เช้าวันนี้ (30 มกราคม 2024) ตลาดหุ้นฮ่องกงยังเผชิญกับปัจจัยลบจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเมื่อวานนี้ ศาลฮ่องกงได้อ่านคำตัดสินให้บริษัท Evergrande ล้มละลายและเลิกกิจการ รวมทั้งชำระบัญชีคืนเงินให้กับผู้ถือหุ้นเป็นจำนวนกว่า 3.33 แสนล้านดอลลาร์ กระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับมามีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากทางการและธนาคารกลางจีน ต่างวางแผนรวมทั้งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นและเศรษฐกิจขนาดใหญ่

โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวลง 2.00% และดัชนี HSCEI ปรับตัวลง 2.18% โดยกลุ่ม Real Estate ปรับตัวลง 2.48%, Consumer Cyclical ปรับตัวลง 3.70% และกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวลง 2.04% ด้าน Longfor Properties ซึ่งเป็นหุ้นอสังหาฯจีนอันดับสอง ซึ่งถูก Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ลงสู่ระดับ Baa3 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา วันนี้ปรับตัวลง 7.40% ด้วยเช่นกัน

FINNOMENA FUNDS มองว่าแม้จีนจะยังเผชิญกับปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์แต่ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัจจัยใหม่ นอกจากนี้เราเห็นมาตรการจากทางจีนที่จะเพิ่มความมั่นใจแก่นักลงทุนเพิ่มมากขึ้นอย่างเด่นชัดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ หลังจาก Goldman Sachs ได้เผยว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ทำการซื้อหุ้นจีนในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. เป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี พร้อมกับเมื่อพิจารณาถึงระดับ valuation ของดัชนี CSI 300 ที่มี 12-m forward PE ที่ 9.8 เท่า หรือ -1.5 S.D. ขณะที่ดัชนี Hang Seng มี 12-m forward  PE ที่ 7.2 เท่า หรือ -2.5 S.D. เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และมีการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 5 ปีและ 10 ปีตามลำดับ เรายังแนะนำทยอยสะสมในกองทุน K-CHINA-A และ ABCA-A สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและยังมีสัดส่วนหุ้นจีนในพอร์ตไม่มาก และเข้าลงทุน MEGA10CHINA-A สำหรับนักลงทุนที่ติดตาม FundTalk Call

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)

iran-israel-war