รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAX

กองทุน TLFVMR-ASIAX เปิดประตูการลงทุนสู่เอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่นและจีน) ด้วยการพัฒนากลยุทธ์ร่วมกันระหว่าง บลจ. ทาลิส กับ A.Stotz Investment Research ผ่านแนวคิดการลงทุน FVMR สร้างผลตอบแทนชนะตลาด ภายใต้ความผันผวนที่เหมาะสม

Highlight


รีวิวกอง

กฎง่าย ๆ ของการลงทุน เรามักจะมองหาอะไรที่มี “โอกาส” สร้างผลตอบแทนคุ้มค่ากับ “ความเสี่ยง” หรือที่เรียกกันว่า Risk to Reward และที่สำคัญต้องเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเติบโตไปข้างหน้า โดยยังมี Upside เพื่อสร้างผลตอบแทนในอนาคต

คำถามคือเมื่อกวาดตามองไปทั่วแผนที่โลก ภูมิภาคไหนล่ะที่ตอบโจทย์เงื่อนไขแบบนี้ คือยังไม่โตจนอิ่มตัว แต่ก็ไม่ได้เล็กจนขาดพลัง… เชื่อว่า “เอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific)” ต้องเป็นหนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกถึง

เอเชียแปซิฟิก เป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ครอบคลุมทวีปเอเชียและมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เพราะความได้เปรียบในแง่จำนวนประชากรกว่า 4.7 พันล้านคน คิดเป็น 60% ของโลก เต็มไปด้วยวัยแรงงาน และ middle class ที่มีกำลังซื้อ ตลอดจนพลวัตรทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

จึงเป็นที่มาของกองทุน IPO น้องใหม่ TLFVMR-ASIAX ที่ บลจ. ทาลิส พัฒนาร่วมกับ A.Stotz Investment Research พาเปิดประตูการลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAX

รู้จักกองทุน TLFVMR-ASIAX

กองทุนเปิดทาลิส FVMR เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน เอ็กซ์ ไชน่า หรือ TLFVMR-ASIAX เป็นกองทุนรวมประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่นและจีน) โดยจะกระจายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในออสเตรเลีย, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงค์โปร์, ไต้หวัน และไทย

TLFVMR-ASIAXSource: A. Stotz Investment Research, mapchart.net as of 18/03/2024

กองทุนจะใช้กระบวนการวิเคราะห์ทั้งเชิงปริมาณและพื้นฐาน ด้วยหลักการ FVMR ประกอบด้วย Fundamentals, Valuation, Momentum, Risk ควบคู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ข้อมูลข่าวสาร บทวิเคราะห์ เพื่อพิจารณาเลือกลงทุนและกําหนดสัดส่วนในตลาดหุ้นของแต่ละประเทศ โดยมุ่งหวังผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)

รายละเอียดอื่น ๆ ของ TLFVMR-ASIAX

  • ความเสี่ยงสูงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
  • นโยบายปันผล ไม่จ่าย
  • ไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
  • ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
  • ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.00% 
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.4980% ต่อปี
  • รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.6050% ต่อปี
  • เสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 1 เมษายน 2024

ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 07/03/2024

ลงทุนเอเชียแปซิฟิก ทำไมต้องไม่มีญี่ปุ่นและจีน?

TLFVMR-ASIAX แตกต่างจากกองทุนหุ้นเอเชียอื่น ๆ ในตลาด นั่นคือแนวคิดว่าควรแยกทั้งญี่ปุ่นและจีนออกจากเอเชียแปซิฟิกไปเลย และกลายมาเป็นกองทุน Asia Pacific ex Japan ex China 

เหตุผลเพราะว่าญี่ปุ่นและจีนเป็น 2 ประเทศที่มีมูลค่าตลาดหุ้นใหญ่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค จนมีอิทธิพลเกินไปในการกำหนดทิศทางพอร์ต ซึ่งไม่ค่อย Healthy นัก โดยเฉพาะช่วงตลาดขาลง

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: A. Stotz Investment Research, mapchart.net as of 18/03/2024

ญี่ปุ่นถือเป็น Developed Market ที่ถูกแยกออกจากดัชนีหุ้น Asia Pacific มานานหลายทศวรรษแล้ว เพราะก่อนหน้านี้หุ้นญี่ปุ่นมีมูลค่ามากกว่าครึ่งหนึ่ง และปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของ Asia Pacific 

