อยากจะลงทุนในตลาดหุ้นจีน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เพราะมีทางเลือกหลากหลายเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นหุ้น A-Shares, H-Shares และอื่น ๆ และไหนจะมีหุ้น ADR อีก วันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่เรื่องพื้นฐานที่สุดก่อนคือ ความต่างของดัชนี CSI 300 (หุ้นจีน) และ Hang Seng Index หรือ HSI (หุ้นฮ่องกง) ว่ามีความต่างกันอย่างไร ซึ่งเราจะมาสรุปให้เลยชัด ๆ ทีละประเด็น

สารบัญ (คลิกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจได้เลย)


ถ้าอยากเริ่มต้นเข้าใจหุ้นจีน ต้องเริ่มจากทำความรู้จักตลาดหลักทรัพย์หลัก ๆ ในจีนเสียก่อน โดยจะมีอยู่ 3 ตลาดเลยที่ควรรู้จัก คือ

  1. Shanghai Stock Exchange (SSE) ในเซี่ยงไฮ้
  2. Shenzhen Stock Exchange (SZSE) ในเซินเจิ้น
  3. Stock Exchange of Hong Kong (SEHK) ในฮ่องกง

 

เซี่ยงไฮ้ หุ้น ดัชนี

Source: TravelScape on Freepik

ด้วยความที่มีตลาดอยู่หลาย ๆ แห่ง ดัชนีหุ้นจีนก็จะมีหลายทางเลือกจนอาจจะงง เช่น China A50, SZSE และ SSE แต่ตัวหลัก ๆ ที่น่าจะรู้จักกันก่อนคือ CSI 300 และ Hang Seng (HSI) ที่เป็นดัชนีตัวแทนของตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง

ทีนี้เราลองมาเจาะลึก 2 ดัชนีนี้ไปพร้อม ๆ กัน

ดัชนี CSI 300 คืออะไร

CSI 300 หรือชื่อเต็มคือ Shanghai Shenzhen CSI 300 จัดทำโดย China Securities Index และเริ่มใช้เมื่อปี 2005 เป็นดัชนีหุ้นจีน A-Shares (บริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน) 300 ตัวในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ 2 แห่ง คือ Shanghai Stock Exchange (SSE) และ Shenzhen Stock Exchange (SZSE)

ทั้งนี้ มูลค่าหุ้นใน CSI 300 คิดเป็น 70% ของตลาดหุ้นจีนทั้งหมด ถือว่าเป็นดัชนีที่สะท้อนภาพของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ได้ดี โดยหุ้นในดัชนี CSI 300 มีการกระจายสัดส่วนไปในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าฟุ่มเฟือย

ดัชนี Hang Seng Index (HSI) คืออะไร

HSI หรือชื่อเต็มคือ Hang Seng Index จัดทำโดย Hang Seng Indexes Company เริ่มใช้เมื่อปี 1969 เป็นดัชนีหุ้นประมาณ 60 ตัวที่มีการซื้อขายใน Stock Exchange of Hong Kong ประกอบไปด้วยหุ้น 3 แบบ คือ

  • Red Chip หุ้นที่มีธุรกิจบนจีนแผ่นดินใหญ่ จดทะเบียนนอกจีน แต่ซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง
  • P Chip หุ้นที่ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาล จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
  • H Share หุ้นที่มีธุรกิจบนจีนแผ่นดินใหญ่ จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

 

ดัชนี HSI มีมูลค่าโดยรวมคิดเป็น 65% ของตลาดหุ้นฮ่องกงทั้งตลาด จึงถือเป็นดัชนีที่สะท้อนภาพโดยรวมของตลาดหุ้นฮ่องกง โดย HSI จะโดดเด่นในเรื่องของหุ้นเทคฯ จีนหลาย ๆ ตัวซึ่งเราน่าจะคุ้นเคยกันดี ไปจนถึงบริษัทสายการเงินชั้นนำ

ดัชนี หุ้นจีน CSI 300 Hangseng HSI

สำรวจหุ้นใน CSI 300 กับ HSI เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน

ถึงตรงนี้เราจะมาเปรียบเทียบหุ้นตัวเด่น ๆ ที่มีสัดส่วนมากที่สุดในดัชนี CSI 300 และ HSI เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าจุดที่แตกต่างและข้อได้เปรียบกันของ 2 ดัชนีอยู่ที่ตรงไหน 

โดยในส่วนของ CSI 300 จะอ้างอิงข้อมูลจาก Top Holdings ของ iShares Core CSI 300 ETF และ HSI จะใช้ข้อมูลของ iShares Core Hang Seng Index ETF อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 

