10-BTS

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหุ้น… BTS

1. BTS เกิดจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แบบ backdoor listing หรือ reversed take over โดยบริษัท TYONG ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้เข้าควบรวมกิจการบริษัท BTSC ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าจากกรุงเทพมหานคร ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทกลายเป็น BTS

2. BTS มีบริษัทในเครือชื่อ VGI ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลเกี่ยวกับโฆษณาสื่อนอกบ้าน โดย BTS ได้ spin off VGI ออกมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2555 แต่ยังคงสภาพเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่กว่า 74.30%

3. BTS ได้จัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานแรกของประเทศไทยชื่อว่า BTSGIF ในปี 2556 โดยบริษัทได้ขายสิทธิการได้รับรายได้ค่าโดยสารสุทธิของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักให้กับกองทุนในระยะเวลาที่เหลือทั้งหมดของสัมปทาน โดย BTS ยังคงถืออยู่ BTSGIF อยู่ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต คือ 1 ใน 3 หรือประมาณ 33.33%

4. รายได้ของเครือ BTS แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ รายได้จากการเดินรถไฟฟ้าประมาณ 25% รายได้จากธุรกิจโฆษณาประมาณ 30% รายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 5% รายได้จากธุรกิจบริการประมาณ 15% และรายได้อื่นจากการจำหน่ายสินทรัพย์ เงินลงทุน หรือดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี

5. หลังจากจำหน่ายสิทธิให้ BTSGIF ไป ทำให้รายได้หลักกว่า 40% ที่เป็นค่าโดยสารของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักหายไปจากบริษัท เหลือเพียงส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลจากกองทุนรวม BTSGIF มูลค่า 1 ใน 3 ของรายได้เดิมเท่านั้น

6. รายได้จากการให้บริการเดินรถในส่วนต่อขยายสายสีลมและสายสุขุมวิท บริษัทรับจ้างบริหารให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าภายใต้สัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงระยะยาว ดังนั้น บริษัทจะได้รับรายได้ในรูปแบบค่าจ้างบริหารตามที่ตกลงไว้กับกรุงเทพมหานคร ส่วนรายได้จากค่าโดยสารจะรายได้ที่กรุงเทพมหานครจะได้รับ

7. ในปี 2558 VGI ถูกยกเลิกสัญญาการบริหารโฆษณาในร้านค้าโมเดอนเทรดในเครือห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บิ๊กซีมินิ และบิ๊กซีซูปเปอร์เซนเตอร์ทั้งหมด ทำให้รายได้จากการธุรกิจโฆษณาของ BTS ลดลงตามสัดส่วน

8. VGI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MACO ด้วยนะฮะ

9. ในปี 2559 บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ในเครือ BTS ประกาศเซ็นสัญญาร่วมทุนกับ LINE pay โดย BSS จะเข้าไปเพิ่มทุนให้กับบริษัท LINE Biz Plus Limited (ชื่อบริษัทของ LINE Pay) อีก 50% และเปลี่ยนชื่อบริการ LINE Pay เป็น Rabbit LINE Pay โดยสัดส่วนการถือหุ้นใน LINE Pay จะเป็นสัดส่วน 50:50 ระหว่าง BTS และ LINE

10. ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BTS จ่ายเงินปันผลออกมามากกว่ากำไรสุทธิปรกติที่บริษัทดำเนินกิจการได้ เนื่องจาก ในปี 2556 บริษัทได้กำไรพิเศษจากการขายสิทธิการได้รับรายได้ให้กับ BTSGIF และประกาศนโยบายจ่ายปันผลรวม 21,000 ล้านบาท โดยทยอยจ่ายในสิ้นรอบบัญชี 2557 จำนวน 6,000 ล้านบาท สิ้นรอบบัญชี 2558 จำนวน 7,000 ล้านบาท และสิ้นรอบบัญชี 2559 จำนวน 8,000 ล้านบาท ก่อนจะกลับมาจ่ายในอัตราปรกติที่บริษัททำได้จากกำไรสุทธิตั้งแต่หลังงวดบัญชี 31 มีนาคม 2559 เป็นต้นไป

ลงทุนศาสตร์ – Investerest