
วันที่ 20 ตุลาคม 2025 ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกถ้วนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาด ดัชนี Hang Seng Tech Index (HSTECH) ของฮ่องกงพุ่ง +3.11% ปิดที่ 5,939 จุด ดัชนี China H-Shares (HSCEI) บวก +2.11% ปิดที่ 9,202 จุด และดัชนี CSI300 ของจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น +0.81% ปิดที่ 4,550 จุด หลังสหรัฐฯ ส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับจีนเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า
ในฝั่งจีน บทบรรณาธิการของ Qiushi Journal ย้ำถึงการ “เสริมสร้างความเชื่อมั่นทางสังคม ฟื้นเสถียรภาพตลาด และเพิ่มความคาดเดาได้ของนโยบาย” ซึ่งช่วยหนุนความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเพิ่มเติม ขณะที่การประชุม Fourth Plenum ระหว่างวันที่ 20–23 ตุลาคมนี้ จะกำหนดแนวทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับใหม่ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TOPIX บวก +1.91% สู่ 3,230 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและการเงิน หลังรัฐบาลใหม่ภายใต้ ซาเนะ ทาคาอิจิ ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายการคลังเชิงขยายตัวและมาตรการอุดหนุนค่าครองชีพเพิ่มเติม ทำให้ตลาดมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ จะเกิดอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดเกาหลีใต้ขยับขึ้นต่อเนื่อง ดัชนี KOSPI บวก +1.00% สู่ระดับ 3,786 จุด ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและชิป เช่น Samsung Electronics และ SK Hynix หลังคาดว่าการเจรจาการค้าระหว่างเกาหลีใต้–สหรัฐฯ จะช่วยลดภาษีต่อสินค้าส่งออก รวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าซื้อสุทธิ
ด้านอินเดีย ดัชนี NIFTY 50 ปรับตัวขึ้น +0.49% สู่ 25,709 จุด (วันศุกร์ที่ 17 ต.ค.) จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน หลังตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงและธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีแนวโน้มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ส่วนตลาดอินโดนีเซีย ดัชนี IDX Composite ดีดกลับ +0.91% สู่ระดับ 7,987 จุด หลังแรงขายจากสัปดาห์ก่อนคลี่คลายและนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ โดยเฉพาะในหุ้นเทคโนโลยีอย่าง GOTO และเหมืองทองคำ PSAB
Finnomena Funds Team Outlook มองว่าการดีดตัวของตลาดในวันนี้สะท้อนแรงซื้อเก็งกำไรต่อความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีน และความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน ในภาพรวม ทีมยังคงมุมมองดังนี้:
• จีน (H-shares): Slightly Positive เน้นหุ้นเทคโนโลยีและ AI ที่ได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐ
• ญี่ปุ่น: Slightly Positive จากเมกะเทรนด์ AI–ชิป และนโยบายการคลังผ่อนคลาย
• เกาหลีใต้: Slightly Positive จากการส่งออกชิปที่แข็งแกร่งและกระแส Share Buyback
• อินเดีย: Slightly Positive จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง
• อินโดนีเซีย: Neutral จากความเสี่ยงการเมืองระยะสั้นและ EPS ที่ยังถูกปรับลดต่อเนื่อง
โดยรวม Finnomena Funds คงน้ำหนักการลงทุนในเอเชียไว้ในระดับ Slightly Positive พร้อมแนะนำ ทยอยสะสมกองทุน ตามธีมหลัก ได้แก่ MEGA10CHINA-A, ASP-NGF, SCBKEQTG, B-BHARATA และ คงสัดส่วนในกองทุนอินโดนีเซียเดิม เพื่อรับจังหวะฟื้นตัวของภูมิภาคในช่วงปลายปี
จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299