fundtalk-ioa-uber-moment

แอนโทนี่ เจนกินส์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบาร์เคลย์ ได้กล่าวไว้ว่าอุตสาหกรรมการเงิน และธนาคารกำลังเผชิญกับ Uber Moment ซึ่งหมายถึงการที่ฟินเทคจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบของบริการทางการเงินครั้งใหญ่ เปรียบเหมือนกับการที่ Uber เข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมรถแทกซี่ ซึ่ง IOA นี่ล่ะครับที่ผมเชื่อว่าจะเป็น Uber Moment ของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยต่อไป

IOA คือส่วนผสมระหว่างคำว่า Independent ซึ่งหมายถึงการแนะนำการลงทุนที่เป็นอิสระจากผู้ออกตราสาร ทำให้การจัดพอร์ตสามารถมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ Open Architecture คือการแนะนำการลงทุนที่สามารถเลือกจากกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคลที่มีทั้งหมดในประเทศไทย โดยมีความสะดวก ปลอดภัย เปิดเพียงบัญชีเดียวซื้อได้ทุกกองทุน ซึ่งแนวโน้มอุตสาหกรรม Wealth Management กำลังเติบโตในโมเดลธุรกิจแบบนี้

I = Independent

Independent ในที่นี้หมายถึงความอิสระจากผู้ออกตราสาร โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางสำนักงานกลต.ได้ออกเกณฑ์ส่งเสริมผู้ให้คำแนะนำการลงทุนที่เป็นอิสระ หลักการคือหากผู้แนะนำการลงทุน กับผู้ออกตราสารเป็นคนละหน่วยงานกัน ก็จะทำให้ผู้แนะนำการลงทุนสามารถเลือกหลักทรัพย์ หรือตราสารลงทุนที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อนักลงทุนได้

เมื่อเรามาดูตัวอย่างในต่างประเทศเช่นการกระจายตัวของผู้แนะนำการลงทุนในประเทศอังกฤษ เราจะพบว่าจำนวนผู้แนะนำการลงทุนส่วนใหญ่ถึงประมาณ 2 ใน 3 เป็นผู้แนะนำการลงทุนที่เป็นอิสระ ต่างกับกรณีของบ้านเราที่ส่วนใหญ่ผู้แนะนำการลงทุนจะสังกัดสถาบันการเงินผู้ออกตราสาร

ในอนาคตผมเชื่อว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหันมาทำอาชีพแนะนำการลงทุนมากขึ้น ให้คำแนะนำการลงทุนที่เป็นอิสระ ซึ่งแน่นอนจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่จะได้รับคำแนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพ

OA = Open Architecture

นิยามของ OA หรือ Open Architecture คือการที่สถาบันการเงินแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่ใช่เฉพาะที่สถาบันการเงินนั้น ๆ แต่ผู้ออก แต่นำเอาผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งสถาบันการเงินอื่น ๆ มาเสนอขายด้วย ซึ่งในต่างประเทศผู้แนะนำการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็น OA เกือบทั้งสิ้น ไม่ค่อยมีแล้วที่สถาบันการเงินจะเสนอขายแต่ผลิตภัณฑ์ที่ตนเองเป็นผู้ออก

ผลของ OA ในระยะยาวจะทำให้รายได้ของสถาบันการเงินไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์การลงทุนของตัวเองเป็นหลัก แต่การเติบโตของรายได้ของสถาบันการเงิน จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของคำแนะนำ และความพอใจที่นักลงทุนได้รับ ในอนาคตผมเชื่อว่าสถาบันการเงินไหนที่ต้องการสร้างธุรกิจ Wealth Management การทำ Open Architecture ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะต้องให้บริการกับลูกค้า ซึ่งล่าสุดทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็กำลังช่วยพัฒนาระบบ Fund Connect ซึ่งน่าจะกลายมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของ Open Architecture ของประเทศไทยในอนาคต

IOA – การแนะนำการลงทุนอย่างอิสระบนโครงสร้างแบบเปิด

ผมเชื่อว่า IOA – Independent Open Architecture หรือ “การแนะนำการลงทุนอย่างอิสระบนโครงสร้างแบบเปิด” จะเป็น Mega Trend สำหรับอุตสาหกรรมบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้กับนักลงทุน ดังนี้
ได้รับคำแนะนำการลงทุนที่ดีที่สุด โดยผู้แนะนำการลงทุนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดจากผลิตภัณฑ์กองทุนรวม รวมไปถึงหลักทรัพย์ประเภทอื่น ๆ โดยไม่ต้องมีเป้าในการขายจากการที่ต้องสังกัดกับสถาบันการเงินผู้ออกตราสาร

สะดวกมากขึ้น โดยการใช้ระบบ OA นั้น การเปิดบัญชีเพียงครั้งเดียวจะทำให้สามารถซื้อขายกองทุนของทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่มีในประเทศไทย

ข้อมูลการลงทุนจะเชื่อมต่อกับนักลงทุนบนโลกออนไลน์มากขึ้น โดยปัจจุบันที่คนไทยอ่านข้อมูลต่าง ๆ ผ่าน facebook และ LINE กันเยอะมาก ๆ ข้อมูลการลงทุนจะอยู่ในรูปของบทความรีวิว หรือคลิปวีดีโอสั้น ๆ ที่ย่อยง่าย และจะมีบริการแนะนำการลงทุนด้วยเทคโนโลยี (FinTech) เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

เมื่อมองไปในอนาคต บลน.อินฟินิติ มองว่านักลงทุนเองจะเริ่มมีการปรับพฤติกรรมการซื้อกองทุนผ่านสาขาของธนาคาร มาซื้อกองทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ซึ่งดำเนินธุรกิจบนแนวคิด IOA มากขึ้นอย่างที่เป็นในต่างประเทศ และคำแนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพ ที่สร้างผลตอบแทนเป็นที่พอใจของนักลงทุนจะเป็นกุญแจสำคัญของการดำเนินธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยต่อไป

ที่มาบทความ : http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/641719