ประสบการณ์ไปกลับดวงจันทร์ของ ARK Invest ในปี 2020-21

ในที่สุดตลาดการเงินก็เดินทางมาถึงสิ้นปี 2021

นอกจากที่เราจะได้พักจากความผันผวน ผมเชื่อว่าเราสามารถใช้จังหวะนี้ในการบันทึกประสบการณ์สำคัญในรอบปีที่ผ่านมาด้วย

สำหรับ Thematic Investors อย่างเรา ความเคลื่อนไหวของกองทุนกลุ่ม ARK Invest ที่พานักลงทุนทั่วโลกไปถึงดวงจันทร์ในปี 2020 แต่กลับร่วงลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรงในปี 2021 เป็นเรื่องที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ผมเชื่อว่า ARK Invest เป็นเหตุการณ์ที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งในตลาดการเงินปี 2021 ควรค่าแก่การวิเคราะห์ ว่าการที่ ARK ตกหนักครั้งนี้มาจากเหตุผลอะไรกัน

ที่นักลงทุนได้ยินบ่อยที่สุดคือ “คำสาป” ของ Superstar Fund Manager

นักวิเคราะห์ตลาดหลายท่านปรามาส ARK ของ Cathie Wood ไว้ตั้งแต่ต้นปี ว่าจะไม่สามารถรักษาการเติบโตของพอร์ตเกิน 100% ติดต่อกันได้แน่

เพราะเมื่อเด่นดัง เงินทุนก็จะเข้ามามากจนใช้กลยุทธ์แบบเดิมไม่ได้ ซื้อขายอะไรก็จะถูกจับตา ถูกกดและโก่งราคา สุดท้ายเมื่อเกิดการถอนทุน ก็จะเจอปัญหาสภาพคล่องซ้ำเติมไปอีก

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นดูจะไม่ได้มาจากคำสาปนี้เท่าไหร่ แม้หุ้นแห่งอนาคตของ ARK จะถูกกดจนปรับฐานแทบทุกบริษัท แต่นักลงทุนไม่ได้ลดการลงทุนลง

ETF ส่วนใหญ่มีเงินเข้ามากกว่าออก เช่นกองหลัก ARKK มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 4.8 พันล้านดอลลาร์ มีเพียงกองทุน Next Generation Internet (ARKW) ที่มีเงินออก 66 ล้านดอลลาร์

เมื่อสมมติฐานแรกไม่ชัด ก็มาที่สมมุติฐานที่สอง คือ ARK เจอกับ “ตลาดกลับตัวระยะสั้น” ซึ่งหนีไม่ได้

ย้อนกลับไปในปี 2021 การกลับตัวของตลาดเกิดขึ้นแทบทุกจุด ตั้งแต่ระดับนักลงทุนไปจนถึงผู้กำหนดนโยบาย

ความหวังของ Vaccine ทำให้ความสนใจของตลาดย้ายไปสู่ธีม Reopening ธีม Value หรือธีมพลังงาน แทนการลงทุนแห่งอนาคต เกิดการสลับกลุ่มหุ้นขึ้นหุ้นลงจากปี 2020

ซ้ำร้าย นโยบายเศรษฐกิจก็กลับด้าน จากการเคยกระตุ้นอย่างหนัก ไม่มีใครคิดถึงดอกเบี้ยขาขึ้น กลายเป็นเฟดต้องรีบควบคุมเงินเฟ้อ และอาจขึ้นดอกเบี้ย 3ครั้งในปีหน้า ทำให้ Valuation กลายเป็นประเด็นที่ต้องระวังอย่างมาก

สมมติฐานนี้น่าสนใจ เพราะเห็นได้ชัดว่าหุ้นการเงินและพลังงานที่ติดลบ 6% และ 32% ปีก่อนกลับมาบวก 16% และ 22% ในปี 2021 ตามลำดับ