ดัชนี หุ้นจีน CSI 300 Hangseng HSI

บริษัทเด่น ๆ ในดัชนี CSI 300 

  • Kweichow Moutai บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • Contemporary Amperex Technology ผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม
  • Ping An Insurance บริษัทประกันภัย ให้บริการทางการเงินครบวงจร
  • China Merchants Bank ธนาคารพาณิชย์
  • Wuliangye Yibin บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

บริษัทเด่น ๆ ในดัชนี HSI

  • Alibaba บริษัทอีคอมเมิร์ซ 1 ใน 3 Big Tech ของจีน
  • HSBC ธนาคารยักษ์ใหญ่
  • Tencent บริษัทอินเทอร์เน็ต 1 ใน 3 Big Tech
  • AIA บริษัทประกันชั้นนำ
  • Meituan ผู้ให้บริการ Food Delivery อันดับ 1 ของจีน

 

ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ก็ต้องสรุปว่า CSI 300 เป็นส่วนผสมของอุตสาหกรรมที่หลากหลายของจีน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนทางด้านของดัชนี HSI จะกระจุกตัวในกลุ่มเทคฯ และการเงิน เป็นหลัก

ผลตอบแทน 10 ปีย้อนหลัง CSI 300 และ HSI

หากลองดูผลตอบแทนจะเห็นว่าจริง ๆ แล้ว CSI 300 และ HSI จะวิ่งไปในทิศทางสอดคล้องกันพอสมควร แต่จุดแตกต่างหนึ่งที่น่าสนใจคือในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา (ปลายปี 2019 ถึง 2020) CSI 300 ปรับตัวกลับขึ้นมายาว ๆ ก่อนจะลงกลับไปอีกครั้งจากการคุมเข้มภาคเอกชนของทางการจีน ในขณะที่ HSI ยังคงวิ่งทำ sideway down ลงมาต่อเนื่อง

ดัชนี หุ้นจีน CSI 300 Hangseng HSI

เทียบ Performance ตั้งแต่ปี 2013-2023 ระหว่าง CSI 300 กับ HSI
Source: TradingView ข้อมูล ณ วันที่ 1/01/2013 ถึง 3/07/2023

ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

เลือกลงทุน CSI 300 หรือ HSI  ดัชนีไหนเหมาะกับใคร

คำถามสำคัญคือ หากต้องเลือกลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นจีนสักตัว ดัชนีไหนดีที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด เราสรุปออกมาชัด ๆ ดังนี้

ดัชนี CSI 300 เหมาะกับคนที่ …

  • ต้องการลงทุนในดัชนีที่สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ได้ดีที่สุด
  • ต้องการเติบโตด้วยพลังการบริโภคของคนจีน ผ่านหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคและสินค้าฟุ่มเฟือย

 

ดัชนี HSI เหมาะกับคนที่ …

  • ต้องการลงทุนในดัชนีที่เต็มไปด้วยหุ้นสายการเงินและ IT ที่เป็นจุดเด่นของตลาดหุ้นฮ่องกง
  • เชื่อมั่นในบริษัทเทคฯ ชั้นนำของจีน เช่น Tencent, Alibaba, Meituan หรือ JD.com

 

FINNOMENA Investment Team มองว่าตลาดหุ้น All China มี Valuation ลดลงมาต่ำกว่า -1 S.D. และดัชนี Hang Seng ปรับตัวลงมากว่า -2 S.D. เมื่อเทียบกับหุ้นโลก จึงยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน เนื่องจากราคาลงมาในจุดที่ Valuation น่าสนใจ อีกทั้งเศรษฐกิจจีนยังมี upside ให้ฟื้นตัวอยู่ในระดับสูง

ดัชนี หุ้นจีน CSI 300 Hangseng HSI

แต่สำหรับผู้ที่อยากกระจายการลงทุนทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ก็ยังมีกองทุนจีนในหมวด All-China ที่รวมหุ้นจีนทั้งในแผ่นดินใหญ่ (A-Shares) และฮ่องกง (Red Chip, P Chip และ  H Share) รวมถึงหุ้น ADR หรือหุ้นที่ทำธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

รายชื่อกองทุน CSI 300 และ HSI ในไทย

รายชื่อกองทุน CSI 300 ในไทย

กองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ Passive Fund ที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง CSI 300

รายชื่อกองทุน HSI ในไทย

กองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ Passive Fund ที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง HSI

 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/ 


อ้างอิง

คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม และประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”

iran-israel-war