
กองทุน K-SEMQ คว้าโอกาสลงทุนในหุ้นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ทั้งจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, อินเดีย และบราซิล ด้วยกลยุทธ์ Active จนสามารถสร้างผลงานย้อนหลังโดดเด่นเหนือกว่าดัชนีชี้วัดและค่าเฉลี่ยกลุ่มอย่างต่อเนื่อง
“Emerging Market” หรือ EM คือคำที่ใช้อธิบาย เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า ตลาดกำลังพัฒนา ตรงข้ามกับตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market หรือ DM)
โดยนักวิเคราะห์มักแบ่งประเทศตลาดเกิดใหม่ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ตามภูมิภาค
- เอเชีย ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ จีน อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย และปากีสถาน
- ละตินอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลัมเบีย เม็กซิโก เปรู และเวเนซูเอลา
- ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้แก่ สาธารณรัฐเชก ฮังการี โปแลนด์ รัสเซีย อิสราเอล จอร์แดน โมร็อกโค อียิปต์ แอฟริกาใต้ และตุรกี
ในบรรดาประเทศเหล่านี้ มี 4 ประเทศขนาดใหญ่ที่นักลงทุนจับตามองเป็นพิเศษ เพราะถูกมองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน หรือที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่ม BRICS
การเติบโตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
หากพูดถึงตลาดเกิดใหม่ สิ่งแรกที่นักลงทุนนึกถึงคือศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าตลาดพัฒนาแล้วมาก เนื่องจากประเทศเหล่านี้ยังมีช่องว่างในการพัฒนาทั้งโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภค การขยายตัวของชนชั้นกลาง และการเพิ่มขึ้นของประชากรวัยทำงาน ทำให้ตลาดเหล่านี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาว
เพื่อที่จะได้เห็นภาพการเติบโตในอนาคตที่ชัดเจนขึ้น ลองไปดูการคาดการณ์ GDP ของประเทศเหล่านี้ในปี 2030 กัน
- จีน ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก คาดการณ์ว่า GDP จะพุ่งสูงถึง 25.83 ล้านล้านดอลลาร์ แสดงถึงความแข็งแกร่งและบทบาทสำคัญในเวทีโลก
- อินเดีย กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจเศรษฐกิจอย่างเต็มตัว โดยคาดว่า GDP จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดสู่ 6.76 ล้านล้านดอลลาร์
- บราซิล ผู้นำเศรษฐกิจแห่งอเมริกาใต้ คาดว่า GDP จะอยู่ที่ 2.68 ล้านล้านดอลลาร์
- รัสเซีย ผู้นำเศรษฐกิจจากยุโรปตะวันออก คาดการณ์ว่าจะมี GDP อยู่ที่ 2.38 ล้านล้านดอลลาร์
- เม็กซิโก เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคละตินอเมริกา คาดว่า GDP จะแตะ 2.15 ล้านล้านดอลลาร์
- เกาหลีใต้ กำลังจะก้าวสู่การเป็นตลาดพัฒนาแล้วอย่างเต็มตัว คาดว่าจะมี GDP อยู่ที่ 2.14 ล้านล้านดอลลาร์
- ไต้หวัน เป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก คาดว่า GDP จะอยู่ที่ 9.6 แสนล้านดอลลาร์
- ฮ่องกง ยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย คาดว่า GDP จะอยู่ที่ 5.3 แสนล้านดอลลาร์
คว้าโอกาสลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ผ่านกองทุน K-SEMQ
กองทุนเปิดเค ซีเล็คทีฟ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ หุ้นทุน หรือ K-SEMQ มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้หรือการผลิตจากกลุ่มประเทศดังกล่าว ผ่านกองทุนหลัก Templeton Emerging Markets Fund, Class I (acc) USD พร้อมด้วยนโยบายการปรับพอร์ตแบบ Active Management และกระบวนการลงทุนแบบ Bottom Up เน้นบริษัทที่เติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างควบคู่กับมีรายได้สม่ำเสมอ เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด MSCI Emerging Net Total Return USD
ผลตอบแทนในอดีตโดดเด่นเหนือดัชนีและค่าเฉลี่ย
ผลการดำเนินงานย่อนหลังแบบปักหมุด | Source: KAssets
*คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
จากตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่ากองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยสามารถเอาชนะทั้งดัชนีชี้วัดและค่าเฉลี่ยของกองทุนในกลุ่มเดียวกันได้ถึง 5 ใน 6 ช่วงเวลา แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ดังนี้
