ใคร ๆ ก็ชอบว่าเด็กติดเกมนั้นคือเด็กมีปัญหา ทั้งเสียเงิน เสียเวลา แต่เรากำลังมาสู่ยุคที่เล่นเกมไปด้วย และทำเงินได้ด้วย และยิ่งเล่นนานก็ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยกู้บน Defi ฟาร์มเหรียญที่มีดอกผลกลับมาให้เรื่อย ๆ งานนี้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องอ่านทำความเข้าใจกันหน่อยละครับ

ยุคนี้ก็เป็นยุคของ Gamer และ e-Sport อย่างแท้จริง จากเมื่อก่อนสมัยเด็ก ๆ ผู้เขียนเล่นเครื่องฮาตาริ และแฟมิคอม มาสู่ยุคเกม PC เกมในโซเชียล เกมมือถือ ซึ่ง business model ส่วนใหญ่คือ Pay to Win ใครเติมหนักก็ชนะไป แต่ก็ไม่ได้อะไรนอกจากความมันส์

อุตสาหกรรมเกมบนโลกเรามีขนาดใหญ่มาก ๆ โดยในปัจจุบันมีจำนวนผู้เล่นเกมแล้วกว่า 2.7 พันล้านคน สร้างรายได้ถึงราว 3 แสนล้านเหรียญต่อปี เรียกว่าอุตสาหกรรมเกมวันนี้ใหญ่กว่าอุตสาหกรรมเพลง และภาพยนต์รวมกันเสียอีก

ส่วนกล่องสุ่มจะผิดกฎหมายหรือไม่ ก็แล้วแต่กรณีว่าจัดเป็นการเสี่ยงโชคหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือการพนันอย่าง ตู้ Slot Machine ที่ลาส เวกัส ตู้ปาจิงโกะที่โตเกียว เป็นสิ่งที่คนนิยมเล่นกันมาช้านาน ส่วนในบ้านเราที่ถูกกฏหมายก็คือสลากกินแบ่ง ส่วนที่เหลือก็แอบเล่นกันไปตามประสา

คนไทย 66 ล้านคนเล่นการพนัน 29 ล้านคนหรือเกือบครึ่งประเทศ โดยเป็นคนซื้อลอตเตอรี 21 ล้านคน หวยใต้ดิน 17 ล้านคน พนันบอล 2.5 ล้านคน และอื่น ๆ อีกมากมาย

ทุกวันนี้กล่องสุ่ม กาชาปองก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกม สายฟรีก็อาศัยเล่นเกมนาน ๆ จนได้ไอเท็มหรือตัวละครเจ๋ง ๆ ส่วนสายเติมก็เอาเงินค่าขนมเติมเข้าไปในเกม แทนที่จะแลกไอเท็มได้ตรง ๆ ก็จัดให้มีกาชาปอง กล่องสุ่มซักหน่อย ซึ่งก็ถูกจริตชาวโลกตรงที่มันได้ลุ้นได้ตื่นเต้นนั่นเอง

ในปีที่ผ่านมาก็เกิดเกมชนิด Play to Earn หรือ GameFi ซึ่งกระแสมาแรงมาก ๆ นั่นคือการหาเงินจากการเล่นเกม โดยใช้คริปโทฯ เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน และใช้ NFT สำหรับซื้อขายตัวละคร หรือไอเท็ม ซึ่งล่าสุดสิ่งนี้ก็กลายเป็นส่วนสำคัญของ จักรวาลนฤมิต (Metaverse) ไปเป็นที่เรียบร้อย

มูลค่าของโทเคน Axie Infinity, Sandbox, Gala, Enjin และ Decentral Land ซึ่งเป็นเหรียญที่ใช้ในเกม กลายเป็นยูนิคอร์นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น


รูป มูลค่าของธุรกิจ Game ประเภท Play to Earn | ที่มา Coinmarketcap 1 ม.ค. 65

สิ่งที่แตกต่างก็คือเจ้าโทเคนเหล่านี้ไม่เหมือนกับการเติมเกมในยุคที่ผ่านมา เพราะมูลค่าโทเคนที่เพิ่มขึ้นสามารถแลกกลับมาเป็นเงินในกระเป๋าเราได้ และถ้าเล่นชนะก็อาจมีกำไรมากมายไม่ต่างกับการลงทุนในหุ้น หรือกองทุน

เท่ากับว่าได้สนุกกับการเล่นเกมส์ และสามารถทำเงินได้ด้วย งานนี้พ่อแม่ผู้ปกครองจะว่ายังไงถ้าลูก ๆ บอกว่าไม่ได้ติดเกมส์ แต่กำลังเล่นเกมส์เป็นอาชีพนะครับ

ปีสองปีที่ผ่านมาเรามักจะได้คำ DeFi หรือ Decentralized Finance ซึ่งหลัก ๆ ก็คือการการกู้ยืม Cryptocurrency กันโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างสมัยก่อน ทำให้ผู้กู้ก็สามารถจ่ายดอกเบี้ยไม่แพง ขณะที่ผู้ปล่อยกู้ก็ได้ Yield ที่มากขึ้น

กระแสเกม Play to Earn ก็มีหลักการคล้ายกันคือคุณต้องแลกเงินคริปโทฯ สกุลที่ใช้เล่นเกมนั้น ๆ ยิ่งเล่นนานก็ค่อย ๆ ได้ผลตอบแทนคืนมา และยิ่งถ้าเล่นชนะก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญคือแลกกลับมาเป็นเงินจริงได้ หรือบางทีในอนาคตอาจไม่ต้องแลกเป็นเงินจริง เพราะร้านค้าต่าง ๆ ก็รับชำระค่าสินค้าด้วยคริปโทฯ มากขึ้น

ส่วนที่น่ากลัวก็คือหลาย ๆ เกมผสมเรื่องการเสี่ยงโชค กาชา กล่องสุ่มเข้าไปเยอะมากจนแทบจะเป็นการเสี่ยงโชค มากกว่าการเล่นเกมนั้นมีเยอะมาก ๆ และหลาย ๆ เกมก็มีความเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือบางโปรเจกต์ก็เป็น Rug Pull คือหลอกเอาเงินคนเล่น แล้วพวกสายต้นน้ำกินเรียบก็มีอยู่เยอะมาก ๆ อันนี้ต้องระวังกันให้ดี

หากมองลึกลงไป GameFi นั้นมีทั้งส่วนประกอบของการได้สนุกกับการเล่นเกม การได้เสี่ยงโชค และการได้ลงทุนในเวลาเดียวกัน เท่ากับว่า 3 อุตสาหกรรมใหญ่ของโลกได้มาผนวกรวมกันอยู่ในที่เดียว ซึ่งผู้เขียนมองว่าจะเป็น Mega Trend ลูกใหญ่ในโลกที่นักลงทุนไม่ควรพลาด

FINTERTAINMENT มากจากคำว่า Finance + Entertainment พอกันทีกับการเงิน การลงทุนเป็นเรื่องซีเรียส เป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องไม่สนุก เพราะยุคต่อจากนี้การเงิน กับความสนุกมันได้กลายเป็นเรื่องเดียวกันแล้วจริง ๆ ครับ

FundTalk รายงาน