชิญกับความผันผวนต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่เป็นมิตร ไปจนถึงปัจจัยภายในประเทศอย่างกำลังซื้อที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนทางการเมือง
ด้วยปัจจัยที่กล่าวมานี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นตลาดหุ้นที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดจาก 92 ดัชนีทั่วโลก ตามรายงานของ Bloomberg แม้ตลาดในภาพรวมจะยังดูซบเซา แต่หากพิจารณาให้ลึกลงไป จะพบว่ายังมีหุ้นไทยบางกลุ่มที่สามารถปรับตัวและสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น สวนทางกับตลาดโดยรวม สะท้อนให้เห็นว่าโอกาสการลงทุนยังคงมีอยู่ เพียงแต่ต้องอาศัยการคัดเลือกหุ้นอย่างพิถีพิถัน เฟ้นหาหุ้นที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง
ในสถานการณ์เช่นนี้ การถือหุ้นตัวเดิมไว้เฉย ๆ อาจไม่ใช่คำตอบ เพราะหุ้นหลายตัวในพอร์ตอาจไม่สร้างโอกาสต่อ กลายเป็นหุ้นที่ราคานิ่งหรือลงต่อโดยไร้สัญญาณฟื้นตัว
ดังนั้น คำถามสำคัญที่เราต้องพิจารณาคือ “พอร์ตหุ้นของเรายังแข็งแรงพอจะไปต่อได้อีกหรือเปล่า?”
หากคุณเริ่มมีคำถามนี้ในใจ “Reboot Stock Port” บริการตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นไทยจาก Definit พร้อมช่วยคุณหาคำตอบ
Reboot Stock Port บริการตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นไทยจาก Definit ที่ช่วยประเมินและจัดอันดับความแข็งแรงของหุ้นในพอร์ต พร้อมให้สัญญาณ ถือต่อ-สลับ-ปรับใหม่ เพื่อให้คุณมีข้อมูลชัดขึ้นก่อนตัดสินใจทุกครั้ง สนใจรับบริการ คลิก 👉 https://finno.me/reboot-stock-port-ws

Reboot Stock Port คืออะไร?
Reboot Stock Port เป็นบริการตรวจสอบสุขภาพพอร์ตหุ้นไทยจาก Definit โดยอ้างอิงแนวคิดและกระบวนการคัดเลือกหุ้นของ Definit SET Select (DSS) ระบบจะประเมินและจัดอันดับความแข็งแรงของหุ้นในพอร์ต พร้อมให้สัญญาณ “ถือต่อ-สลับ-ปรับใหม่” เพื่อให้คุณมีข้อมูลชัดขึ้นก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
กลไกการทำงานของ Reboot Stock Port
Reboot Stock Port ใช้กระบวนการคัดเลือกหุ้นด้วย “DSS Rating” โดยเป็นหลักการเดียวกันกับการคัดเลือกหุ้นของพอร์ต Definit SET Select (DSS) ให้คะแนนและจัดความแข็งแกร่งของหุ้นจาก “EVT Framework” ประกอบด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ การปรับประมาณการกำไร (Earnings) มูลค่าหุ้น (Valuation) และการเคลื่อนไหวราคาหุ้น (Technical)
- Earnings (ผลประกอบการ) การปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรของนักวิเคราะห์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการในปัจจุบันอยู่แล้ว
- Valuation (มูลค่า) เป็นหุ้นที่มีราคาเหมาะสม มูลค่าหุ้นไม่แพงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม upside ของผลตอบแทนมาจากราคาหุ้นที่ยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
- Technical (กราฟ) เป็นหุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกระยะสั้น บ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกของราคาที่มีโอกาสเกิดขึ้นต่อในอนาคต และช่วยหลีกเลี่ยง Value Trap
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้ผ่านการพิสูจน์ทั้ง Backtest และ Live test มาอย่างเข้มข้น โดยหุ้นที่ได้อันดับ Strong คือหุ้นที่มีโอกาสสูงที่จะถูกเลือกเข้าพอร์ตของ DSS
จากกลไกดังกล่าว ส่งผลให้พอร์ต DSS บางช่วงทำผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาด ทั้ง Backtest และ Live Test
Backtest และ Live test พอร์ต DSS ณ วันที่ 31 พ.ค. 2025
