dr-visit-6-3-2017

ตลาดหุ้นกำลัง Pricing โอกาสกว่า 80-90% ที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 25 bps ในช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่สิ่งที่น่าสนใจมากคือ การที่ค่าเงิน US$ ได้ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบค่าสกุลเงินทั่วโลก ภายหลังถ้อยแถลงของ Janet Yellen บ่งบอกถึงสภาวะ Sell on News ส่วนหนึ่งเกิดจาก Seasonal Strength ของค่าเงิน Yen เกิดจาก Repatriation Trade คือการส่งเม็ดเงินประเภท Dividend กลับสู่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมของบริษัท Multinational Company ของประเทศญี่ปุ่น

  • มองว่าการขึ้นดอกเบี้ย Fed ในรอบเดือน มี.ค. แต่เศรษฐกิจทั่วโลกที่ดีขึ้นจะเป็นด้านบวกต่อตลาดหุ้น เพราะฉะนั้นคาดการณ์ตลาดหุ้นจะตอบสนองในทางบวกของการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ แต่ตลาดหุ้นจะตอบสนองในทางลบต่อเมื่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยเกิดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลง หรือเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น
  • มองว่าหุ้นจะยังไม่ใช่ขาลง ตลาดหุ้นจะเป็น Sideway และขาดเม็ดเงินใหม่ และปริมาณการซื้อขายจะเบาบาง เพราะฉะนั้นการคัดเลือกหุ้นในการลงทุนจะมีความสำคัญยิ่ง
  • แต่มองว่าหุ้น Q2 ในตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสที่จะ Sideway Up จาก Tactical Asset Allocation แต่หุ้นจะผันผวนมาก เนื่องจาก Bond Yield จะเป็นตัวกำหนดทิศทางสินทรัพย์เสี่ยง และกลุ่ม Commodity จะ Outperform และมี upside สิ่งที่จะยังคงสนับสนุน Sideway Up View ใน Risky Asset เช่น หุ้น คือ การที่ Small Cap ได้ Outperform การมี M&A เพิ่มขึ้น การที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ควบคุมได้ การที่หุ้นบางบริษัทมี Earning ที่ Beat Estimate การที่มี Arbitrage ในหุ้นบางกลุ่ม เช่น หุ้นบริษัทแม่ที่ค่อนข้าง Undervalue เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าทั้งหมดในบริษัทลูก มองว่ากลุ่ม Low Volatility จะ Outperform
  • แต่ตลาดหุ้นใน EM ในภาพระยะกลาง 6 เดือนกำลังเผชิญกับค่าเงิน US$ ที่แข็งค่าขึ้น ดอกเบี้ยขาขึ้น ถือเป็น Head Wind (หรือการว่ายน้ำทวนกระแสน้ำ) ของตลาดหุ้น EM มองหุ้นอาจจะปรับฐานอย่างรุนแรงในครึ่งปีหลังของปี 2017 หรืออาจจะเห็นในไตรมาส 3 เนื่องจากนักลงทุนจะเริ่มมี View ว่า Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ย 3-5 ครั้งใน 12 เดือนข้างหน้า และการใช้กลไกของ Trade Protection ของประเทศสหรัฐ
  • ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นการ Outperform ของหุ้นกลุ่ม Shipping ทั้งด้าน Dry Bulk และ Container ซึ่งจะเป็น Cyclical ของปีนี้
iran-israel-war