เรื่องเด่นในฝั่งนโยบายการเงินการคลังในช่วงนี้คงไม่มีอะไรจะน่าสนใจไปกว่าการที่สหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือชาติสมาชิกที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤติโคโรนาไวรัส หลังจากหารือนานเกือบ 100 ชั่วโมง
ประเด็นนี้สำคัญอย่างไร และส่งผลกับตลาดการเงินแบบไหน เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจ
นักวิเคราะห์หลายสำนักจึงมองว่ามีความใกล้เคียงกับ Hamilton Moment ของสหรัฐช่วง 200 ปีก่อน ที่ Alexander Hamilton รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนแรก เสนอกฎหมายให้รัฐบาลกลาง (Federal Government) มีหน้าที่รับผิดชอบต่อหนี้ภาครัฐให้กับรัฐบาลท้องถิ่น (State Governments) จนทำให้สหรัฐสามารถกู้ร่วมกันได้มาจนถึงปัจจุบัน
การผ่านนโยบายครั้งนี้ แม้จะไม่เหมือนกับฝั่งสหรัฐ 100% แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าภูมิใจร่วมกันของสมาชิกในสหภาพยุโรป
นโยบายทั้งหมดมีขนาดเพียง 1.82 ล้านล้านยูโร โดยประกอบไปด้วยงบ 1.07 ล้านล้านยูโรใน Multi-Annual Financial Framework (MFF) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2021-2027 ส่วนที่เหลือจะเป็น Next Generation EU Recovery and Resilience Facility (RRF) ซึ่งมีเงินให้เปล่ามูลค่า 3.12 แสนล้านยูโร และเงินกู้เพื่อการลงทุนในโครงการด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อมอีก 3.6 แสนล้านยูโร
จากข้อตกลงเบื้องต้น MFF จะเป็นการคืนเงินสมทบของสมาชิก EU ซึ่งเป็นบวกกับประเทศใหญ่ ส่วน RRF จะเข้ามาช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายราว 1.6% ของจีดีพียุโรป ในประเทศอย่างอิตาลีหรือสเปนที่เจอกับการระบาดรุนแรงที่สุด จึงน่าจะช่วยหนุนให้แทบทุกประเทศในยุโรปสามารถฟื้นตัวได้พร้อมกันโดยไม่ติดประเด็นการคลังภายใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นทางกฎหมาย ที่นโยบายนี้ดูจะเป็นเพียง “กรณีพิเศษ” และอาจไม่สามารถนำมาใช้นอกสถานการณ์วิกฤติได้
ขณะเดียวกัน ด้วยความเป็นนโยบายการคลังที่จะค่อย ๆ ทยอยเข้าสู่เศรษฐกิจ เร็วที่สุดคือเงินอาจเข้าสู่ระบบในช่วงต้นปีหน้า แถมใน 3 ปีแรก ก็คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายเพียงแค่ 30% ของงบประมาณทั้งหมด ผลจึงไม่น่าทันใจตลาด
นอกจากนี้ การหารือที่ยาวนานก็แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความสัมพันธ์ของประเทศใน EC ว่าไม่ได้เหนียวแน่น จึงทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งมองเรื่องนี้เป็นเพียงประเด็นบวกระยะสั้น
ถึงตรงนี้ทุกท่านคงเห็นข้อดีข้อเสียของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของยุโรปครั้งนี้
ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตบนตัวแปรในตลาดการเงิน เพื่อมองภาพอนาคต บนความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ทางการเงินยุโรปและทั่วโลกที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปไว้ 4 ข้อ
โดยสรุป แม้จะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น และอาจไม่สามารถมองยาวไปถึง Hamilton Moment แบบในสหรัฐได้ในตอนนี้ แต่บนตลาดการเงิน ถ้า EU Recovery Fund สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ ก็รับรองว่าการลงทุนทั่วโลกครึ่งหลังของปี 2020 จะน่าสนใจมากขึ้นแน่นอนครับ
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์
Advance, Article, EU Recovery Fund, Short Content, ยุโรป