- ผลตอบแทน YTD (ตั้งแต่ต้นปี) กองทุนทำผลตอบแทนได้ 17.53% ซึ่งสูงกว่าดัชนีชี้วัด (13.12%) และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มเดียวกัน (10.38%)
- ผลตอบแทน 3 เดือน กองทุนทำผลตอบแทนได้ 11.73% สูงกว่าดัชนีชี้วัด (10.83%) และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มเดียวกัน (8.76%) อย่างชัดเจน
- ผลตอบแทน 6 เดือน กองทุนทำผลตอบแทนได้ 17.53% ซึ่งสูงกว่าดัชนีชี้วัด (13.12%) และค่าเฉลี่ยกลุ่ม (10.38%)ผลตอบแทน 1 ปี กองทุนทำผลตอบแทนได้ 15.17% ซึ่งสูงกว่า
- ดัชนีชี้วัด (10.63%) และค่าเฉลี่ยกลุ่ม (4.55%) อย่างมาก
- ผลตอบแทน 3 ปี กองทุนทำผลตอบแทนได้ 8.04% สูงกว่าดัชนีชี้วัด (6.37%) และค่าเฉลี่ยกลุ่ม (3.55%) อย่างต่อเนื่อง
- ผลตอบแทน 5 ปี กองทุนทำผลตอบแทนได้ 3.52% ซึ่งแม้จะต่ำกว่าดัชนีชี้วัด (5.21%) เล็กน้อย แต่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม (1.63%) อย่างมีนัยสำคัญ
Top 10 Holdings กองทุนหลัก
*หมายเหตุ ข้อมูล ณ วันที่ 27/08/2025 สัดส่วนอาจมีการเปลี่ยนแปลง
Top 10 Holdings กองทุนหลัก | Source: Financial Times
- Taiwan Semiconductor Manufacturing – 9.74% ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
- Prosus NV – 5.05% บริษัทด้านการลงทุนในเทคโนโลยีระดับโลก มีหุ้นในบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent
- SK Hynix Inc – 4.57% บริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่มีบทบาทสำคัญในตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก
- Credit Agricole Corporate & Investment Bank Sa/United States – 4.16% สถาบันการเงินที่ให้บริการด้านการลงทุนและวาณิชธนกิจ
- ICICI Bank – 4.04% หนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย สะท้อนถึงการลงทุนในตลาดการเงินของตลาดเกิดใหม่
- Samsung Electronics – 3.53% บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกจากเกาหลีใต้ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์หลากหลายชนิด
- Alibaba Group Holding – 3.13% บริษัทอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีขนาดใหญ่จากจีน ที่มีบทบาทในธุรกิจ Cloud Computing และการเงิน
- Tencent Holdings – 2.85% บริษัทเทคโนโลยีและสื่อยักษ์ใหญ่จากจีน ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง WeChat และเกมออนไลน์
- MediaTek – 2.72% บริษัทผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของไต้หวัน โดยเฉพาะชิปสำหรับสมาร์ทโฟน
- Grupo Financiero Banorte SAB de CV – 2.54% สถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเม็กซิโก สะท้อนถึงการลงทุนในภาคการเงินของตลาดละตินอเมริกา
สรุปจุดเด่นกองทุน
- เปิดโอกาสลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM) ทั่วโลก เช่น อินเดีย, จีน, เกาหลีใต้, ไตหวัน, บราซิล เป็นต้น หรือลงทุนในบริษัทที่มีสัดส่วนของรายได้หรือการผลิตที่มาจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
- บริหารด้วยกลยุทธ์ Active โดยผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนหลัก Templeton Emerging Market Fund ซึ่งใช้กระบวนการลงทุนแบบ Bottom Up และเน้นบริษัทที่เติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างควบคู่กับมีรายได้สม่ำเสมอ
- ผลงานเหนือกว่าดัชนีชี้วัดและค่าเฉลี่ยกลุ่ม จากข้อมูลในอดีต กองทุนนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่โดดเด่น และเหนือกว่าทั้งดัชนีชี้วัดและค่าเฉลี่ยของกองทุนในกลุ่มเดียวกัน
K-SEMEQ’s Finnomena 3D Diagram | Source: Finnomena
รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ
- ความเสี่ยงระดับ 6 (กองทุนรวมตราสารทุน)
- นโยบายปันผล ไม่จ่าย
- ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.5%
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ยกเว้น
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.2840% ต่อปี
- รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.4137% ต่อปี
- ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/06/2025
ศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ Finnomena Funds
อ้างอิง: Statista, Financial Times, KAssets
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299