ที่มา: Definit | การลงทุนอาจมีการกระจุกตัวสูงทั้งในรายหุ้นและรายอุตสาหกรรม | การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลตอบแทนในอดีตปี 2013-2022 เป็นการ Back test ไม่สามารถเป็นการันตีถึงผลตอบแทนในอนาคต | ผลตอบแทนในปี 2013-2023 คำนวนโดยใช้ราคาปิดวันที่ 1 | Live test เริ่มตั้งแต่ปี 2023 | ผลตอบแทนที่แสดงอาจไม่ตรงกับผลตอบแทนที่นักลงทุนได้รับจริงเนื่องจากผลของค่าธรรมเนียม ราคาซื้อขายหุ้นที่เกิดขึ้นจริง และปัจจัยอื่นๆ | ผลตอบแทนเดือนม.ค. – ก.ค. ปี 2024 คำนวนโดยราคาซื้อใช้ราคาปิด (ATC) ของวันที่ออกบทความ และราคาขายใช้ราคาเปิด (ATO) ของวันที่ออกบทความ ณ เดือนถัดไป เนื่องจากช่วงดังกล่าว Definit ให้คำแนะนำแบบ Subscription | ผลตอบแทนตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย. ปี 2024 คำนวนโดยราคาซื้อใช้ราคาปิด (ATC) ของวันที่ 2 ของเดือน และราคาขายใช้ราคาเปิด (ATO) ของวันที่ 2 ของเดือนถัดไป (หากตรงกับวันหยุดจะใช้วันทำการถัดไป) | ผลตอบแทนตั้งแต่เดือน ต.ค. 2024 จะคำนวนผลตอบแทนตามเดือนนั้นๆ โดยใช้ราคาปิด (ATC) ของสิ้นเดือนนั้น | ผลตอบแทนสุทธิ (net return) ของโมเดลพอร์ตหักค่า commission ที่ 0.25%+VAT โดยคิด turnover ที่ 80%, ค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) คิด 0.75% ต่อปี, ค่าธรรมเนียมตามกำไร (performance fee) คิด 15% ของผลตอบแทนที่สูงกว่า high water mark ซึ่งคิดเป็นรายปี | ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปใช้ผลตอบแทนจริงจากบัญชีตัวแทนคำนวนโดยวิธี Time-weighted rate of return
- ในช่วงปี 2013-2024 การทดสอบย้อนหลัง (Backtest) ของพอร์ต DSS แสดงผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้น (Geometric Return) ประมาณ 17.1% ต่อปี เทียบกับดัชนี SET TRI ที่ทำได้ประมาณ 3% ต่อปี
- ใน Backtest DSS มีผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี SET TRI ใน 7 จาก 10 ปี โดยมีบางปี (2014, 2018 และ 2022) ที่ผลตอบแทนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับ SET TRI
- ในการทดสอบผลการดำเนินงานจริง (Live Test) ช่วงปี 2023–2025 (YTD) DSS แสดงผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี SET TRI ในทุกปี โดยในปี 2024 ที่ SET TRI ทำได้ประมาณ 2% DSS ทำได้ประมาณ 13.5%
ตัวอย่าง Stock Health Check Report ที่คุณจะได้รับ
บริการ Reboot Stock Port เหมาะกับใคร?
- นักลงทุนที่ถือหุ้นไทยและกำลังมองหาแนวทางการจัดการพอร์ตในช่วงที่ตลาดผันผวน
- นักลงทุนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะปรับพอร์ตอย่างไรให้สอดคล้องกับเป้าหมายและภาวะตลาด
Reboot Stock Port บริการตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้นไทยจาก Definit ที่ช่วยประเมินและจัดอันดับความแข็งแรงของหุ้นในพอร์ต พร้อมให้สัญญาณ ถือต่อ-สลับ-ปรับใหม่ เพื่อให้คุณมีข้อมูลชัดขึ้นก่อนตัดสินใจทุกครั้ง สนใจรับบริการ คลิก 👉 https://finno.me/reboot-stock-port-ws
คำเตือน: การให้บริการ Reboot Stock Port คือการตรวจสอบสุขภาพของพอร์ตหุ้นไทยและให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้บริการ โดยการนำเสนอข้อมูลและคำแนะนำดังกล่าวจะไม่สร้างสิทธิ, ความรับผิดชอบ, หรือภาระผูกพันทางกฎหมายในทุกกรณี บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับประกันผลลัพธ์ใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลและคำแนะนำ และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือคำแนะนำไปใช้ในทุกกรณี | การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00 – 17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-9933