ขณะที่ ARK มีแต่ Winners ในปี 2020 และไม่ลงทุนแบบ Cyclical โอกาสติดลบในปีที่ตลาดกลับตัวแบบนี้จึงสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าอีกหนึ่งสมมติฐานที่นักลงทุนใน ARK ควรต้องระลึกไว้เสมอ คือ Active Investing เป็น “ดาบสองคม” ที่ย้อนมาทำร้ายผู้ใช้ได้ถ้าไม่ระวัง

แม้เราจะเห็น ETF ของ ARK ติดลบทุกกอง และอ้างได้ว่าตลาดกลับตัวระยะสั้น แต่ความแปลกคือดัชนี Innovation ต่าง ๆ ที่ ARK ทำร่วมกับ MSCI ไว้ โดยใช้กลยุทธ์ที่ใกล้เคียงกันกับ ETF แต่เป็น Passive Index กลับสร้างผลตอบแทนเป็นบวกทั้งหมด

เช่น ดัชนี MSCI ACWI IMI Innovation ที่ทำมาล้อ ARKK จากปลายปีก่อนถึงปัจจุบันก็บวกอยู่ 3% สวนกับ ARKK ที่ลบ 27%

เจ็บใจที่สุดคือ ARK Autonomous Technology (ARKQ) ที่ควรจะได้แรงหนุนจากวัฏจักรเศรษฐกิจขาขึ้นก็กลับติดลบ 3% ในปีนี้ ทั้งที่ดัชนี MSCI ACWI IMI Autonomous Technology บวกจากสิ้นปี 2020 ถึง 14%

หมายความว่าความ Active ที่เคยเป็นจุดเด่นของ ARK (ในปี 2020 ทุก ETF ของ ARK ชนะดัชนี Passive Innovation เหล่านี้อย่างน้อย 50%) ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในปี 2021 อย่างหนัก

ทั้งหมดคือสิ่งที่ผมคิดว่าทำให้ ARK ตกจากดวงจันทร์ในปีนี้

สิ่งที่ต้องคิดต่อคือประสบการณ์นี้สอนอะไรให้เราบ้าง ?

สำหรับนักลงทุนที่ชอบที่จะลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ผมไม่คิดว่าการไปกลับดวงจันทร์รอบนี้ของ ARK จะทำให้เราต้องยอมแพ้ถอดใจ

แต่กลับกัน เรายิ่งต้องเข้าใจจุดแข็งจุดอ่อน และกล้าปรับพอร์ตให้กลับเข้าวงโคจรที่ควรเป็นในเวลาที่เหมาะสม

ข้อแรกและง่ายที่สุด คือเปลี่ยนจาก Active เป็น Passive ในจังหวะที่ตลาดไม่เป็นใจ เพียงเท่านี้ความผันผวนที่ต้องรับก็จะน้อยลงอย่างมาก

สอง คือจัดสัดส่วนการลงทุนให้กระจายตัว มีทั้งธีมระยะสั้น ธีมระยะยาว ที่ระดับราคาที่เหมาะสม เพราะต้องไม่ลืมว่า ทุกธีมมีช่วงเวลาที่ดีและแย่ และแม้ธีมที่มีอนาคตสดใส แต่อาจไม่ใช่การลงทุนที่ดี ถ้านักลงทุนต้องจ่ายแพงกว่าฟื้นฐานมากเกินไป

สุดท้าย คำแนะนำที่คลาสสิก แต่ใช้ได้กับทุกการลงทุน คือ “อย่ามองแต่กำไรที่กองทุนเหล่านั้นทำได้ในอดีต” เพราะผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

ผมเชื่อว่าประสบการณ์จาก ARK Invest ในสองปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ Thematic Investor อย่างเราเติบโตขึ้นมาก

ในปี 2022 และอนาคตต่อจากนี้ นอกจากคิดถึงการไปดวงจันทร์ พวกเราจะไม่ลืมคิดถึงการกลับสู่โลกอย่างปลอดภัยด้วยแน่นอน

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์