แต่กรณีของจีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในภูมิภาค ปัจจุบันมูลค่าตลาดหุ้นอยู่ที่ประมาณ 16% ของ Asia Pacific และมีแนวโน้มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราควรตัดจีนออกไปจาก Universe นี้เช่นกัน

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: A. Stotz Investment Research, MSCI, Visual Capitalist as of 18/03/2024

ความน่าสนใจของประเทศที่ TLFVMR-ASIAX คาดจะเข้าลงทุน

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: Source: A. Stotz Investment Research, CIA Factbook, IMF, MSCI, Refintitv, World Bank as of 18/03/2024

ออสเตรเลีย 

  • เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 13 ของโลก ด้วยมูลค่า GDP ปี 2023 ที่ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ 
  • เป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพสูงสุด สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีจังหวะสะดุดมาเกือบ 30 ปี
  • เศรษฐกิจถูกหนุนด้วยภาคบริการ คิดเป็นประมาณ 62.43% ของ GDP ปี 2022 และตามมาด้วยการเงิน สุขภาพ การศึกษา เหมืองแร่ และการก่อสร้าง

อินเดีย

  • ในปี 2024 คาดว่าอินเดียจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก จากความหลากหลายของภาคเศรษฐกิจและอัตราการเติบโตอันรวดเร็ว
  • อินเดียถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มเทคโนโลยี บริการ การเกษตร และอุตสาหกรรม 
  • ได้เปรียบจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ ประกอบกับจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก และอายุยังน้อย มีการขยายตัวของชนชั้นกลาง

อินโดนีเซีย

  • หนึ่งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ถูกจับตามอง และมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • จำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 10
  • มีโอกาสเติบโตจากกำลังซื้อในประเทศ และจะได้รับประโยชน์มหาศาลหากสามารถขจัดความยากจนออกไปได้

เกาหลีใต้

  • ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งในแง่การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลดความยากจนของคนในประเทศ
  • GDP เกาหลีใต้โตเฉลี่ย 4.9% ต่อปี ระหว่างปี 1999-2022 ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยการส่งออกเป็นหลัก

มาเลเซีย

  • Bank Negara Malaysia คาดการเติบโต GDP มาเลเซียปี 2024 อยู่ในช่วง 4-5% 
  • ปัจจัยหนุนมาเลเซียนั้นอยู่ที่รายได้จากการนักท่องเที่ยว รวมทั้งอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวทั้งในฝั่งภาครัฐและเอกชน

“คน” + “เทคโนโลยี” พลังขับเคลื่อนตลาดเกิดใหม่

นอกจากปัจจัยเฉพาะตัวที่โดดเด่นของแต่ละประเทศแล้ว เมื่อมองในภาพรวมจะเห็นว่า Asia Pacific มีจุดแข็งร่วมกันอยู่ 2 ประการ คือ

ประการแรก… ประชากรกว่าครึ่งโลกอยู่ที่นี่ 

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: A. Stotz Investment Research, Kharas (2010) The Emerging Middle Class in Developing Countries as of 18/03/2024

การมัดรวมประเทศใน Asia Pacific จะทำให้มีจำนวนประชากรมากกว่า 60% ของโลก เป็นวัยแรงงานในสัดส่วนที่สูง ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวของชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูง คาดว่าการใช้จ่ายของชนชั้นกลางในภูมิภาคนี้จะเพิ่มขึ้น 120% เป็น 33 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030 สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่เติบโต 59% 

ประการที่สอง… ศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: : A. Stotz Investment Research, BCG, SIA as of 18/03/2024

อีกหนึ่งปัจจัยที่ขับเคลื่อนภูมิภาคนี้ ก็คือบทบาทสำคัญของอุตสากรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาเทคโนโลยี AI ซึ่งเราจะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา หุ้นเทคโนโลยีกลุ่ม Magnificat-7 ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด แต่รู้ไหมว่าเบื้องหลังของ Tech และ AI ล้วนต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่มี ไต้หวัน เกาหลีใต้ และมาเลเซีย เป็นผู้ผลิตรายใหญ่

วิเคราะห์เชิงลึกผ่านกระบวนการลงทุน FVMR

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: บลจ. ทาลิส as of March 2024

