วันนี้ (15 มีนาคม 2024) ดัชนีหุ้นฮ่องกง Hang Seng (HSI) และดัชนี HSCEI หรือหุ้นจีน H-Share ปรับตัวลงราว 2% หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ไว้ที่ระดับ 2.5% ตามคาดเพื่อสร้างเสถียรภาพของค่าเงินหยวน ท่ามกลางความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในขณะนี้จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นเพิ่มเติม

ธนาคารกลางจีน (PBoC) ดูดซับสภาพคล่องจากระบบธนาคารเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 

2022 จำนวน 9.4 หมื่นล้านหยวน (1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางจีนยังคงมีความระมัดระวังที่จะใช้นโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และได้กำหนดอัตราดอกเบี้ย MLF ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายเมื่อมีการกู้ยืมจากธนาคารกลางจีน ไว้ที่ระดับ 2.5% ตามคาด โดยการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้สร้างความกังวลให้นักลงทุนที่คาดว่าจีนจะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ในปีนี้  นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางจีนยังพยายามจำกัดขอบเขตการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ก่อนธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะมีการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป 

Finnomena Funds มองว่า ความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงจะเริ่มดีขึ้น ถึงแม้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างจำกัด แต่เราเชื่อว่ารัฐบาลจีนมีความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้  เมื่อพิจารณาถึงระดับ valuation ของดัชนี Hang Seng อยู่ในระดับ Deep discount โดย 12-m forward  PE อยู่ที่ 7.8 เท่า หรือ -2 S.D. เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี เป็นการตอกย้ำว่ามูลค่าพื้นฐานของตลาดหุ้นฮ่องกงถูกมาก ขณะที่ 12-m forward PE ของดัชนี CSI 300 อยู่ที่ 10.9  เท่า หรือ -0.8 S.D. เรายังแนะนำทยอยสะสมในกองทุน K-CHINA-A และ ABCA-A สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและยังมีสัดส่วนหุ้นจีนในพอร์ตไม่มาก

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)

iran-israel-war