วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2024) ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (NIKKEI) ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 37,963 จุด หรือปรับตัวขึ้นเกือบ 3% แตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 34 ปี ด้าน TOPIX ปรับตัวขึ้น 2.01% มาอยู่ที่ระดับ 2,612 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกลุ่มยานยนต์ การส่งออก และเทคโนโลยี ที่มีผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้น ARM Holding ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 116% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลังจากความต้องการชิปในอุตสาหกรรม AI กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง โดย SoftBank มีสัดส่วนในการถือหุ้น 90% ได้ปรับตัวขึ้นถึง 6% ในวันนี้

กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 3.5% นำโดย Tokyo Electron ปรับตัวขึ้นกว่า 12% สูงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด และมีอุปสงค์ในจีนที่เพิ่มขึ้นจากสงครามชิประหว่างจีนและสหรัฐฯ

ด้านดัชนีราคาค้าส่งของญี่ปุ่น (Corporate Goods Price Index) เดือนมกราคมออกมาขยายตัวที่ 0.2% YoY มากกว่าคาดที่ 0.1% จากดัชนีราคาส่งออกที่ขยายตัว 8.9%YoY ในสกุลเงินเยน โดยมีการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีและการขนส่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้คาดว่าเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะยังขยายตัวจะยังขยายตัวได้ต่อ และสะท้อนการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก

FINNOMENA FUNDS มองว่าแม้ sentiment ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะถูกหนุนด้วยปัจจัยด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งภาครัฐสนับสนุนให้บริษัทซื้อหุ้นคืนในปีที่ผ่านมา แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น จาก -0.1% ในปัจจุบัน เป็น 0% และอาจจะเห็นนโยบายทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นในการประชุมเดือนเมษายนที่จะถึงนี้สวนทางกับธนาคารกลางของประเทศอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่นในปีนี้ FINNOMENA FUNDS จึงแนะนำลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)

iran-israel-war