10 เรื่องหุ้นน่ารู้เกี่ยวกับหุ้น… CPALL
1. รายได้หลักของ CPALL มาจาก 2 ส่วนเป็นหลัก คือ รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อแบรนด์ 7-Eleven โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 60% และรายได้จากธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองแบรนด์ MAKRO ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 40% นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ของ CPRAM ธุรกิจเป็นตัวแทนรับชำระค่าสินค้าและบริการของ CS และธุรกิจจำหน่ายและซ่อมแซมอุปกรณ์ค้าปลีกของ CPR
2. ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทยมีจำนวน 8,832 สาขา ณ สิ้นปีพ.ศ. 2558 และมีเป้าหมายจะเปิดเพิ่มให้ถึง 10,000 สาขาในปีพ.ศ. 2561 โดยมีแผนการขยายตัวปีละ 600 สาขา โดยเป็นร้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3,922สาขา (คิดเป็นร้อยละ 44) เป็นร้าน ในต่างจังหวัด 4,910 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 56)
3. ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทยแบ่งระบบบริหารออกเป็นสาขาบริษัท 3,908 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 44) ส่วนที่เหลือเป็นร้านแฟรนไชส์ 4,257 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 48) และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 667 สาขา (คิดเป็นร้อยละ 8) โดยร้านที่บริษัททำสัญญาอนุญาตให้สิทธิช่วงแก่ผู้ประกอบการท้องถิ่นในการเปิดร้าน 7-Eleven เฉพาะในอาณาเขตที่กำหนด ปัจจุบันมี 4 ราย ได้แก่ ภูเก็ต ยะลา เชียงใหม่และอุบลราชธานี
4. รูปแบบร้านของแฟรนไชส์ 7-Eleven กับบุคคลทั่วไปจะมี 2 ลักษณะ เรียกว่าแฟรนไชส์ b กับ c (แต่ก่อนมี a แต่ยกเลิกไปแล้ว) โดยจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันคือ รูปแบบหนึ่งจะมีลักษณะเหมือนการรับจ้างบริหาร คือจะได้รับเงินคงที่จนถึงเป้าหมายที่สาขาตั้งไว้ ในกรณีที่ยอดขายเกินจะได้รายได้เพิ่มในรูปแบบของส่วนแบ่งของกำไรขั้นต้นตามที่ตกลงไว้
5. ในขณะที่อีกรูปแบบหนึ่งจะมีลักษณะเหมือนเปิดร้านของตัวเองมากกว่า คือได้รับรายได้ในรูปแบบส่วนแบ่งกำไรขั้นต้นตลอดช่วงกำไร ถ้ายอดขายมากได้รายได้มาก ถ้ายอดขายน้อยได้รายได้น้อย โดยผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ไม่สามารถสลับรูปแบบแฟรนไชส์ได้ ต้องเลือกว่าจะทำแบบ b หรือ c และคงรูปแบบนั้นไปตลอดทุกครั้งที่ต่อสัญญา
6. จำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน 7-Eleven เติบโตประมาณ 10% ต่อปี จำนวนร้านค้านอกปั๊มน้ำมันเติบโตประมาณ 10% ต่อปี และจำนวนร้านค้าในปั๊มน้ำมันก็เติบโตประมาณ 10% ต่อปีเช่นกัน
7. แม็คโครมีศูนย์จำหน่ายสินค้า ณ สิ้นปี 2558 91 สาขา เพิ่มขึ้น 14 สาขา
โดยมีพื้นที่ขายเฉลี่ยตั้ง แต่ 1,000 – 12,000 ตารางเมตรต่อสาขานอกจากนี้ แม็คโครยังมีร้านจำหน่ายอาหารแช่แข็งขนาดเล็ก “สยามโฟรเซ่น” อีกจำนวน 7 สาขา
8. CPALL มีวงจรกระแสเงินสดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 วัน นอกจากนี้ ผู้ที่จะมาทำแฟรนไชส์กับ 7-Eleven ยังจำเป็นต้องวางเงินเป็นหลักประกันประมาณ 1,000,000 ด้วย (ขึ้นกับรูปแบบแฟรนไชส์) โดยผู้วางหลักประกันจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบเงินที่เท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคาร
9. สัญญาแฟรนไชส์ระหว่าง CPALL กับ 7-Eleven เป็นสัญญาแบบไม่กำหนดอายุสัญญา แต่สามารถบอกยกเลิกในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดสัญญา
10. อัตราส่วนทางการเงินในด้านความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพการทำกำไร เช่น อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ อัตราส่วนหมุนเวียนสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากช่วงแรกลดลงจากการควบรวมกิจการ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดต่ำลง
ลงทุนศาสตร์ – Investerest