กองทุน TLFVMR-ASIAX มีกลยุทธ์การคัดเลือกตลาดโดยใช้ FVMR Framework ซึ่งเป็นรูปแบบวิธีคิดที่ถูกออกแบบเป็นขั้นตอนด้วยฝีมือของ A.Stotz Investment Research ก่อตั้งโดย Andrew Stotz นักวิเคราะห์และนักวิจัยที่มีประสบการณ์การลงทุนกว่า 20 ปี 

FVMR Framework ประกอบด้วย 4 ปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ 

  • Fundamentals: การวิเคราะห์พื้นฐานแบบ Bottom-up ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดแต่ละแห่ง เพื่อพิจารณาผลการดำเนินงาน ตัวเลขการเงิน และความสามารถทางการแข่งขัน
  • Valuation: ประเมินมูลค่าตลาดทั้ง Absolute และ Relative Valuation เพื่อค้นหาหุ้นที่มูลค่าเหมาะสม 
  • Momentum: วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของกำไร ควบคู่กับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น
  • Risk: ประเมินความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความผันผวนของราคา ภาระหนี้สิน เป็นต้น

 

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXคุณษรศักดิ์ ก้องเจริญพาณิชย์ และคุณ Andrew Stotz ผู้ร่วมก่อตั้ง A.Stotz Investment Research

หัวใจสำคัญอยู่ที่กระบวนการลงทุนที่ชัดเจน เป็นระบบ ติดตาม และตรวจสอบกลยุทธ์สม่ำเสมอ พร้อมทั้งร่วมกับทีมผู้จัดการกองทุน บลจ. ทาลิส ตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย และจะพิจารณาปรับน้ำหนักพอร์ตโฟลิโอ จำนวน 4 ครั้งต่อปี

การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) ผลตอบแทนชนะตลาด 

A.Stotz Investment Research ได้นำกลยุทธ์ FVMR เปรียบเทียบกับ Asia Pacific ex Japan โดยทำการ Backtesting ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 1997 ถึง 30 พฤศจิกายน 2023 ผ่านการลงทุนในดัชนี และไม่พิจารณาค่าธรรมเนียม

พบว่ากลยุทธ์ FVMR ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า มี Risk-adjusted return ดีกว่า และ Maximum drawdown ก็ลดลงด้วย

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAX

รีวิวกองทุน TLFVMR-ASIAXSource: A. Stotz Investment Research, Refintitv as of 18/03/2024

ภาพข้างต้นแสดงให้เห็นว่าเมื่อนำเงิน 100 บาทไปลงทุนในหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) เวลาผ่านไป 26 ปี เงินก้อนนั้นจะโตเป็น 418 บาท 

แต่หากนำเงิน 100 บาทเท่ากันไปลงทุนผ่านกลยุทธ์ FVMR ในหุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่นและจีน) ใช้เวลาเท่ากัน เงินก้อนนั้นจะโตเป็น 805 บาท

สรุปจุดเด่นกองทุน TLFVMR-ASIAX เหมาะกับใคร?

  • ลงทุนกระจายไม่กระจุก ครอบคลุมหุ้นหลายประเทศใน Asia Pacific ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาประเทศขนาดใหญ่  
  • โอกาสเติบโตก้าวกระโดด จากศักยภาพของตลาดเกิดใหม่ที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว เช่น โครงสร้างประชากรอย่างอินเดียและอินโดนีเซีย หรือการเป็นศูนย์กลางเซมิคอนดักเตอร์อย่างไต้หวันและเกาหลีใต้
  • ลงทุนผ่านกลยุทธ์ FVMR ที่โดดเด่นในการเอาชนะทุกสภาวะตลาด ภายใต้ความผันผวนที่ต่ำ
  • เป็น Fund of Fund สามารถลงทุนใน Index ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ของหุ้นในกลุ่ม Asia Pacific ซึ่งผ่านการคัดกรองมาแล้วว่าน่าสนใจ และสภาพคล่องสูง
  • เหมาะกับผู้ที่ค้นหาโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ เชื่อมั่นกับตลาดแห่งอนาคตทั้งในแง่เศรษฐกิจ และ Fund Flow ไหลเข้า

 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/ 


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

iran-israel-war